มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2525
พระโอรสจ้านเทียนเดินบนเส้นทางจอมยุทธ์กลั่นร่าง นอกจากหลัวซิวแล้ว หากไม่พูดถึงสมบัติอุบายไพ่เด็ดของคนอื่น ๆ ที่เหลือในที่เกิดเหตุ พูดแค่กำลังรบเพียงอย่างเดียว นอกจากมู่จื่อเซียวที่มีผลการฝึกตนสูงที่สุดแล้ว เขาเพียงพอที่กวาดล้างทุกคนได้อย่างสบายมือเลย
สิ่งที่พระโอรสจ้านเทียนฝึกคือกฎธาตุทองที่อยู่ในเบญจธาตุขั้นพื้นฐาน ซึ่งสามารถทำให้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของตัวเองปลดปล่อยกำลังรบและพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมาได้
อัจฉริยะคนอื่น ๆ ล้วนแสวงหากฎผสานรวมที่แข็งแกร่งมากกว่า หรือไม่ก็แสวงหากฎชั้นยอด ทว่าพระโอรสจ้านเทียนกลับแตกต่างจากผู้อื่น เขาฝึกแค่กฎขั้นพื้นฐานอย่างกฎธาตุทอง
เขารู้สึกว่ากฎมีการแบ่งระดับสูงต่ำ แต่กฎดั้งเดิมกลับไม่มีการแบ่งแยกความแข็งแกร่งและอ่อนแอมากแต่อย่างใด แม้นจะเป็นกฎพื้นฐานที่ธรรมดาเรียบง่ายที่สุด หากสามารถฝึกถึงแดนขั้นสูงสุด ก็สามารถกลายเป็นกฎที่ทรงพลังที่สุดในโลกหล้าได้เช่นกัน
ซึ่งสามารถพูดได้เลยว่าพระโอรสจ้านเทียนมองจุดนี้ได้ทะลุปรุโปร่งกว่าอัจฉริยะจำนวนมากมาก ๆ เลยล่ะ ยิ่งกว่านั้นคือแม้แต่ตัวหลัวซิวเองก็เพิ่งจะเห็นด้วยกับคำพูดนี้หลังจากได้ประสบกับพลังแห่งสวรรค์
เนื่องจากพลังแห่งเวหาก็เป็นเช่นนี้แหละ มีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานของกฎธาตุทองแฝงซ่อนอยู่ สามารถพูดได้เลยว่าเป็นสภาวะขั้นสูงสุดของกฎธาตุทอง!
ถ้าเกิดสักวันพระโอรสจ้านเทียนสามารถฝึกกฎธาตุทองขึ้นไปถึงแดนพลังแห่งเวหา เช่นนี้ในโลกหล้านี้ จักยังมีผู้ใดที่กล้าบอกว่ากฎธาตุทองเป็นกฎที่ธรรมดาที่สุด และเป็นกฎที่ระดับต่ำที่สุดอีก?
