มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 1941

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1941

เมื่อหลัวซิวขี่อสูรดูดจิตไปถึง เขาพบว่าชุดกระโปรงสีม่วงบนตัวจีเสี่ยวจื่อมีคราบเลือดติดอยู่เป็นจำนวนมาก ตรงหัวไหล่ของนางถูกฟันจนเกิดเป็นบาดแผลที่ดูสะดุดตา และมีเลือดสีแดงสดไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ถูกนักยุทธ์นับร้อยร่วมมือกันปิดล้อมไว้ ทำให้นางไม่สามารถอาศัยกฎปริภูมิเทเลพอร์ตและซ่อนตัว ยิ่งกว่านั้นคือนางไม่มีเวลาเอายารักษาตัวออกมากินได้เลยด้วยซ้ำ

เห็นได้ชัดเจนเลยว่าการยึดกุมกฎปริภูมิของจีเสี่ยวจื่อยังขาดความชำนาญการไม่น้อยเลย หากเปลี่ยนเป็นเขาที่มีกฎปริภูมิอยู่ในแดนขั้น 5 เหมือนกันละก็ คนนับร้อยนี้อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะแตะต้องปลายเล็บของเขาได้

“โฮกก!”

อสูรดูดจิตก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ส่งตรงมาจากเจ้านายอย่างหลัวซิวเช่นกัน มันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวทีหนึ่ง กรงเล็บทั้งแปดจึงข่วนไปทางวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศเหล่านั้น

ในขณะเดียวกัน เงาร่างของหลัวซิวก็หกระเหินเดินฟ้า ง้างมือขึ้นมาก็มีแสงหอกที่ยาวหลายร้อยเมตรปรากฏทันที

ทุกตำแหน่งที่แสงหอกเคลื่อนผ่าน ปริภูมิล้วนจะถูกทำลายจนแตกสลายเป็นฝุ่นผง ถึงกับทิ้งร่องรอยที่สะดุดตาไว้กลางฟ้าดิน ผ่านไปนานมากก็ไม่จางสลายหายไป

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ภายใต้พลังหอกดังกล่าวของหลัวซิว ทำให้ร่างกายของนักยุทธ์สามคนระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดคาที่ เหล่าผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ที่โดนควันหลงซัดกระหน่ำก็บาดเจ็บสาหัสภายในพริบตาเช่นกัน

“ผู้ช่วยของสตรีนั่นมาถึงแล้ว ทุกคนลงมือพร้อมกัน ฆ่าพวกมันซะ!”

มีนักยุทธ์สิบกว่าคนจากเหล่าวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศจำนวนมากพุ่งเข้ามารายล้อมหลัวซิวเอาไว้ การโจมตีจากพลังอมตะและของขลังอาวุธสงครามซัดกระหน่ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

หลัวซิวไม่ได้ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย ปีกเทพไร้มลทินที่อยู่ด้านหลังสยายออก ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขารวดเร็วปานแสงกระพริบ หลบการโจมตีทั้งหมดได้ภายในพริบตา จากนั้นก็พุ่งเข้าไปถึงศูนย์กลางหมู่คนในทันที

เขาใช้มือข้างหนึ่งกำหอกมังกรแดงมืด มีแสงเรืองกระพริบระยิบระยับตรงกลางฝ่ามือข้างซ้าย เขาได้ทำการกระตุ้นลูกแก้วความเป็นตายแล้ว

ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว มีพลังดูดกลืนวิญญาณที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกมาโดยที่มีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ยิ่งกว่านั้นคือพลังดังกล่าวประกอบเป็นระลอกคลื่นหนึ่งลูก ดูดซับแก่นชีวีในร่างกายของผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน

“พลังชีวิตของข้า……”

“นั่นมันของขลังอะไร?”

ทุกคนล้วนตกตะลึงพรึงเพริดภายในพริบตา เนื่องจากความเร็วที่แก่นชีวีไหลหายไปนั้นรวดเร็วมากเกินไป ผู้คนที่อยู่ใกล้ลูกแก้วความเป็นตายตอบสนองกลับมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผิวหนังก็เริ่มแห้งเหี่ยว แก่นชีวีไหลหายไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสาม

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จะยังมีคนกล้าลงมือโจมตีต่อได้อย่างไร ทุกคนล้วนเร่งความเร็วของตนเองขึ้นไปถึงขีดสุดอย่างสุดกำลังสามารถ อยากรีบหนีไปจากที่นี่

อย่างไรก็ตามหลัวซิวจะปล่อยให้คนพวกนี้หลบหนีไปง่าย ๆ ได้อย่างไร? โคจรกฎเวลาและปริภูมิพร้อมกัน อาณาจักรโซนคุมขังรวมไปถึงพลังอมตะลดเวลาแผ่คลุมทั่วทุกสารทิศ

“อ๊ากก! ……”

เสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาดังขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ภายในเวลาชั่วพริบตา วัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศสิบกว่าคนที่อยากพุ่งเข้ามารุมโจมตีหลัวซิวในเมื่อครู่นี้ ก็ล้วนกลายเป็นโครงกระดูกที่แห้งกรังแล้ว ชีวีดั้งเดิมล้วนถูกลูกแก้วความเป็นตายกลืนกินโดยสิ้นเชิง

อสูรดูดจิตอ้าปากกว้าง กลืนกินโครงกระดูกที่แห้งกรังเหล่านี้เข้าไปโดยตรง เนื่องจากถึงแม้ชีวีดั้งเดิมจะถูกลูกแก้วความเป็นตายยึดครองไปหมดแล้ว แต่ทว่าช่องจิตของคนเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ภายในร่างกาย

ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้ามาในแดนเทวนิรันกาลนั้น ทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมหาโลกาทั้งหลาย ผู้ที่แย่สุดก็สามารถใช้ผลการฝึกตนกึ่งมกุฎเทพต่อกรกับมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิได้อยู่

ทว่าอัจฉริยะขั้นสุดยอดประเภทนี้สิบกว่าคนร่วมมือกัน กลับถูกคนคนหนึ่งสังหารภายในเสี้ยววินาที นี่เป็นศักยภาพที่น่าสยดสยองมากเพียงใด?

นักยุทธ์ที่เหลือที่กำลังรุมโจมตีจีเสี่ยวจื่ออยู่ล้วนหยุดการโจมตีแล้ว จีเสี่ยวจื่อก็ใช้โอกาสนี้บินกลับมาข้างกายหลัวซิวเช่นกัน “ศิษย์พี่ ข้าสร้างปัญหาให้ท่านอีกแล้ว”

บนใบหน้าที่เรียวบางของจีเสี่ยวจื่อมีความรู้สึกผิดปนอยู่เล็กน้อย เนื่องจากบาดแผลบนหัวไหล่ จึงทำให้สีหน้าของนางก็ขาวซีดเล็กน้อยด้วย

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท