มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2466
แน่นอนว่าความทรงจำของเสี่ยวเจียงหมิงต้องหยุดอยู่ ณ วินาทีก่อนที่เขากำลังจะถูกหลิวเทียนลู่สังหาร
“เจียงหมิง พี่ไม่ได้ตัวเล็กลง แต่เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บ เพราะฉะนั้นสภาพจึงกลายเป็นอย่างที่เห็น”หลัวซิวอธิบาย
แม้ร่างกายและตัวหยั่งรู้จะสลายสูญสิ้นไปแล้ว แต่หลัวซิวกลับไม่ย่อท้อแต่อย่างใด เขาเชื่อว่าขอแค่ให้เวลาเขา เขาสามารถฟื้นฟูกลับคืนสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็วเลย
อีกทั้งสำหรับเขาแล้ว นี่กลับเป็นความโชคดีในความโชคร้าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ร่างเนื้อและตัวหยั่งรู้ของเขายังมีจุดที่ชุบได้ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร หากผนึกรวมขึ้นมาใหม่ละก็ จะได้ใช้โอกาสนี้ทดแทนส่วนที่บกพร่องได้พอดี
การข้ามผ่านทัณฑ์ในครั้งนี้ สิ่งของที่เก็บไว้ในแหวนเก็บของไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด นอกเหนือจากร่างเนื้อและตัวหยั่งรู้ที่พังทลายแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกันสิ่งของที่ค่อนข้างสำคัญของหลัวซิวล้วนไม่ได้รับความเสียหายอะไร
ถึงแม้ราคาที่ต้องแลกด้วยจะไม่ต่ำก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรเสี่ยวเจียงหมิงก็ถูกเขาฟื้นคืนชีพกลับมาจากการย้อนสายน้ำแห่งกาลเวลาสำเร็จแล้ว ถ้าเกิดพบเจอช่าจื่อเยียนอีกครั้งละก็ ในที่สุดเขาก็สามารถให้คำอธิบายนางสักที
เสี่ยวเจียงหมิงยังเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง หลัวซิวก็ไม่ได้อธิบายอะไรเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่มีความคิดที่จะบอกเรื่องที่เสี่ยวเจียงหมิงเคยถูกสังหารให้ช่าจื่อเยียนฟังด้วย
บางครั้งความไม่ชัดเจน มันก็เป็นสิ่งที่ดีกว่ามิใช่หรือ?
เวลาถัดจากนี้ หลัวซิวก็หลอมสร้างร่างเนื้อและตัวหยั่งรู้อยู่ในตำหนักวัฏสงสาร สำหรับจอมยุทธ์ทั่วไปแล้ว การหลอมสร้างร่างเนื้อและตัวหยั่งรู้กลับคืนมาใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากลำบากมาก ๆ แต่ในมือหลัวซิวมีสิ่งล้ำค่าอย่างหินบรรพไท่ชู เมื่อใช้ชี่บรรพมาหลอมสร้างร่างเนื้อและตัวหยั่งรู้ สามารถพูดได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
นอกเหนือจากนี้ หลัวซิวก็ชี้แนะการฝึกตนกับเสี่ยวเจียงหมิงอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน เนื่องจากมูลเหตุของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ เขาไม่อยากให้เสี่ยวเจียงหมิงฝึกบำเพ็ญพลิกทมิฬต่อ จากแดนยุทธ์ของเขา แค่วรยุทธ์หนึ่งที่หยิบออกมาอย่างเรื่อยเปื่อย ก็ดีกว่าบำเพ็ญพลิกทมิฬไม่รู้ตั้งกี่เท่าแล้ว
เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หลังจากชี่บรรพไท่ชูที่แฝงซ่อนอยู่ในหินบรรพไท่ชูถูกหลัวซิวกลั่นแปรหมดแล้ว ในที่สุดหลัวซิวก็ถือว่าสำเร็จขั้นตอนการหลอมสร้างร่างเนื้อสักที
ร่างกายที่หลอมสร้างขึ้นมาใหม่ สมบูรณ์แบบกว่าร่างกายในอดีตเล็กน้อย แต่ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายเล็กน้อยคือชี่บรรพไท่ชูที่อยู่ภายในหินบรรพไท่ชูมีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น เมื่อปีนั้นเขาได้ใช้ไปส่วนหนึ่งขณะที่ฝึกตนบรรลุ ต่อมาการหลอมสร้างร่างเนื้อก็ทำให้สูญเสียไปอีกส่วนหนึ่ง หลังจากใช้จนแห้งเหือดแล้ว ก็ไม่มีวิธีการที่จะหลอมสร้างตัวหยั่งรู้ขึ้นมาใหม่ได้อีกแล้ว
ตัวหยั่งรู้ของเขาคือดาราหยั่งรู้ ซึ่งมั่นคงแข็งแรงกว่าตัวหยั่งรู้ของจอมยุทธ์ทั่วไป ตัวสำนึกที่หล่อเลี้ยงออกมาก็แข็งแกร่งมากกว่าด้วย หากจะหลอมสร้างขึ้นมาใหม่ละก็ ยาเซียนยาวิเศษทั่วไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรด้วยซ้ำ
ทว่าหลัวซิวกลับไม่ได้กังวลจุดนี้มากเท่าไหร่นัก เนื่องจากใช่ว่าชี่บรรพไท่ชูที่อยู่ภายในหินบรรพไท่ชูจะหมดสิ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว ขอแค่รอคอยอีกไม่กี่สิบปีหินบรรพก็จะหล่อเลี้ยงชี่บรรพไท่ชูออกมาอีกหนึ่งกลุ่ม
หินบรรพไท่ชูที่มีขนาดเท่ากำปั้น มากสุดสามารถหล่อเลี้ยงชี่บรรพออกมาได้หนึ่งกลุ่มเท่านั้น หลังจากชี่บรรพถูกใช้จนหมดแล้ว ภายในระยะเวลาร้อยปีมันก็จะหล่อเลี้ยงชี่บรรพหนึ่งกลุ่มออกมาใหม่
ปริมาตรของหินบรรพไท่ชูยิ่งใหญ่ ชี่บรรพที่หล่อเลี้ยงได้ก็จะยิ่งมาก ในยุคสมัยที่ไท่ซ่างฉิงคงอยู่ หินบรรพไท่ชูที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นมีขนาดเท่าอ่างล้างหน้า ซึ่งสามารถหล่อเลี้ยงชี่บรรพออกมาได้สามกลุ่ม!
สำหรับจอมยุทธ์ที่อยู่ในทุก ๆ แดนแล้ว ชี่บรรพไท่ชูคือพลังการฝึกตนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เล่ากันว่าทั้งฟ้าดินดาราทั้งหลายในจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล ก็วิวัฒนาการมาจากชี่บรรพไท่ชูนี่แหละ
หลังจากหลอมสร้างร่างเนื้อกลับคืนมาใหม่แล้ว ถึงแม้ยังไม่มีวิธีฟื้นฟูศักยภาพให้กลับไปถึงจุดสูงสุดได้ชั่วคราวก็ตาม อย่างน้อยเมื่ออยู่ในห้วงดาราระดับล่างนี้ จากศักยภาพของหลัวซิวก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรเลย
หลอมสร้างร่างเนื้ออยู่ภายในตำหนักวัฏสงสารประมาณสองปีว่า เสี่ยวเจียงหมิงคอยฝึกตนอยู่ข้างกายเขา ก็ได้รับการชโลมจากชี่บรรพไท่ชูเช่นกัน สำหรับจอมยุทธ์ที่แม้แต่แดนเทพมารยังบรรลุไม่ถึงอย่างเขาแล้ว สามารถพูดได้เลยว่านี่เป็นโชคที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