อย่างไรก็ตามจากแดนและประสบการณ์วิถียุทธ์ของพระโอรสจ้านเทียนในปัจจุบัน เขาไม่มีทางเข้าใจมากขนาดนั้นอยู่แล้ว วินาทีนี้จิตใจของเขากำลังจมปลักอยู่ในพลังเต๋านิพพาน วิถียุทธ์ที่เขาแสวงหาคือพลังโจมตีและพลังทำลายล้างที่ทรงพลังมากที่สุด ซึ่งความลี้ลับที่แฝงซ่อนอยู่ภายในพลังเต๋านิพพานประเภทนี้ ตรงกับสิ่งที่เขาแสวงหาพอดี
ถึงแม้เขายังไม่สามารถตระหนักความลึกล้ำที่แท้จริงของพลังแห่งนิพพานออกมาได้ แต่กลับสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าหากตนตระหนักรู้อยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ต้องตระหนักรู้ในกฎธาตุทองได้ลึกซึ้งมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุล้วนเป็นอัจฉริยะ บางทีอาจจะยังไม่สามารถเทียบเคียงผลการฝึกตนกับอัจฉริยะโลกมหาศักดิ์ที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันได้ แต่แท้จริงแล้วพรสวรรค์สติปัญญาของพวกเขาไม่ด้อยกว่าอัจฉริยะโลกมหาศักดิ์แต่อย่างใด สาเหตุที่อัจฉริยะโลกมหาศักดิ์แข็งแกร่งนั้น เป็นเพราะพวกเขากำเนิดจากโลกมหาศักดิ์ มีเงื่อนไขและทรัพยากรการฝึกตนที่ดีเลิศที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
ไม่เพียงแค่พระโอรสจ้านเทียนเท่านั้นที่มีการตระหนักรู้ พวกเซียวจื้อหยวนฟางห้าวหยูและมู่จื่อเซียวก็ต่างมีการตระหนักรู้เช่นกัน มีคนได้รับการตระหนักรู้จากพลังเต๋านิพพาน และมีคนได้รับคติจากชิงเทียนพลังเต๋าเช่นกัน
ตั้งแต่ได้รับการชี้แนะจากหลัวซิวครั้นเมื่ออยู่ในแดนเทวนิรันกาลเป็นต้นมา เสิ่นปิงหยูก็ล้มเลิกกฎที่ฝึกในอดีตเช่นกัน เปลี่ยนมาฝึกกฎตรีภพ โดยที่ศึกษาและปฏิบัติตามพลังเกณฑ์ตรีภพที่แฝงซ่อนอยู่ภายในกระบี่ตรีภพ นางมีการตระหนักรู้ในพลังของพลังเต๋าทั้งสองประเภทพร้อมกัน
เนื่องจากสามารถพูดได้เลยว่าตรีภพเป็นหนึ่งในกฎจักรวาลฟ้าดินที่ครอบคลุมจักรวาล ตรีภพสามารถหล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่ง ตรีภพก็สามารถทำลายล้างทุกสรรพสิ่งได้เช่นกัน สามารถพูดได้เลยว่ามีความล้ำลึกของความเป็นและความตายขั้นสูงสุดแฝงซ่อนอยู่
และสาเหตุที่กฎตรีภพเทียบเคียงกับกฎการเวียนว่ายตายเกิดไม่ได้นั้น ไม่ใช่เพราะกฎตรีภพไม่แข็งแกร่งแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะกฎตรีภพซับซ้อนมากเกินไป สิ่งที่ครอบคลุมมีเยอะเกินไป ตั้งแต่โบราณกาลมาจึงมีคนฝึกกฎตรีภพถึงขีดสูงสุดน้อยมาก
ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการตระหนักอยู่นั้น จู่ ๆ เงาร่างของหลัวซิวก็มีการเคลื่อนไหว เขาหกระเหินเดินฟ้า มุ่งหน้าเดินตรงไปทางส่วนล่างของหลุมที่อยู่ด้านล่างตราประทับอนัตตา
เขตพื้นที่ที่มีพลังเต๋าตลบฟุ้งไปทั่วทุกสารทิศนี้ เป็นสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานประมือกัน ที่นี่ดูเหมือนจะเงียบสงบ แท้จริงแล้วกลับมีภัยอันตรายที่ยิ่งใหญ่แฝงซ่อนอยู่!
ทันทีที่หลัวซิวก้าวออกไปหนึ่งก้าว ตัวสำนึกของเขาก็สัมผัสได้ว่าราวกับมีมือใหญ่สีเขียวหลายมือกำลังขยำมาทางเขา
มือใหญ่สีเขียวครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ราวกับสวรรค์ที่มีอานุภาพมโหฬารพันลึก ทุกสรรพสิ่งล้วนต้องศิโรราบ!
“ทลายซะ!”
หลัวซิวโคจรพลังอมตะอย่างหมัดจ้านเทียนโดยที่ไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย ฟาดฟันกระบี่ร่องฟ้าออกไป แสงกระบี่ดั่งห่านป่า ฉีกกระชากทุกสรรพสิ่งที่เข้ามาขวางกั้น