มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2373

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2373

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2373

นายแห่งเผ่าจี้ก็ทราบเช่นกันว่าในเมื่อมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนต่างเดินทางมาแล้ว เผ่าจี้จึงไม่มีทางเก็บวังเทียนหมิงไว้ในกำมือ ทันทีที่แตกหักกัน จากศักยภาพของมหาจักรพรรดิยุทธ์์ทั้งสองคน ต่อให้เผ่าจี้จะมีภูมิฐานเล็กน้อย ผลลัพธ์สุดท้ายก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องบอบช้ำทั้งสองฝ่าย

ปัจจุบันเผ่าจี้เริ่มมีการพัฒนา จึงแบกรับความเสียหายที่ยิ่งใหญ่มากเกินไปไม่ได้ ดังนั้นนายแห่งเผ่าจี้จึงไตร่ตรองครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากพูด “ในเมื่อมหาจักรพรรดิยุทธ์์ทั้งสองท่านเดินทางมาด้วยตนเองแล้ว เผ่าจี้ของข้าจึงยินดีพามหาจักรพรรดิยุทธ์์ทั้งสองท่านเข้าไปสำรวจในวังเทียนหมิงอยู่แล้ว”

“เหอะ ๆ เช่นนี้น่ะดีที่สุดแล้ว!”เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิดูพึงพอใจต่อคำตอบนี้ของเผ่าจี้มาก ๆ แต่ทว่าเสียงหัวเราะของเขาก็ยังทำให้ผู้อื่นรู้สึกมืดทึมน่ากลัวอยู่ดี

“ในเมื่อเผ่าจี้ตกลงแล้ว เช่นนั้นเวลาไม่เคยคอยท่า เราออกเดินทางกันตั้งแต่บัดนี้เลยเป็นอย่างไร?”ราวกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิอดใจรอไม่ไหวเล็กน้อย หันสายตาไปทางหลัวซิว “ศักยภาพของผู้น้อยหลัวไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิเทพ ออกเดินทางไปพร้อมกันเป็นอย่างไร?”

เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว หลัวซิวก็รู้แล้วว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิยังไม่ถอดใจต่อสมบัติสังสารวัฏที่อยู่บนตัวเขา แม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิที่อยู่ในช่วงเจริญเต็มที่ยังเข้าไปในวังเทียนหมิงไม่ได้เลย จึงสามารถจินตนาการได้เลยว่าภายในต้องอันตรายอย่างยิ่งแน่นอน สาเหตุที่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมินี่อยากลากตัวเขาไปด้วยนั้น ก็เพื่ออยากหาโอกาสกำจัดตัวเองทิ้งเท่านั้นแหละ แล้วแย่งสมบัติสังสารวัฏไป

“เหอะ ๆ มหาจักรพรรดิยุทธ์์เชื้อเชิญ ผู้น้อยจะปฏิเสธได้อย่างไรเล่า?”หลัวซิวหัวเราะเบา ๆ แล้วตอบตกลงอย่างเด็ดเดี่ยว

แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์์เทียบเท่าเทพมารระดับหก ถึงแม้ไพ่เด็ดของหลัวซิวจะมีเยอะก็ตาม แต่ต่อให้ร่างรวมกับอสูรดูดจิต มากสุดก็แค่สามารถเทียบทัดจักรพรรดิเทพขั้นสูง ซึ่งยังห่างไกลจากแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์์ไม่น้อยเลย

ทว่าหลัวซิวก็ยังกล้าตอบตกลง ต้องเป็นเพราะเขาก็มีความมั่นใจอื่น ๆ อยู่เช่นกัน เมื่อปีนั้นเขาได้รับพลังและเลือดสามหยดจากยักษ์อัสนีอย่างคาดิสลาร์ หากถึงช่วงเวลาที่จำเป็นจริง ๆ ก็ถึงคราใช้มันแล้วล่ะ

แม้บัดนี้มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิอยากเดินทางไปหุบเขาทุคติมาก ๆ แต่นายแห่งเผ่าจี้กลับไม่ได้ปฏิบัติตามความต้องการของเขาโดยสิ้นเชิง สุดท้ายทั้งสามฝ่ายปรึกษาและตกลงกันว่าอีกสิบปีภายหน้า ทุกคนค่อยเดินทางไปสำรวจในหุบเขาทุคติพร้อมกัน

ระยะเวลาสิบปี ไม่มีค่าอะไรสำหรับมหาจักรพรรดิยุทธ์์และจักรพรรดิเทพด้วยซ้ำ ข้อเสนอนี้ของเผ่าจี้ก็ไม่ถือว่าเกินเลยด้วย มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนไม่พอใจแต่กลับไม่ได้พูดอะไรมากนัก ก่อนจะพาจักรพรรดิเทพจำนวนมากที่อยู่ใต้บังคับบัญชาจากไป

หลังจากคนของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนจากไปแล้ว นายแห่งเผ่าจี้จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลัวซิวอย่างรู้สึกสงสัย เนื่องจากการกำหนดเวลาไว้ที่สิบปีภายหน้านั้น ก็เป็นสิ่งที่หลัวซิวใช้ตัวสำนึกส่งเสียงแจ้งเขา

ไม่ต้องให้นายแห่งเผ่าจี้สอบถาม หลัวซิวจึงอธิบายด้วยตนเอง: “ภายในวังเทียนหมิงมีภยันตรายอะไรกันแน่พวกเราไม่ทราบเลย แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิมีโอกาสเคยไปสูงมาก ๆ ทันทีที่เข้าไปอย่างบุ่มบ่าม เราต้องตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบมากอย่างแน่นอน”

“ปัจจุบันมีสถานการณ์ที่เกิดความวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น เผ่าจี้เพิ่งมีการพัฒนา จึงแบกรับกับความเสียหายที่ใหญ่หลวงมากเกินไปไม่ได้ ดังนั้นภายในเวลาสิบปีนี้เราต้องตักเตรียมทุกอย่างให้เพียบพร้อมที่สุด”

คำอธิบายของหลัวซิวสมเหตุสมผล แต่นายแห่งเผ่าจี้ก็ยังขมวดคิ้ว “มหาจักรพรรดิยุทธ์์ทั้งสองคนไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย นอกจากใช้ภูมิฐาน มิเช่นนั้นเผ่าจี้ก็ไม่สามารถต่อกรกับพวกมันได้เลย”

เรื่องภูมิฐานเป็นสิ่งที่กองกำลังทั้งหลายจะไม่แตะต้องง่าย ๆ หากต้องใช้ภูมิฐานเพื่อการสำรวจหุบเขาทุคติ เช่นนั้นฐานที่มั่นของเผ่าจี้ต้องไม่เหลืออะไรเลยอย่างแน่นอน หากมีกองกำลังอื่น ๆ จู่โจมเวลานี้ มันต้องเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเผ่าจี้แน่นอน

ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่า เขาจึงต้องพิจารณาทุกด้านอย่างละเอียดรอบคอบอยู่แล้ว

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท