มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2472
แต่ทว่าหากซื้อหอกเทวเช่นนี้หนึ่งเล่มมา แต่เสี่ยวเจียงหมิงใช้งานไม่ได้ แค่ซื้อมาทำให้เขาดีใจ มันจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยไปหน่อยจริง ๆ
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ หลัวซิวจึงวางแผนที่จะกลั่นของขลังอาวุธสงครามให้เสี่ยวเจียงหมิงด้วยมือตนเอง หลังจากเสี่ยวเจียงหมิงฝึกตนถึงแดนเทพมาร
สายตาที่นับไม่ถ้วนร่วงลงบนหอกเทวม่วงทองที่อยู่บนเวทีประมูล ขอแค่ตัวสำนึกสัมผัสเข้ากับหอกเทวเล่มนั้น ก็จะเจอข้อมูลหนึ่ง ปรปักษ์สวรรค์สังหารมาร!
นี่น่าจะเป็นชื่อของหอกเทวเล่มนี้ ซึ่งมีนามว่าหอกปรปักษ์สวรรค์สังหารมาร
หลัวซิวยักคิ้วเบา ๆ กล้าใช้คำว่าปรปักษ์สวรรค์มาตั้งเป็นชื่อ ผู้ที่กลั่นหอกยุทธ์เล่มนี้โอหังไม่น้อยเลย เป็นเพียงอาวุธสงครามจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอดเล็ก ๆ เล่มหนึ่งก็ประกาศศักดาว่าจะปรปักษ์สวรรค์สังหารมาร ท่าทางในการพูดช่างโอหังจนตะลึงเสียจริง
เมื่อหลัวซิวลองสำรวจหอกเทวเล่มนี้ดี ๆ เข้มงวดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพบว่าวิธีในการกลั่นหอกเทวเล่มนี้ถึงขั้นสามารถพูดได้เลยว่าสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ!
สมบูรณ์แบบอย่างไรที่ตินั้นมีความหมายว่าอย่างไร? สามารถพูดได้เลยว่าเป็นขั้นสูงสุดของวิถีกลั่นยา ค่ายกลและหลอมอาวุธ ยกตัวอย่างเช่นระดับฝีมือในการกลั่นยาและจัดวางค่ายกลของเขาก็สามารถพูดได้เลยว่าอยู่ในแดนที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติแล้ว เนื่องจากเขายึดกุมคัมภีร์โอสถและฎีกาค่าย
นอกจากเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนักกลั่นยาหรือนักค่ายกลที่มีความรู้ความสามารถเหนือกว่ามากเพียงใด ยาที่กลั่นได้และค่ายกลที่จัดวางก็ล้วนแต่ต้องมีจุดบกพร่องอย่างแน่นอน แค่ผู้ปราดเปรื่องที่แดนยิ่งสูง ก็ยิ่งสามารถอำพรางจุดบกพร่องได้แนบเนียนมากกว่าเท่านั้นแหละ
แต่การอำพรางจุดบกพร่องและสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ตินั้น เป็นความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย
หากบอกว่าในโลกหล้านี้ มีวิธีการประเภทหนึ่งที่สามารถกลั่นของขลังอาวุธสงครามที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติออกมาได้นั้น เช่นนั้นวิธีเดียวที่หลัวซิวทราบก็คือวิชาหลอมภัณฑ์ที่มีต้นกำเนิดจากหนังสือยุทธภัณฑ์!
หลังจากคาดเดาได้ว่าหอกปรปักษ์สวรรค์สังหารมารนี่มีโอกาสถูกกลั่นออกมาโดยวิชาหนังสือยุทธภัณฑ์สูงมาก ๆ อารมณ์ที่ไม่ยี่หระในตอนแรกของหลัวซิวก็ฮึกเหิมขึ้นมาในทันที
ในโลกใบนี้ เรื่องราวที่สามารถทำให้เขาควบคุมอารมณ์ได้ยากนั้นมีไม่มากแน่นอน แต่หนังสือยุทธภัณฑ์ต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน!
เนื่องจากหนังสือยุทธภัณฑ์สำคัญต่อเขามาก ๆ เพราะครั้นเมื่ออยู่ในภพชาติของไท่ซ่างฉิง เขาก็อนุมานได้แล้วว่าหากสามารถฝึกคัมภีร์โอสถ ฎีกาค่ายและหนังสือยุทธภัณฑ์พร้อมกัน จะสามารถฝึกวิถีแห่งตนที่สมบูรณ์แบบและแข็งแกร่งมากที่สุดออกมาได้!
อสูรจิตทั้งปวงล้วนมีจิตญาณ จิตก็คือวิญญาณ และเคล็ดเทวกลั่นวิญญาณในคัมภีร์โอสถก็คือวิชากลั่นวิญญาณที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด!
ส่วนญาณนั้นคือร่างญาณ วิชาหนังสือยุทธภัณฑ์ไม่เพียงสามารถกลั่นศัสตราวุธของขลังที่สมบูรณ์ไร้ที่ติออกมาได้เท่านั้น ยิ่งสามารถชุบร่างเนื้อร่างญาณที่เป็นหนึ่งไม่เป็นรองออกมาได้ด้วย!
ในส่วนของวิชาฎีกาค่ายนั้น เป็นวิชาที่ช่วยเพิ่มเสริมในทุก ๆ ด้าน สามารถสลักจารึกลายค่ายลงไปในตัวหยั่งรู้ ทำให้ตัวสำนึกวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น และสามารถสลักจารึกลายค่ายลงไปในร่างเนื้อ ทำให้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
เมื่อทั้งสามสิ่งรวมกันเป็นหนึ่ง ก็จะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือสมบูรณ์ไร้ที่ติถึงขีดสุด!
เขาไม่รู้ว่าคัมภีร์โอสถ ฎีกาค่ายและหนังสือยุทธภัณฑ์ริเริ่มมาจากอะไรกันแน่ ทว่าสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ที่ริเริ่มพวกมันขึ้นมา ต้องอยู่บนจุดสูงสุดของวิถีใดวิถีหนึ่งอย่างแน่นอน
คัมภีร์ฎีกาหนังสือคงอยู่ตั้งแต่ยุคไท่ชูแล้ว ตกลงความเป็นมาของพวกมันเป็นอย่างไรนั้น ตั้งแต่โบราณกาลมามีการคาดเดามาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่เคยมีการคาดเดาใดที่ได้รับการยอมรับมาก่อน
ความคิดต่าง ๆ นานากระพริบผ่านไปในหัวหลัวซิวอย่างรวดเร็ว เขาจำเป็นต้องหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับหนังสือยุทธภัณฑ์ให้ได้!
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ๆ แค่หอกปรปักษ์สวรรค์สังหารมารเล่มนี้ ก็บ่งชี้แล้วว่าแดนปริศนาที่เจ้าเมืองมังกรครามยักษ์พบเจอต้องไม่ธรรมดามากอย่างแน่นอน
ไท่ซ่างฉิงเคยแสวงหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับหนังสือยุทธภัณฑ์ นอกจากเศษคัมภีร์โอสถและฎีกาค่ายที่ถูกผู้อื่นค้นพบโดยบังเอิญแล้ว หนังสือยุทธภัณฑ์ก็ขาดการสืบสานตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดยุคไท่ชู ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนในยุควัฏสงสารเคยได้รับหนังสือยุทธภัณฑ์