มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2453
เขากำหินบรรพไท่ชูเอาไว้ เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าอนาคตหากอยากให้เมิ่งเสี้ยและเทียนหย่งกลับมาจากวัฏสงสาร เขายังต้องเดินบนเส้นทางของตัวเองอีกยาวไกลมาก ๆ อย่างน้อยหากจะทำเช่นนี้ได้นั้น เขาต้องอยู่เหนือภพชาติของไท่ซ่างฉิงก่อน
ไท่ซ่างฉิงทลายกงล้อวัฏจักรธรรมจนแตก แท้จริงแล้วเมื่อพูดจากความหมายบางอย่าง เขาก็มีพลังที่สามารถทำให้วัฏสงสารสั่นคลอนได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเพราะเหตุนี้ไท่ซ่างฉิงก็ต้องสูญเสียชีวิตทั้งหมดเช่นกัน หากอยากหลุดพ้นและอยู่เหนือวัฏสงสาร เขายังจำเป็นต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากกว่านี้
โคจรวรยุทธ์ ไร้ลักษณ์กำเนิด ออร่าดั้งเดิมของหินบรรพไท่ชูถูกดึงดูดออกมา หลอมรวมเข้ามาในร่างกายหลัวซิว
ออร่าดั้งเดิมประเภทนี้ถูกเรียกว่าชี่บรรพไท่ชู แค่พลังเสี้ยวหนึ่งที่มีชี่บรรพไท่ชูแฝงซ่อนอยู่ ก็บริสุทธิ์เข้มข้นมากกว่าโอสถแก่นแท้ระดับห้า 50 ล้านเม็ดเลย
หลัวซิวสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าผลการฝึกตนของตัวเองเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียงสองเดือนกว่า ผลการฝึกตนของเขาก็ทลายพันธนาการ ก้าวเข้าสู่แดนมกุฎเทพขั้น 7
อีกทั้งชี่บรรพไท่ชูก็มีประสิทธิผลที่ดีเลิศต่อการกลั่นร่างเช่นกัน ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาผ่านการล้างบาปโดยชี่บรรพ เหมือนดั่งลอกคราบใหม่ จึงบรรลุถึงแดนมกุฎเทพขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย!
โครมคราม……
นอกแดนเทวนิรันกาลมีเมฆครึ้มปกคลุมอยู่จำนวนมาก แสงอัสนีผ่าสลับไปมา เนื่องจากผลการฝึกตนของหลัวซิวบรรลุ ดังนั้นทัณฑ์สายฟ้าพิโรธจึงย่างกรายมาถึง
ทว่าเนื่องจากแดนเทวนิรันกาลตัดขาดกับโลกภายนอก ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธล้วนถูกต้านทานอยู่ด้านนอก แม้นพลานุภาพของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธนี้จะทรงพลังมาก แต่ก็ทลายผนึกที่จักรพรรดิเทพเทียนหย่งทิ้งไว้ในอดีตไม่ได้เช่นกัน
หลัวซิวอาศัยชี่บรรพไท่ชูที่อยู่ภายในตำหนักไท่ซ่างยกระดับผลการฝึกตน ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีก็ได้รับโอกาสสมบัติจำนวนมากในตำหนักเทียนหย่งเช่นกัน
แต่พวกเขาทั้งสองก็ค้นพบปัญหาที่แปลกประหลาดเช่นกัน นั่นก็คือหลัวซิวหายตัวไปแล้ว พวกเขาตามหาทั่วทุกมุมตำหนักเทียนหย่งแล้ว แต่กลับไม่พบร่องรอยของหลัวซิวเลยแม้แต่น้อย
นี่จึงทำให้ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีต่างคาดคะเนว่าตำหนักใหญ่ที่พวกเขากำลังอยู่ น่าจะไม่ใช่ทั้งหมดของตำหนักเทียนหย่ง ที่นี่ต้องมีเขตที่ถูกซ่อนเร้นอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งหลัวซิวมีโอกาสอยู่ที่นั่นสูงมาก!
ฝึกตนอย่างไร้สุริยันจันทรา หลัวซิวเพลิดเพลินอยู่กับการเลื่อนขั้นยกระดับโดยสิ้นเชิง หารู้ไม่ว่ากาลเวลาของโลกภายนอกผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายสิบปีแล้ว
ตั้งแต่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิออกมาจากวังเทียนหมิงเป็นต้นมา สำนักจักรพรรดิมรณะก็เริ่มแผ่ขยายอำนาจของตัวเองอย่างรวดเร็ว ถึงแม้มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะปิดขังไปแล้วก็ตาม เปิดเผยตัวน้อยมาก ๆ ทว่าภายใต้อำนาจบารมีไร้รูปของมหาจักรพรรดิยุทธ์ สำนักจักรพรรดิมรณะใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ก็ปราบปรามกองกำลังอื่น ๆ ในมหาโลกะมรณะให้อยู่ในความสงบได้แล้ว
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้นสำนักจักรพรรดิ ตระกูลมหาจักรพรรดิยุทธ์จะเป็นกองกำลังที่มีภูมิฐานและศักยภาพแข็งแกร่งที่สุดในมหาโลกาใบหนึ่ง แต่ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ที่มหาโลกาใบหนึ่งเป็นเอกภาพ เนื่องจากหากตระกูลสำนักจักรพรรดิทำเกินไปละก็ มีเพียงจะก่อให้เกิดการดีดกลับที่รุนแรงมาก
ทว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิกลับทำเช่นนั้น ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น หลังจากพวกเขาทำให้มหาโลกะมรณะเป็นเอกภาพ และยิ่งมีความคิดที่จะแผ่ขยายอำนาจของตนไปยังมหาโลกาที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ต่อ
นี่จึงทำให้ทุกคนล้วนเข้าใจความทะเยอทะยานอันแรงกล้าของสำนักจักรพรรดิมรณะ ตั้งแต่โบราณกาลมายังไม่เคยมีตัวอย่างที่มหาโลกาพันสามถูกควบคุมให้เป็นเอกภาพมาก่อน นี่สำนักจักรพรรดิมรณะกำลังจะทำเลวอย่างไม่แยแสต่อเสียงคัดค้านของผู้คนอยู่!
ไม่เพียงแค่ฝั่งมหาโลกะมรณะเท่านั้น มหาโลกาอื่น ๆ ก็มีความวุ่นวายอันเกิดจากภัยสงครามปรากฏอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน สถานภาพในโลกหล้ามีแนวโน้มไปในทิศทางที่ชัดเจน ยากที่จะคาดเดาอุปสรรคต่าง ๆ ได้
ฝั่งมหาโลกายอดอัมพร เผ่าจี้แผ่ขยายอำนาจของตัวเองด้วยจังหวะก้าวที่สุขุมมาโดยตลอด สั่งสมภูมิฐาน หลังจากหัวหน้าตระกูลซิงเฉินบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพแล้วก็ออกจากการปิดขัง และปฏิบัติตามความตั้งใจของหลัวซิว นำพาคนในตระกูลออกจากแดนปริศนาเผ่าจี้ อีกทั้งออกจากดารายอดอัมพร