มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2394
สำหรับหลัวซิว สามารถทำให้ดาราจักรวาลที่กว้างใหญ่มหาศาลเช่นนี้พลังทลายจนอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเกิดจากการเข่นฆ่ากันระหว่างผู้แข็งแกร่งวิถีมารและภูตสวรรค์
ทั้งหมดนี้มันไม่ได้มีการจดบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้หลัวซิวจึงทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น
ถึงแม้ว่าทรัพยากรของมหาโลกาพันสามจะขาดแคลนอยู่มากเมื่อเทียบกับโลกมหาศักดิ์ แต่ก็มีโอกาสและโชคลาภอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นวังเทียนหมิงหรือแท่นบูชาเทพมารเป็นต้น ถึงอย่างไรภายในแปดโลกมหาศักดิ์ ก็คาดว่าน่าจะมีไม่มาก
ชั่วกาลเวลาเนิ่นนานที่ผ่านพ้นไป แดนปริศนาและสถานที่อันตรายมากมายที่อยู่ในมหาโลกาพันสามต่างถูกขุดขึ้นมาทั้งหมด หลัวซิวได้รับม้วนหยกหนึ่งม้วนมาจากเผ่าจี้ ด้านในสลักภาพแผนที่โดยสังเขปของมหาโลกาพันสามเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับการออกไปฝึกประสบการณ์และล่าสมบัติอีกด้วย
ตามสถานการณ์ของตณ ไม่นานหลัวซิวก็สามารถตัดสินใจออกมาได้ วางแผนที่จะไปที่ใกล้ที่สุดอย่างเขาเก้าภูติก่อน เพราะที่เขาเก้าภูติแห่งนี้ยาเซียนชนิดหนึ่งอยู่ ชื่อว่าหญ้ามังกรไตรรงค์ และหญ้ามังกรไตรรงค์นี้ ก็คือยาหลักในการกลั่นยาเซียนกลั่นร่างระดับเจ้ายุทธจักรชั้นกลาง
หลังจากผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงแดนมกุฎเทพขั้นสาม ร่างยุทธ์ร่างเนื้อผ่านบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ก็เข้าใกล้การบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพขั้นสี่อีกหนึ่งก้าว ยาเซียนกลั่นร่างระดับเจ้ายุทธจักรชั้นกลาง ช่างเหมาะสมเสียยิ่งกว่าสิ่งใด
เขาเตรียมตัวที่จะทำให้ร่างเนื้อของตนชุบร่างถึงระดับจ้าวมหาเทพขั้นหกเสียก่อน เพราะมีเพียงร่างเนื้อที่ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น จึงจะทำให้ร่างกายของเขาสามารถรองรับพลังงานที่แข็งแกร่งมากขึ้น ครอบครองพลังรบที่ทรงพลังขึ้นได้
ร่างญาณและวิญญาณ คือรากฐานของโลกยุทธ์ ถึงแม้หลัวซิวจะอยากบรรลุแดนผลการฝึกตนที่สูงขึ้นให้ได้เร็วที่สุด แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของรากฐานมากกว่า เพราะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้น เขาจึงจะสามารถครอบครองศักยภาพที่สูงขึ้นได้ในอนาคต กระทั่งสามารถก้าวข้ามผ่านความสำเร็จในชาตินั้นของไท่ซ่างฉิงได้
……
หลังจากออกมาจากเผ่าจี้ หลัวซิวก็ทิ้งม้วนหยกม้วนหนึ่งเอาไว้ให้จ้าวแห่งเผ่าจี้ ม้วนหยกนี้มีผนึกตราประทับของเขาอยู่ ไม่ว่าตัวเขาจะอยู่แห่งหนใดก็ตาม ถ้าหากทางเผ่าจี้เกิดเรื่องใดที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา เพียงแค่จ้าวแห่งเผ่าจี้บดขยี้ม้วนหยกนี้ เขาก็จะสามารถรับรู้ได้ในทันที
“ยาทิพย์เม็ดนี้ จงอย่าให้ผู้ใดใช้มันเป็นอันขาด” ก่อนจะไป หลัวซิวกล่าวเตือนจ้าวแห่งเผ่าจี้ไว้ ยาทิพย์ในขวดหยกสีแดงที่ได้รับมาจากวังเทียนหมิง คือยาพิษเม็ดหนึ่ง!
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ จ้าวแห่งเผ่าจี้ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าหลัวซิวคือนักยาเซียนที่เหนือชั้นผู้หนึ่ง ในเมื่อเขากล่าวมาเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่การพูดกล่าวขึ้นมาลอย ๆ เป็นแน่
ยาพิษหนึ่งเม็ดอยู่ในมือ ในใจของจ้าวแห่งเผ่าจี้ก็รู้สึกหวาดหวั่นอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายจึงนำขวดหยกสีแดงออกมา ส่งให้กับหลัวซิวไปจัดการ
และนี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่หลัวซิวต้องการ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด รับขวดหยกสีแดงมาเก็บไว้ ประสานมือคารวะ จากนั้นก็เหาะขึ้นไปในอากาศ ออกจากแดนปริศนาเผ่าจี้
ที่บอกว่ายาทิพย์ในขวดหยกนี้คือยาพิษเม็ดหนึ่ง หลัวซิวก็ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แต่ถ้าหากจะให้พูดออกมาให้ถูกต้องชัดเจนคือ นี่ไม่ใช่ยาพิษเม็ดหนึ่ง แต่เป็นยาเซียน!
เพียงแต่ยาทิพย์เม็ดนี้ ต้องดูว่าใช้มันกับผู้ใด หากเป็นคนที่ใช่กินเข้าไป ก็สามารถเพิ่มพลังได้มหาศาล ผลการฝึกตนเติบโตขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่หากคนที่ไม่ใช่กินมันเข้าไป นั่นก็คือยาพิษที่ร้ายแรงถึงชีวิต กินแล้วต้องตายสถานเดียว!
คัมภีร์โอสถที่หลัวซิวครอบครองนั้นคือฉบับสมบูรณ์ สามารถกล่าวได้ว่าในด้านวิถียา ทั่วทั้งดาราจักรวาลไม่มีใครสามารถเหนือชั้นไปกว่าเขาแล้ว หลังจากที่เขากลับออกมาจากหุบเขาทุคติ ก็เคยหาเวลาเพื่อวิเคราะห์ยาทิพย์ภายในขวดหยกสีแดงนั้นโดยเฉพาะ
สุดท้ายเขาก็ได้บทสรุปออกมาหนึ่งอย่าง ยาทิพย์เม็ดนี้ มีเพียงผู้ที่ฝึกตนวรยุทธ์เฉพาะเจาะจงเท่านั้น จึงจะสามารถใช้มันได้ ตามเบาะแสภายในวังเทียนหมิง สิ่งที่เรียกว่าวรยุทธ์เฉพาะเจาะจงนั้น น่าจะเป็นเคล็ดวิถีทมิฬเวหากาล