มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2053
หลังจากเทพธิดาฉีเมี่ยวหลุนตกตะลึงหนีหางจุกตูดไปแล้ว เมืองเทพสงครามก็เข้าสู่ช่วงเวลาที่ค่อนข้างเงียบสงบ
วรยุทธ์ของตระกูลเทพสงครามไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด มากสุดแค่สามารถฝึกถึงแดนเทพฟ้า มาตรแม้นว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจก็สามารถฝึกได้เช่นกัน แต่วรยุทธ์ระดับนี้ไม่มีทางดึงดูดให้ผู้อื่นอยากครอบครองได้เลยด้วยซ้ำ
ข้อมูลที่บันทึกอยู่ในวัฏสงสารไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิดหวังจริง ๆ หลัวซิวได้รับวรยุทธ์ภาคต่อจากวัฏสงสารจริง ๆ ทว่าเนื่องจากผลการฝึกตนของเขาอยู่ในแดนราชาเทพดังนั้นเขาจึงได้รับเพียงวรยุทธ์ของแดนราชาเทพ
วรยุทธ์ท่อนนี้ลึกลับและมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ดูเหมือนกับว่าเริ่มตั้งแต่แดนราชาเทพเป็นต้นไป ศักยภาพที่แท้จริงของตระกูลเทพสงครามถูกจะถูกเปิดออกโดยสิ้นเชิง ได้รับกำลังรบที่เกะกะระรานจนผู้คนไม่อาจจินตนาการได้
จากแดนยุทธ์ ณ ปัจจุบันของหลัวซิว หากพูดถึงความเข้าใจและความสามารถในการตระหนักรู้วรยุทธ์เคล็ดวิชา มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่ฝึกตนมาหลายแสนล้านปี ก็ใช่ว่าจะสามารถเทียบเคียงกับหลัวซิวได้เสมอไป
ต้องท้าวความก่อนว่าเขามีคลังสมบัติอย่างวัฏสงสารเชียวนะ นอกจากความลึกลับแห่งเกณฑ์ที่อยู่เหนือกฎฟ้าดินแล้ว เขาไม่มีวรยุทธ์พลังอมตะและเคล็ดวิชาประเภทใดบ้าง?
ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาตระหนักรู้ในวรยุทธ์ พลังอมตะ เคล็ดวิชาและพลังอมตะเคล็ดวิชาต่าง ๆ ไปมากเท่าไหร่ไม่รู้ ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในมหาโลกาพันสามของจักรวาลไม่แม้แต่จะเคยได้ยิน ยิ่งกว่านั้นคือยังมีวรยุทธ์จำนวนมากที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งแปดด้วย
เมื่อหลอมรวมวรยุทธ์เคล็ดเซียนจำนวนมากและแก่นสารของเคล็ดวิชาพลังอมตะเข้าด้วยกัน หลัวซิวถึงจะริเริ่มหมื่นจักรวาลไร้รูปออกมาได้ อีกทั้งกำหนดให้มันเป็นวิถียุทธ์ที่ตนจะฝึกในอนาคต
สามารถพูดได้เลยว่าหมื่นจักรวาลไร้รูปของหลัวซิวมีบ่อเกิดมาจากวัฏสงสาร แต่กลับอยู่เหนือวัฏสงสาร ยิ่งกว่านั้นคือเขาสามารถใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปมาวิวัฒนาการวัฏสงสารออกมาได้ด้วย
วิถีเช่นนี้ มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ดังเกริกก้องสั่นสะเทือนคนโบราณ และรุ่งโรจน์โชติช่วงมาจนถึงยุคปัจจุบัน มาตรแม้นว่าเป็นตัวมรณาเทพแห่งวัฏจักรชีวิตที่เคยพบเจอเรื่องราวต่าง ๆ มามาก ก็ไม่คิดว่าเขาสามารถฝึกมันสำเร็จ
หลัวซิวไม่ได้ส่งวรยุทธ์ภาคต่อของตระกูลเทพสงครามให้ซิงเฉินเรื่อยเปื่อย เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าซิงเฉินมีความระแวดระวังต่อเขา ถึงแม้เขาจะส่งซากกระดูกของท่านพ่อซิงเฉินกลับมาแล้ว แต่ก็ยังคงถูกหัวหน้าตระกูลยุคปัจจุบันของตระกูลเทพสงครามสันนิษฐานว่าเป็นคนมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่
เทพธิดาไท่ฉือไม่มีทางพูดจาไร้เป้าประสงค์ บางทีอาจจะมีของล้ำค่าลึกลับถูกเก็บรักษาอยู่ในตระกูลเทพสงครามจริง ๆ ถึงแม้ซิงเฉินจะตอบปฏิเสธไปแล้ว ทว่าหลัวซิวกลับมีการคาดการณ์ของตนเองอยู่
หลัวซิวไม่มีความโลภต่อของล้ำค่าของตระกูลเทพสงครามเลยแม้แต่น้อย ของล้ำค่าที่อยู่บนตัวเขามีมากพอแล้ว ต่อให้ของล้ำค่าของตระกูลเทพสงครามดีมากเท่าไหร่ แล้วจะเทียบเคียงกับสิ่งล้ำค่าแห่งเกณฑ์อย่างลูกแก้วความเป็นตาย ตำหนักวัฏสงสาร หินนิรันดร์และกระบี่ตรีภพได้หรือ?
ช่วงหลายวันที่หลัวซิวอยู่ในตระกูลเทพสงคราม ซิงเฉินก็ไม่เคยมารบกวนเขาเลยเช่นกัน ภาพภายนอกของทั้งเมืองเทพสงครามอยู่ในความสงบสุข
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็ตระหนักรู้ในวิถียุทธ์ได้บ้าง วางแผนที่จะยกระดับศักยภาพของสตรีทั้งสามนางที่อยู่ข้างกาย
หลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงราชาเทพแล้ว แดนกฎของหลัวซิวก็บรรลุถึงขั้น 6 ซึ่งไม่ใช่กฎใดกฎหนึ่งที่บรรลุถึงขั้น 6 เนื่องจากหมื่นจักรวาลไร้รูปของเขา พอจะพูดได้เลยว่าแทบจะสามารถวิวัฒนาการกฎทั้งปวงในฟ้าดินออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะปลดปล่อยกฎประเภทใดออก ก็ล้วนสามารถปลดปล่อยพลังของกฎขั้น 6 ออกมาได้
ในส่วนของกฎเพลิงอัคคีนั้น เนื่องจากมูลเหตุอัคคีเทพซิวหลัว ทำให้เขาสามารถปลดปล่อยอานุภาพของกฎขั้น 7 ออกมาได้
กฎขั้น 6 ไม่ใช่เรื่องน่าทึ่งอะไรสำหรับมกุฎเทพ เพราะมกุฎเทพทุกคนล้วนยึดกุมกฎที่ไม่ต่ำกว่าขั้น 6 ทว่าหลัวซิวกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เขาใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปสามารถหลอมรวมกฎ แล้วใช้กฎกระตุ้นปลดปล่อยพลังอมตะต่าง ๆ ออกมา พลานุภาพทวีคูณ ซึ่งสามารถปลดปล่อยพลานุภาพของกฎขั้น 7 ออกมาได้อย่างง่ายดาย