ดังนั้นเป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง คนกลุ่มหนึ่งจึงเลือกที่แยกกันออกปฏิบัติการ ต่างทิ้งม้วนหยกที่ใช้สำหรับการสื่อให้กันและกัน หากพบเจอความอันตรายหรือปัญหาอะไรละก็ จะได้ใช้ม้วนหยกเพื่อถ่ายทอดข้อมูลให้กันและกัน
ในส่วนของเรื่องที่ว่าจะได้รับโอกาสสมบัติอย่างไรนั้น เรื่องนี้ต้องดูโชคชะตาของตนเองอีกทีแล้วล่ะ
จีเสี่ยวจื่อสตรีทั้งสามนางไม่มีทางแยกจากกับหลัวซิวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แม้อุปนิสัยของจีเสี่ยวจื่อและหนิงหานยู่จะชอบวิ่งหนีไปทั่ว ทว่ากลับถูกหลัวซิวปฏิเสธภายในคำพูดเดียว
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มาตามหาโอกาสและสมบัติในทะเลสาบมังกรทองนั้น ล้วนมีผลการฝึกตนมกุฎเทพเป็นต้นไป ซึ่งในจำนวนนักยุทธ์ทั้งหมดไม่ขาดแคลนผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเทพขั้นสูงอย่างเซียวอัน ยิ่งกว่านั้นคือมีโอกาสมีเฒ่าประหลาดระดับกึ่งจ้าวมหาเทพเคลื่อนไหวด้วย
จากศักยภาพของสตรีทั้งสามนาง แม้จะสามารถต่อกรกับมกุฎเทพช่วงปลายได้ แต่หากได้ปะทะกับมกุฎเทพขั้นสูงจริง ๆ เช่นนั้นต้องเป็นอะไรที่อันตรายมากอย่างแน่นอน
“ตามข้ามา”
หลังจากแยกจากกับพวกเซียวอันแล้ว หลัวซิวก็พาจีเสี่ยวจื่อสตรีทั้งสามนางมุ่งหน้าเดินตรงไปยังทิศทางหนึ่ง
คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถมองทะลุความลึกลับและมหัศจรรย์ของทะเลสาบมังกรทอง แต่สำหรับหลัวซิวแล้ว มันกลับไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
เนื่องจากปลุกตื่นความทรงจำของไท่ซ่างฉิง ส่วนไท่ซ่างฉิงนั้นคือคนแบบใด? นั่นมันผู้แข็งแกร่งในยุคสมัยอันไกลโพ้นที่ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงด้านความปราดเปรื่อง พรสวรรค์และแดนกับเขาได้เชียวนะ เรียกได้เลยว่ามีความรู้ลึกซึ้งหลายแขนง
มากกว่านั้นคือสามารถพูดได้เลยว่าไท่ซ่างฉิงในอดีต แทบจะเดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของจักรวาลฟ้าดินนี้แล้ว แต่ทว่าวิถีของเขาถูกกำหนดไว้แล้ว อยากแสวงหาธรรมสูงสุดที่สมบูรณ์แบบมากกว่า เขาถึงได้วางแผนเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้ ใช้วิญญาณกลับชาติมาเกิด
ดังนั้นจึงสามารถพูดอย่างไม่ลังเลใจเลยว่าการตามหาสมบัติในทะเลสาบมังกรทอง ที่ใดมีสมบัติหรือไม่มีนั้น หลัวซิวสามารถมองออกได้ง่ายมาก ๆ
และเกาะแห่งนี้ก็ถูกนักยุทธ์จำนวนมากสืบค้น หลังจากหลัวซิวมาถึงที่นี่แล้ว จึงค้นพบบางจุดที่แตกต่าง
จีเสี่ยวจื่อสตรีทั้งสามนางปฏิบัติตามคำพูดของหลัวซิวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ภายใต้การนำพาของเขา พวกเขาเจอหุบเขาแห่งหนึ่ง บนผาชันสูงทั้งสองข้างของหุบเขา มีเส้นทางที่ทะลุถึงระหว่างกันอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมกับเสียงลมที่คำราม
หลัวซิวเลือกเส้นทางหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะพาสตรีทั้งสามนางเดินเข้าไป
เส้นทางดังกล่าวยาวมาก ๆ ถึงแม้จะสามารถแผ่ขยายตัวสำนึกออกไปได้เป็นหมื่นไมล์ ทว่ากลับสำรวจไม่ได้เลยว่าสุดปลายขอบเขตอยู่ที่ใด อักทั้งภายในเส้นทางยังมีออร่าที่ซับซ้อนมากมายคอยรบกวนการสำรวจของตัวสำนึก
แต่ทว่าในเมื่อหลัวซิวสามารถค้นพบสถานที่แห่งนี้ได้ บนเกาะมีคนมากมายเช่นนั้น คนอื่น ๆ ก็มีการค้นพบของตัวเองเช่นกัน มีพลังออร่าที่เกะกะระรานพลังหนึ่งปรากฏในขอบเขตกระแสสัมผัสตัวสำนึกของเขา
“ดูท่าน่าจะไม่ได้มีเพียงข้าเท่านั้นที่ค้นพบความลึกลับและมหัศจรรย์ของที่แห่งนี้”
หลัวซิวก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจต่อสิ่งนี้เช่นกัน ในโลกหล้านี้ก็ยังมีผู้มากความสามารถเยอะอยู่ อีกทั้งขอแค่ตั้งใจไม่ตามหามั่วซั่ว การที่จะค้นพบสถานที่แห่งนี้นั้น จึงไม่ใช่เรื่องยาก
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง พวกหลัวซิวก็มาถึงสุดปลายขอบเขตของเส้นทาง ข้างหน้ามีกำแพงหินที่เรียบลื่นปรากฏ ขวางเส้นทางของพวกเขาเอาไว้
“ทางตันแล้ว”จีเสี่ยวจื่อมองหารอบ ๆ และอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างรู้สึกสงสัย
“ท่านพี่พาพวกข้ามาที่นี่ทำไมหรือ ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนะเจ้าคะ?”หนิงหานยู่ก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
“ในเมื่อคุณชายพาพวกเรามา ท่านต้องมีหลักการของท่านแน่นอน”ฉียู่หรงที่อยู่ข้าง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เหอะ ๆ ยู่หรงพูดถูก นอกเสียจากว่ามีนักค่ายเทพมาถึงที่นี่ มิเช่นนั้นละก็การที่จะค้นพบอะไรบางอย่างนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายจริง ๆ”
หลัวซิวใช้นิ้วชี้ไปทางกำแพงหินที่ขวางอยู่ตรงหน้าแล้วพูด: “ภายนอกของกำแพงหินนี้ดูปกติมาก ๆ ทว่าแท้จริงแล้วมันคือค่ายกลต้องห้ามค่ายหนึ่ง หากเป็นจีเสี่ยวจื่อละก็ จะทลายค่ายกลนี้ได้โดยการอาศัยโจมตีอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทว่าจากศักยภาพของเจ้า อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองสามวันถึงจะทลายมันได้”