มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2378

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2378

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2378

รถรบคันนี้ไม่ใช่ของขลังชีวีของมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียน แต่เป็นสมบัติที่มหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนยุคก่อนทิ้งไว้ มหาโลกาจ้านเทียนเคยมีมหาจักรพรรดิยุทธ์์บังเกิดสองยุค ภูมิฐานจึงลึกซึ้ง ไม่ธรรมดา

เหล่าจักรพรรดิเทพจากสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนพากันกระโดดขึ้นรถรบ และไม่ได้ทักทายคนในเผ่าจี้เช่นกัน คำรามครั้งหนึ่ง ก่อนจะพุ่งเข้าไปในชี่ทมิฬจิ่วโยว

นายแห่งเผ่าจี้ไม่ได้หุนหันพลันแล่น แต่เป็นการมองไปทางหลัวซิว เนื่องจากเผ่าจี้ทราบสถานที่แห่งนี้เพราะหลัวซิวเป็นคนบอกพวกเขา อีกทั้งบนตัวหลัวซิวเปี่ยมล้นไปด้วยความลับ นายแห่งเผ่าจี้ไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาเป็นผู้น้อยคนหนึ่ง เพียงเพราะผลการฝึกตนของเขาต่ำ

“เจ้าเผ่านำอาวุธเทพระดับหกมาด้วยหรือไม่?”หลัวซิวถาม

“แน่นอนอยู่แล้ว แม้นเผ่าจี้ของเราจะเสื่อมถอยลงไปนานมาก ๆ แล้ว แต่อาวุธเทพระดับหกนั้น ก็มีสองสามชิ้นอยู่”นายแห่งเผ่าจี้พยักหน้าพลางพูด

ซึ่งอาวุธเทพระดับหกก็คือเศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์นั่นเอง ในมหาโลกาพันสาม การที่ตระกูลสำนักจักรพรรดิทั่วไปมีหนึ่งถึงสองชิ้นก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่มาตรแม้นเผ่าจี้จะตกต่ำถึงขั้นนี้ ภูมิฐานที่เหลือก็มีสมบัติระดับนี้สองสามชิ้นอยู่

แต่หลัวซิวกลับทราบอยู่ว่าภูมิฐานที่เก่งกาจที่สุดของเผ่าจี้ไม่ใช่อาวุธเทพระดับหก แต่เป็นรูปปั้นบรรพบุรุษ บรรพบุรุษในอดีตของเผ่าจี้ล้วนทิ้งรูปปั้นเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นที่สังหารจักรพรรดิเทพหอยอดอัมพรที่ผ่านมา หรือรูปปั้นที่จี้หยวนฉงนำไปแท่นบูชาเทพมาร ต่างไม่ใช่รูปปั้นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุด เผ่าจี้มีรูปปั้นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งหมดหกรูป โดยแบ่งออกเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอดีตของเผ่าจี้ ต่างบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์์ระดับเก้า

ยกตัวอย่างเช่นจี้หวูชวง อดีตยิ่งเคยบรรลุถึงกึ่งผู้สูงส่งนอกจากผลการฝึกตนบรรลุไม่ถึงแดนผู้สูงส่งแล้ว แดนวิถีดาบของนางก็บรรลุถึงระดับผู้สูงส่งแล้ว ในยุคสมัยนั้นนางแทบจะถูกเรียกว่ามหาวิถีดาบ

รูปปั้นที่จี้หวูชวงทิ้งไว้มีการปลุกเสกด้วยปณิธานในอดีตของนาง ทันทีที่ถูกใช้งาน มันก็จะเป็นพลังอันแข็งแกร่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทุกอย่างในมหาโลกาพันสามได้อย่างแน่นอน

อาวุธเทพระดับหกที่นายแห่งเผ่าจี้เรียกออกมานั้น เป็นอาวุธที่มีรูปร่างลักษณะพระจันทร์สีเงินชิ้นหนึ่ง พระจันทร์เต็มดวงที่มีรัศมีสีเงินแย้มบานลอยอยู่เหนือศีรษะผู้คน รัศมีอันสว่างไสวที่สาดส่องลงมาทำให้ชี่ทมิฬจิ่วโยวที่มีแรงกัดกร่อนอันทรงพลังถูกต้านทานอยู่ด้านนอก

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง กลุ่มคนฝั่งเผ่าจี้ก็มาถึงหน้าประตูใหญ่วังเทียนหมิงแล้ว พบว่าคนจากมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

ราวกับมหาจักรพรรดิยุทธ์์ทั้งสองคนนี้มีการเตรียมตัวตั้งแต่แรกแล้ว ในบรรดาจักรพรรดิเทพสิบกว่าคนที่ติดตามมาด้วย มีคนเดินออกมาสามคน ภายใต้การคุ้มกันจากมหาจักรพรรดิยุทธ์์ทั้งสองคน ทั้งสามคนนั้นก็นั่งท่าขัดสมาธิ มือประสานอิน กำลังอนุมานค่ายกลของวังเทียนหมิง

“มหาปรมาจารย์ค่ายเทพสามคน!”นายแห่งเผ่าจี้หรี่ตาลง ภายในเผ่าจี้ไม่มีนักค่ายเทพระดับนี้หรอกนะ

แม้ปัจจุบันหุบเขาทุคติจะเป็นอาณาบริเวณในนามเผ่าจี้ แต่เมื่อมาถึงที่นี่จริง ๆ ผู้ที่เป็นฝ่ายยึดกุมอำนาจกลับไม่ใช่ฝังเผ่าจี้

“ท่านผู้อาวุโสไม่ต้องเป็นห่วง หากเป็นเพียงนักค่ายเทพระดับมหาปรมาจารย์ ยังไม่สามารถทลายค่ายกลของสถานที่แห่งนี้ได้”หลัวซิวกลับพูดอย่างแน่วแน่มาก ๆ

นายแห่งเผ่าจี้เชื่อมั่นในคำพูดของหลัวซิวอย่างลึกซึ้งเลย แต่ทว่าภายในจิตใจก็ตึงเครียดเล็กน้อยเช่นกัน หากแม้แต่มหาปรมาจารย์ค่ายเทพยังทลายไม่ได้ เช่นนั้นก็หมายความว่าระดับค่ายกลของสถานที่แห่งนี้อยู่สูงกว่าระดับหกหรือ?

คนจากทั้งสามฝ่ายต่างนิ่งเงียบ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ทุกคนจึงดูมีความอดทนอย่างเห็นได้ชัด

แต่ทว่าจากการที่เวลาค่อย ๆ ผ่านพ้นไป สีหน้าของเหล่ามหาปรมาจารย์ค่ายเทพก็ยิ่งอยู่ยิ่งย่ำแย่ลง จากนั้นสีหน้ายิ่งขาวซีดลงไป มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก

อั่ก!

ทันใดนั้นเอง ผู้อาวุโสทั้งสามคนก็กระอักเลือด แล้วถอยหลังกลับไปอย่างต่อเนื่อง

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท