ในขณะเดียวกัน วินาทีที่เขาถูกส่งตัวออกมา ตัวสำนึกสายแล้วสายเล่าที่เพ่งมาที่เขา และมีผู้คนมากมายเดินเข้ามาสอบถามชื่อของเขา และมีบางคนที่ต้องการให้เขานำป้ายประจำตัวออกมาดู
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หลัวซิวจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร และได้ปลดปล่อยพลังผลการฝึกตนของตัวเองออกมาในทันที
“แค่ผู้เยาว์ระดับราชาเทพขั้นหกเองหรอกหรือ?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงผลการฝึกตนในระดับราชาเทพขั้นหก ผู้คนที่พากันมุงอยู่รอบ ๆ หลัวซิวต่างพากันหมดความสนใจไป
“ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหนุ่มที่ชื่อซิวหลัวผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วกันแน่ นี่ก็ถูกส่งออกมาติดต่อกันสิบกว่าคนแล้ว กลับไม่มีเขาอยู่เลย”
“ผลคะแนนของเขาสามารถเอาชนะหยุนเทียนหยูได้ อย่างน้อยก็น่าจะมีผลการฝึกตนในระดับกึ่งมกุฎเทพ”
เมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนที่อยู่โดยรอบ หลัวซิวก็ได้แอบสบายใจลง โชคดีที่ผลการฝึกตนของตนไม่สูงนัก ไม่เช่นนั้นละก็หากให้คนอื่นรู้ว่าเขาก็คือซิวหลัวจริง ๆ เกรงว่าคงต้องมีเรื่องให้ปวดหัวไม่น้อยแย่
ตัวสำนึกสายแล้วสายเล่าที่ตกอยู่บนตัวเองเขาเองก็ได้หายไปเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าเนื่องจากเขามีผลการฝึกตนเพียงแค่ในระดับราชาเทพขั้นหก จึงถูกบรรดาผู้แข็งแกร่งจากกองกำลังต่าง ๆ ตัดออกไปจากความเป็นไปได้ว่าเขาก็คือซิวหลัว
หลัวซิวกวาดสายตาไปทั่วลาน ไม่นานก็ได้พบเข้ากับจีเสวียนคงที่กำลังมองตัวเองด้วยรอยยิ้ม ที่ข้างกายของจีเสวียนคง คือจีเสี่ยวจื่อที่ไม่รู้ว่าออกมาตั้งแต่เมื่อไร
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็ได้มองเห็นหงเฟย ส่วนหงเฟยเองก็ได้มองเห็นเขาเช่นเดียวกัน
ทอดถอนใจอยู่ภายในใจ หลัวซิวทราบเป็นอย่างดีว่านอกเสียจากตนเองจะช่วยหงเฟยฟื้นฟูความทรงจำ ไม่เช่นนั้นละก็ นางก็จะเป็นเพียงแค่หงเฟยไปตลอด ไม่สามารถฟื้นฟูสถานะของเหยียนเยว่เอ๋อร์ได้
“กระแสคลื่นที่เจ้าสร้างขึ้นนั้นไม่เบาเลยนะ”
เมื่อหลัวซิวได้มาถึงข้างกายของจีเสวียนคง อาจารย์ท่านนี้ของเขาได้ยิ้มจนหน้าบานเป็นกระด้งไปเสียแล้ว
ตอนที่ชื่อของหลัวซิวได้ข้ามรายชื่อของหยุนเทียนหยูขึ้นมาและหายไปทันที เขาเองก็เป็นกังวลอยู่เหมือนกัน แต่พอได้คิดดูในเวลาต่อมา ก็เข้าใจเจตนาของหลัวซิวขึ้นมาทันที เขาไม่เชื่อว่าศิษย์คนนี้ของตนจะได้ง่าย ๆ แบบนั้น
“เห็นหรือยัง นั่นก็คือหยุนเทียนหยู ศิษย์สืบทอดของหอยอดอัมพรแล้วอย่างไร? ยังไม่ถูกลูกศิษย์ของข้าเหยียบเอาหรอกหรือ?” สำหรับเรื่องที่หลัวซิวสามารถเหยียบหน้าของหอยอดอัมพรได้ จีเสวียนคงพึงพอใจยิ่งนัก
“อาจารย์ ความทรงจำของคนคนหนึ่งถูกลบล้างไป มันไม่มีวิธีที่จะฟื้นฟูอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีเสียทีเดียว ในโลกใบนี้มีดอกไม้ประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง มีชื่อว่าดอกสามภพสามารถทำให้คนมองเห็นอดีตชาติและอนาคตของตนเอง”
จีเสวียนคงเองก็ได้ทอดถอนใจออกมา “เพียงแต่ว่าดอกสามภพมีอยู่ในตำนานเท่านั้น ต้องการหามันให้พบนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไม่ไม่ได้เลย”
“ก่อนที่แดนเทวนิรันกาลจะเปิด เจ้าและเสี่ยวจื่ออยู่ที่นี่ไปก่อน รายชื่อของแดนเทวนิรันกาล ต่อให้เป็นตัวข้าเองก็เอามาได้แค่หนึ่งรายชื่อเท่านั้น ฝีมือของเสี่ยวจื่อนั้นด้อยกว่าเจ้ายิ่งนัก ดังนั้นรายชื่อนี้จะต้องทเป็นเจ้าอย่างแน่นอน”
เมื่อได้เห็นท่างทางเศร้าสลดของหลัวซิว จีเสวียนคงก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที และพูดถึงเรื่องแดนเทวนิรันกาลขึ้นมา
ลานที่เป็นทางเข้าของเส้นทางดารานั้นกว้างใหญ่มาก มีดวงดาวและสถานที่ฝึกประสบการณ์มากมาย
บางทีอาจเป็นเพราะผลคะแนนของหลัวซิวทำให้จีเสี่ยวจื่อเกิดการตื่นตัว ดังนั้นจีเสี่ยวจื่อจึงได้เอาแต่ทะลวงเส้นทางดาราในช่วงเวลาที่ผ่านมา อันดับรายชื่อในวันนี้ ได้บรรลุถึงอันดับที่สามสิบแปดแล้ว
สำหรับเรื่องที่ตนสามารถเอาชนะหยุนเทียนหยูและขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของอันดับราชาเทพได้นั้น หลัวซิวไม่ได้รู้สึกหยิ่งผยองเลยสักนิด เพราะเขาทราบเป็นอย่างดีว่าอันดับหนึ่งของมหาโลกายอดอัมพรนั้นมันไม่นับอะไร ทั่วทั้งจักรวาลมีอยู่ทั้งหมดสามพันมหาโลกา อันดับหนึ่งของมหาโลกายอดอัมพรเมื่ออยู่ในสามพันมหาโลกา กลายเป็นเรื่องไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึง ยิ่งไปกว่านั้นแล้วยังมีแปดโลกมหาพิภพที่อยู่เหนือสามพันมหาโลกา