มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2550
หลัวซิวไม่ได้รู้สึกโกรธเกรี้ยวต่อเรื่องนี้ ถึงแม้เขาก็เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกัน แต่กลับไม่รู้สึกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะสูงส่งกว่าเผ่าพันธุ์อื่น แท้จริงแล้วจากเงื่อนไขโดยธรรมชาติ เผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก ๆ ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะอาศัยข้อได้เปรียบทางจำนวนคน
เวิ่ง!
ปริภูมิสั่นเทิ้ม มีเรือรบสีขาวเงินลำหนึ่งบินออกมาจากดาราที่มีแหล่งทรัพยากรแก้วเทว ธงแห่งชัยชนะที่แขวนอยู่บนเรือรบ คือรูปเทพมังกรประจำเผ่าที่กำลังบินลอยตะปบเล็บ ซึ่งดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
นี่คือเรือรบมังกรเงินลำหนึ่ง รูปร่างลักษณะของเรือรบก็เหมือนมังกรเงินตัวหนึ่งที่โบยบินอยู่ในห้วงดารา
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าโปรดฟัง กูขอสั่งให้มึงหยุดลงบัดเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นก็จะฆ่าสถานเดียว!”
สิ่งที่ทำให้หลัวซิวคาดไม่ถึงคือทิศทางที่เรือรบมังกรเงินลำนั้นพุ่งตรงมาเป็นทิศทางที่เขาอยู่ มีคนใช้ค่ายกลขยายเสียงตะโกนพูดอย่างเสียงดัง ซึ่งจองหองพองขนถึงขีดสุด
คาดิสลาร์ยืนอยู่ด้านหลังหลัวซิว ราวกับองครักษ์ที่จงรักภักดีในภาระหน้าที่ แต่ว่าในมือเขายังมีกระดูกขาข้างหนึ่งพลางกัดกินเนื้อที่อยู่ด้านบน สันดานเดิมที่โหดร้ายดุดันถูกเปิดเผยออกมาอย่างหมดเปลือก
ดูดจิตหยุดเคลื่อนที่แล้ว หลัวซิวก็หันหน้ากลับไปมองเช่นกัน เรือรบมังกรเงินบินตรงเข้ามาด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างยิ่ง ประชิดใกล้เข้ามาภายในพริบตา
บนชั้นดาดฟ้าของเรือรบมีเผ่าพันธุ์มารยืนอยู่ 20 กว่าคน บนร่างกายต่างมีลักษณะเฉพาะของร่างเดิมไม่มากก็น้อย เผ่าพันธุ์แตกต่างกันออกไป ขี่มารบนตัวเข้มข้น
ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดอยู่ในชุดหมวกเหล็กกับเสื้อเกราะ มือถือหอกเทว ท่าทางน่าเกรงขามพลางตะคอกอย่างเยือกเย็น: “ถือว่ามนุษย์มดตัวจ้อยอย่างมึงรู้สถานการณ์ ตอนนี้กูขอสั่งให้มึงส่งของทุกอย่างที่อยู่บนตัวมึงออกมา จากนั้นค่อยไปขุดแก้วเทวร้อยปี!”
“ขุดแม่มึงสิ!”
หลัวซิวเบื่อที่จะเปลืองน้ำลายด้วยซ้ำ อีกทั้งคนที่พูดคำพูดนี้ไม่ใช่คาดิสลาร์ แต่เป็นดูดจิตที่อยู่ด้านล่างเขา
คาดิสลาร์อัดอั้นอยู่ในหุบเขาจนใกล้จะเป็นบ้าตั้งนานแล้ว กว่าจะออกมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วัน ๆ มีเรื่องให้คุยอย่างไม่รู้จบ เขาไม่กล้ารบกวนหลัวซิว จึงหมายตาไปที่ดูดจิต นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าดูดจิตที่ใสซื่อในอดีต ใกล้จะถูกไอ้สารเลวคาดิสลาร์นั่นพาลพาไปหาผิดแล้ว
“มารตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่กลายร่างเป็นมนุษย์ก็บังอาจจองหองต่อหน้าขุนพลอย่างกูอย่างนั้นหรือ เชื่อหรือไม่ว่ากูจะกลืนกินมึงทั้งเป็นเลย?”
