มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2376
หากจะทำให้หุ่นเชิดจักรพรรดิเทพตัวหนึ่งมีกำลังรบระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์์ให้ได้จริง ๆ เช่นนั้นหุ่นเชิดตัวนี้ต้องแตกสลายภายในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างแน่นอน กลายเป็นฝุ่นผงแล้วสลายหายไป
ถึงแม้หลัวซิวจะยึดกุมฎีกาค่าย มีวิชาค่ายกลที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองในโลกหล้า ก็เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ตายตัวนี้ไม่ได้เช่นกัน
ทว่ามีวิธีการอย่างหนึ่งกลับสามารถทำให้หุ่นเชิดจักรพรรดิเทพมีกำลังรบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์์ อีกทั้งจะไม่แตกสลายภายในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งนั่นก็คือกลั่นแกนกลางหุ่นเชิดระดับสูงออกมา!
เมื่อไม่มีแกนกลางหุ่นเชิดที่แข็งแกร่ง เสี้ยววินาทีที่หุ่นเชิดจักรพรรดิเทพระเบิดกำลังรบออกมามันก็จะแตกสลายทันที แต่ถ้าเกิดมีแกนกลางที่แข็งแกร่งแล้ว เช่นนั้นก็จะสามารถประคองเวลาดังกล่าวได้ยาวนานขึ้น แม้นยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงโชคชะตาที่จะถูกทำลายได้เหมือนเคย แต่กลับสามารถเกิดประสิทธิผลเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญได้
และหลัวซิวก็คิดวัตถุดิบแกนกลางของหุ่นเชิดได้ตั้งนานแล้ว นั่นก็คือจากเศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองชิ้นอย่างหอยอดอัมพรและไม้เซียนยอดอัมพร รวมไปถึงชุดเกราะไม่สมบูรณ์ที่ถอดลงมาจากตัวญาณมรณะไร้เศียร
หอยอดอัมพรและไม้เซียนยอดอัมพรต่างเป็นเศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์ ซึ่งกลั่นมาจากวัตถุดิบเซียนระดับหก แต่ถ้าเกิดใช้วัตถุดิบเซียนระดับหกมากลั่นหัวใจสำคัญละก็ ยังไม่เพียงพอมาก ๆ แต่ชุดเกราะที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนชุดนั้นกลับสามารถทดแทนตรงจุดนี้ได้ เนื่องจากแม้นชุดเกราะชุดนั้นจะพังเสียหายไปแล้ว แต่วัตถุดิบของมันกลับเป็นเหล็กเซียนระดับเจ็ด!
สามารถกลั่นแปรเผาชุบเหล็กเซียนระดับเจ็ดได้ด้วยเกณฑ์แห่งอัคคีเท่านั้น หลัวซิวจึงไปตามหาหนิงหานยู่ เพื่อขอยืมหินนิรันดร์ เพื่อใช้เกณฑ์นิรันดร์ที่แฝงซ่อนอยู่ภายในมาผนึกรวมเพลิงอัคคี แล้วมาหลอมเกราะเทพที่ไม่สมบูรณ์นี้
เวลาล่วงเลยไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ระยะเวลาผ่านพ้นไปอีกสามปี ช่วงเวลาที่เผ่าจี้นัดหมายกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนก็ใกล้จะถึงแล้ว
มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนมาถึงตามคำนัดหมาย ทุกคนต่างพาผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพมาด้วยหลายคน
ก่อนถึงวันนัดหมายไม่กี่เดือน หลัวซิวก็กลั่นหุ่นเชิดจักรพรรดิเทพทั้งสามตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาใช้ระยะเวลาที่เหลือมาปรับฟื้นฟูสภาวะของตนเอง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังหุบเขาทุคติ เขาจำเป็นต้องทำให้ตัวเองฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาวะที่ดีเลิศที่สุด
……
ตำแหน่งที่ตั้งของหุบเขาทุคติถูกเผ่าจี้ปิดผนึกไปแล้ว คนกลุ่มหนึ่งที่มีนายแห่งเผ่าจี้ มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนทั้งสามคนเป็นผู้นำได้เดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าว
ในอดีต แดนหุบเขาทุคติจะถูกเปิดออกหนึ่งครั้งในทกุ ๆ พันปี นั่นก็เป็นเพราะด้านนอกของแดนปริศนาแห่งนี้มีค่ายกลต้องห้าม
แต่ทว่าสำหรับผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพหลายคนแล้ว การใช้อำนาจเปิดทางเข้าหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด และยิ่งไม่ต้องให้คนอื่นลงมือด้วยซ้ำ มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิง้างมือปล่อยฝ่ามือหนึ่งออกไป กฎความตายที่ซัดสาดก็ฉีกกระชากปริภูมิ ก่อนที่ปริภูมิทางเข้าสีดำสนิทหนึ่งจะปรากฏตรงหน้าผู้คน
มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เงาร่างกระพริบทีหนึ่ง เขาก็เป็นคนแรกที่เข้าไปก่อน ถัดจากนั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียน นายแห่งเผ่าจี้รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพคนอื่น ๆ ก็ต่างพากันเคลื่อนตัว เดินเข้าไปในหุบเขาทุคติตามกัน
ในบรรดาจักรพรรดิเทพทั้งหลาย สามารถพูดได้เลยว่าหลัวซิวเป็นผู้ที่โดดเด่นมากที่สุด ผลการฝึกตนแค่ระดับมกุฎเทพ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเดินอยู่ด้านหลังสุด
“เจ้าเด็กเดรัจฉาน ทางที่ดีมึงภาวนาให้ตัวเองโชคดีไว้ก่อนจะดีกว่า หลังจากเข้าไปแล้วอยากตกอยู่ในกำมือกูเด็ดขาด!”ขณะที่เดินเข้าไป อี้ซิวเชิงจากสำนักจักรพรรดิมรณะก็กวาดมองหลัวซิวด้วยสายตาที่เยือกเย็นรอบหนึ่ง พลางพูดพร้อมกับจิตสังหารที่เข้มข้น
เมื่อสิบปีก่อนเขาถูกหลัวซิวโจมตีจนกระเด็นออกไปแล้วกระอักเลือดหน้าตำหนักใหญ่เผ่าจี้ อี้ซิวเชิงมองว่านั่นเป็นความอัปยศอดสูที่สุดในชั่วชีวิตนี้ จึงต้องรู้สึกโกรธเกลียดหลัวซิวมาจากก้นบึ้งหัวใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ต้องสังหารหลัวซิวเขาถึงจะสุขใจ
“ไอ้แก่ ดูท่ามึงไม่มีการพัฒนาการที่ดีขึ้นเลยนะ แม้แต่บรรพอาจารย์มหาจักรพรรดิยุทธ์์ของพวกมึงยังต้องเกรงใจต่อกู มึงก็แค่หมาตัวหนึ่งที่เป็นเบื้องล่างของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเท่านั้นแหละ ก็มีสิทธิ์มาเห่าต่อหน้ากูอย่างนั้นหรือ?”หลัวซิวยิ้มเยาะอย่างเยือกเย็น