มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2457
เขาไม่มีทางคิดอยู่แล้วว่านี่คือฝีมือของชีชี เช่นนั้นก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแล้วล่ะว่าเป็นฝีมือของหลัวซิวที่อยู่ด้านใน
พลานุภาพของค่ายเทพระดับห้าเทียบเท่าการลงมือโจมตีของจักรพรรดิเทพทั่วไปแล้ว ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็เรียกมารดาเตาผืนทองออกมาเป็นเวลาแรกเช่นกัน
ตู้มม!
พลังที่น่ากลัวม้วนซัดออกไปทั่วทุกสารทิศ ภายใต้การม้วนซัดจากควันหลงที่บ้าระห่ำ ทำให้เขตพื้นที่บริเวณโดยรอบหลายหมื่นไมล์ล้วนกลายเป็นอนัตตา ถูกทำลายล้างจนไม่เหลือชิ้นดี
ภายใต้การป้องกันจากมารดาเตาผืนทอง ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย เงาร่างของหลัวซิวปรากฏด้านหน้า แล้วค่อย ๆ ก้าวเดินตรงมาอย่างสุขุมเรียบนิ่ง
“เหตุใดจึงต้องทำลายไมตรีดี ๆ ระหว่างเราด้วยเล่า?”หลัวซิวกวาดตามองลิ่งฮู๋จื่อเซวียนรอบหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นชีชีที่ถอยออกไปไกลและเรียกขิมเก้าบรรเลงอาดูรออกมาแล้วเช่นกัน ใบหน้าที่เรียวบางมีความระแวดระวังปนอยู่พลางจ้องมองมาทางตนเอง
“มารดาเตาผืนทองเป็นของล้ำค่าชิ้นหนึ่งจริง ๆ ทว่าก็ต้องดูก่อนว่ามันอยู่ในมือผู้ใด หากสหายลิ่งฮู๋มองว่ามันเป็นที่พึ่งพิง เกรงว่าเจ้าคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ”
หลัวซิวหรี่ตาลง เสี้ยววินาทีที่ยังไม่ทันสิ้นเสียงเขา จู่ ๆ เงาร่างเขาก็หายวับไปกับที่
ตัวลิ่งฮู๋จื่อเซวียนเองก็ฝึกกฎเวลาเช่นกัน เสี้ยววินาทีที่หลัวซิวหายตัวไป เขาก็เริ่มโคจรกฎเวลาแล้ว จนบริเวณรอบกายตัวเองประกอบเป็นอาณาจักรลดเวลา
แต่อาณาจักรกฎเวลาของเขาถูกวิถีไร้ลักษณ์ของหลัวซิวทลายไปได้อย่างง่ายดาย วิถีไร้ลักษณ์ของเขาสามารถเสกสรรปั้นเท็จวิวัฒนาการกฎทั้งปวงในจักรวาลฟ้าดินออกมา ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้สิ่งหนึ่งคงอยู่จนดับหายไป ทำให้กฎทั้งปวงในจักรวาลฟ้าดินดับสลายหายไป
ด้วยเหตุนี้ทุกจุดที่หลัวซิวเคลื่อนที่ผ่าน กฎทั้งปวงก็จะถูกยับยั้งสลายหายไป ฉีกกระชากอาณาจักรลดเวลาภายในเสี้ยววินาที ก่อนจะปรากฏด้านหลังลิ่งฮู๋จื่อเซวียน
ปั้ง!
กำปั้นของหลัวซิวซัดลงไปโดยตรง มีคลื่นพลังที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระเพื่อมออก มาตรแม้นว่ามีมารดาเตาผืนทองคอยคุ้มกันร่าง ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็ถูกแรงฮึดที่เกะกะระรานโจมตีจนเซถอยหลังกลับไปหลายก้าวอยู่ดี ปราณเลือดที่อยู่ภายในร่างกายสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง
นี่จึงทำให้ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี ครั้งแรกที่เขาพบหลัวซิว เขารู้ตัวเองดีอยู่ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนดังกล่าว ทว่าต่อมานึกว่าในเมื่อตนบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพแล้ว ต้องไม่แตกต่างจากหลัวซิวมากเท่าไหร่แน่นอน แต่ดูจากวินาทีนี้แล้ว ความคิดเขาก็พิสดารไปหน่อยจริง ๆ
ภายในเสี้ยววินาที เงาร่างของหลัวซิวก็หายไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับไม่ได้ลงมือต่อลิ่งฮู๋จื่อเซวียน แต่ปรากฏตรงหน้าชีชีที่อยู่ห่างไกลออกไป
ติ๊งต่อง……
ชีชีตอบสนองรวดเร็วอย่างมาก มีเสียงดนตรีเบา ๆ ดังออกมาจากขิมอาดูร คลื่นเสียงดุจกระบี่ ทะลวงทองทลายหิน พุ่งตรงไปด้านหน้าหลัวซิวโดยตรง
กระบี่ร่องฟ้าปรากฏในมือ หลัวซิวง้างมือฟาดฟันกระบี่ออกไปหนึ่งครั้ง วิญญาณวีรบุรุษที่ล้นฟ้าปรากฏแล้วลอยวนเป็นเกลียว หนึ่งกระบี่ปรปักษ์สวรรค์!
จู่ ๆ เสียงขิมก็เงียบหายไป ชีชีก็กอดขิมแล้วถอยหลังกลับไปหลายก้าว มีความตะลึงปรากฏบนใบหน้าที่เรียวบาง นิ้วมือที่วางอยู่บนสายขิมสั่นเล็กน้อย และมีเลือดไหลหยดลงมาหนึ่งหยด
หลัวซิวไม่ได้ลงมือโจมตีต่อ พลิกมือเก็บกระบี่ร่องฟ้ากลับเข้าไปแล้วพูดอย่างเย็นชา: “ทั้งสองจะลงมือต่อหรือไม่?”
“ศักยภาพของสหายหลัวลึกซึ้งมากจนไม่อาจคาดเดาได้จริง ๆ ครั้งนี้ลิ่งฮู๋ข้าพึงพอใจแล้ว”
ถึงแม้หลัวซิวจะลงมือแค่สองครั้งก็ตาม แต่กลับทำให้ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนสัมผัสความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างแท้จริง ถึงแม้เขาจะร่วมมือกับชีชี ควบคุมมารดาเตาผืนทองและขิมเก้าบรรเลงอาดูร ก็ไม่สามารถยับยั้งหลัวซิวเอาไว้ได้โดยสิ้นเชิงได้แน่นอน
หากไม่สามารถยับยั้งเขาได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องแตกหักกัน มิเช่นนั้นเมื่อมีศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้คนหนึ่งคอยคิดถึงแต่ตนเอง ไม่ว่าเปลี่ยนเป็นผู้ใดก็คงรู้สึกไม่สบาย
ดังนั้นลิ่งฮู๋จื่อเซวียนจึงเปลี่ยนลักษณะท่าทีอย่างรวดเร็ว ราวกับชายหนุ่มที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ในเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เขายังไงอย่างนั้น