เผ่าพันธุ์มารชุดเกราะที่เป็นผู้นำบนเรือรบลำนั้นตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว สะบัดหัวทีหนึ่ง จากนั้นลำตัวของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นกะทันหัน ซึ่งเขาก็คือเจียวอัคคีที่อยู่ในแดนมกุฎเทพตัวหนึ่งนั่นเอง
“โฮกก!”
ดูดจิตคำรามเสียงต่ำทุ้ม หลัวซิวรู้สึกแค่ว่ามีเสียงลมคำรามพุ่งตรงมา ทว่าดูดจิตกลับลงมือโจมตีก่อนแล้ว อนัตตาถูกเขาฉีกกระชากจนพังทลายเสื่อมทรุดเป็นวงกว้าง
ในส่วนของเรือรบมังกรเงินในเมื่อครู่นี้นั้น กลับแตกหักเป็นสองท่อนจนเสียงดังเปราะ เผ่าพันธุ์มารจำนวนมากที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าในตอนแรกล้วนถูกดูดจิตกลืนกินในทีเดียว
“นี่เจ้าเห็นแก่กินอย่างเดียวเลยนะ ไม่รู้จักไว้ชีวิตไว้สักคนหรือ ข้าจะได้สอบถามพวกมันได้ว่าฐานที่มั่นคงเผ่ามังกรอยู่ที่ใด?”หลัวซิวยิ้มอย่างขมขื่นพลางส่ายหน้า อุปนิสัยดั้งเดิมของเผ่าอสูรดูดจิตดุร้ายอยู่แล้ว อีกทั้งยังถูกลาร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องโหดร้ายสั่งสอนเพิ่มอีก เมื่อเจ้าโหดเหี้ยมทั้งสองตัวนี้อยู่ด้วยกัน มันจึงหมดซึ่งหนทางเยียวยาแล้วจริง ๆ
“นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คราวหน้าข้าจักไว้ชีวิตไว้คนหนึ่งแน่นอน……”ดูดจิตรีบตอบกลับอย่างขาดความมั่นใจ
เผ่าพันธุ์มารในโลกาบรรพมารมีเยอะมาก แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่กล้าเคลื่อนไหวอยู่ทั่วทุกสารทิศของห้วงดาราอย่างหลัวซิวนั้น กลับมีน้อยมากถึงมากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าหลัวซิวจะไปถึงที่ใด ก็ล้วนดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ดีมาก ๆ
เมื่ออยู่ในห้วงดาราแห่งนี้ เผ่าพันธุ์มารไม่นำเผ่าพันธุ์มนุษย์มาไว้ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นตลอดทางหลัวซิวก็เจอกับปัญหาไม่น้อยเช่นกัน อสูรยักษ์อสูรกายที่ตายอยู่ในปากดูดจิตและคาดิสลาร์ก็มีเยอะมากจนนับไม่ถ้วน
ระหว่างทางเจ้าเห็นแก่กินสองตัวนั้นกินอสูรยักษ์มาไม่รู้ตั้งกี่ตัว หากไม่มีเรื่องอะไรก็จะพากันวิจารณ์ว่าเนื้อของอสูรกายประเภทใดนุ่มชุ่มฉ่ำ หวานสดหอมอร่อยกว่า ทำเอาหลัวซิวรู้สึกขยะแขยงมากจริง ๆ เนื่องจากเจ้าสองตัวนี้ไม่กินของสุกเลยนะ
แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ละเลยในกิจธุระจริงจังเช่นกัน หลัวซิวสืบเสาะฐานที่มั่นของเผ่าพันธุ์มังกรแท้มาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันตั้งอยู่บนดาวมังกรฟ้านั่นเอง