มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2492
เมื่อพูดทั้งสองประโยคนี้จบ ก่อนจะจากไปเขาได้ทิ้งตราฝ่ามือหนึ่งไว้ในสามตระกูล ซึ่งตราฝ่ามือนั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพขั้นสูงยังไม่สามารถทิ้งไว้ได้ บรรพอาจารย์ระดับกึ่งจ้าวมหาเทพของทั้งสามตระกูลใหญ่ยิ่งไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลยแม้แต่น้อย
หลัวซิวยังไม่ได้ไปสำนักไท่ฉือและสำนักกว่างหาน ทั้งสองสำนักใหญ่นี้ก็ได้ส่งคนมายังตระกูลฉีแล้ว
สำนักกว่างหานส่งของขวัญมา ความต้องการเรื่องขอสงบศึกนั้นชัดเจนมาก แสดงให้เห็นว่าสำนักกว่างหานจะไม่เป็นศัตรูกับตระกูลฉีอย่างแน่นอน
ลักษณะท่าทีของสำนักไท่ฉือก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่สำนักไท่ฉือส่งมาคือฉีเมี่ยวหลุน
สิ่งที่ทำให้หลัวซิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยคือฉีเมี่ยวหลุนเสนอข้อเรียกร้องในการติดตามหลัวซิว นางอยากติดตามหลัวซิวอยากจากโลกะดาราอัมพรเทวเพื่อมุ่งหน้าไปยังโลกาชั้นฟ้า แสวงหาฟ้าดินที่กว้างขวางมากกว่า
ฉีเมี่ยวหลุนเป็นสตรีที่ชาญฉลาดมาก ๆ คนหนึ่ง หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวหลายอย่างมา นางก็ค้นพบข้อจำกัดของห้วงดาราระดับล่างเช่นกัน นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าหากตนอยู่ที่นี่ต่อ บางทีทั้งชีวิตอาจจะไม่มีโอกาสได้บรรลุเป็นจ้าวมหาเทพ มาตรแม้นว่าสักวันจะบรรลุเป็นจ้าวมหาเทพ ก็จำเป็นต้องไปยังโลกาชั้นฟ้า
และถ้าเกิดสามารถติดตามผู้แข็งแกร่งอย่างหลัวซิวได้ เส้นทางในอนาคตต้องเดินได้ราบเรียบมากกว่าเดิมแน่นอน
“หากเจ้าจะติดตามข้าไปยังโลกาชั้นฟ้าจริง ๆ มันก็ได้อยู่ แต่ทว่าข้าจะไม่จากไปในเร็ว ๆ นี้ หากมีแผนที่จะจากไป ข้าจะแจ้งให้เจ้าทราบ”หลัวซิวกล่าวเช่นนี้
“ขอบพระคุณท่านชายอย่างยิ่ง”ฉีเมี่ยวหลุนลุกขึ้นยืนแล้วทำความเคารพอย่างอ่อนโยน
“เจ้ายังทราบเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเกาะเทียนเหออีกหรือไม่?”หลัวซิวเอ่ยปากถามกะทันหัน หากถามว่ามีอะไรที่เขายังไม่ค่อยไว้วางใจในห้วงดาราระดับล่าง เช่นนั้นมันก็คือการคงอยู่ของเกาะเทียนเหอแล้วล่ะ
หากไม่จัดการปัญหาอย่างเกาะเทียนเหอ สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าจากศักยภาพของเกาะเทียนเหอ ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็จะสามารถยึดกุมห้วงดาราระดับล่างได้โดยสิ้นเชิง
มหาโลกาแห่งโลกาชั้นฟ้าก็มีสามพันใบแล้ว ธาตุดาราในห้วงดาราระดับล่างยิ่งมีมากจนนับไม่ถ้วน
บางทีจอมยุทธ์แห่งโลกาชั้นฟ้าจำนวนมากอาจจะไม่นำจอมยุทธ์โลกามนุษย์เอาไว้ในสายตา มองว่าพวกเขาเป็นมดตัวจ้อย แต่แท้จริงแล้วผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในมหาโลกาพันสามก็ล้วนกำเนิดจากโลกามนุษย์ การที่มหาโลกาพันสามสามารถมีผู้แข็งแกร่ง อัจฉริยะผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายนั้น ก็เป็นเพราะอาศัยเลือดสดใหม่ที่มีอย่างไม่ขาดสายในห้วงดาราระดับล่างที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นกัน
และถ้าเกิดห้วงดาราระดับล่างถูกเกาะเทียนเหอยึดกุม เช่นนั้นมหาโลกาพันสามก็เท่ากับกลายเป็นเอกเทศ
จอมยุทธ์แห่งโลกาชั้นฟ้าถูกจำกัดโดยกฎเทียนเต้า ทำให้ไม่สามารถลงมายังโลกามนุษย์ได้ง่าย ๆ ถึงแม้จะทราบเรื่องราวของเกาะเทียนเหอ ก็ทำอะไรไม่ได้แน่นอน
“เดิมทีเกาะเทียนเหอเป็นแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่ในตำแหน่งหนึ่งบนทางช้างเผือก มีบรรพอาจารย์ระดับกึ่งจ้าวมหาเทพคนหนึ่งคอยคุ้มกันรักษา และถือเป็นกองกำลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในห้วงดาราระดับล่างเช่นกัน”
ฉีเมี่ยวหลุนค่อย ๆ ตอบกลับคำถามของหลัวซิว “ทว่าสิบกว่าปีก่อน ไม่รู้เกิดเรื่องราวอะไรกับเกาะเทียนเหอ จู่ ๆ พวกเขาก็มีศักยภาพที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง อดีตจ้าวเกาะเทียนเหอที่มีผลการฝึกตนกึ่งจ้าวมหาเทพก็กลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพในทีเดียว อีกทั้งผู้อาวุโสบางส่วนของเกาะเทียนเหอก็ต่างพากันบรรลุเป็นจ้าวมหาเทพเช่นกัน……”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเกาะเทียนเหอดูมีความแปลกประหลาดบางอย่างซ่อนอยู่ แต่ทว่าเนื่องจากศักยภาพของต่างฝ่ายค่อนข้างห่างไกลกัน จึงไม่มีผู้ใดสามารถสืบเสาะได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเกาะเทียนเหอกันแน่
กระทั่งบัดนี้ เบาะแสที่หลัวซิวทราบก็คือผู้ที่มีศักยภาพแข็งแกร่งที่สุดในเกาะเทียนเหอก็คือจ้าวเกาะ เว่ยหงโจ๋ ซึ่งมีผลการฝึกตนระดับจ้าวมหาเทพขั้นสูง
มีจุดหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือเกาะเทียนเหอได้รับพลังแห่งสวรรค์ประเภทหนึ่ง และพวกเขาก็อาศัยพลังแห่งสวรรค์ประเภทนี้นี่แหละ ถึงทำให้ศักยภาพของเกาะเทียนเหอพุ่งพรวด อีกทั้งผู้ที่มีผลการฝึกตนอยู่เหนือจ้าวมหาเทพก็ไม่ได้รับบทลงโทษจากกฎเทียนเต้าด้วย