มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2563

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2563

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2563

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

แสงอัสนีที่นับไม่ถ้วนไหลทะลักลงมา หลัวซิวแหงนหน้าขึ้นฟ้าคำรามเสียงยาว ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า โคจรวิชาก่อเกิดกายของเศษหนังสือยุทธภัณฑ์ ปล่อยให้สายฟ้าที่ดุดันทั้งหลายผ่าลงร่างกายตัวเอง

อัสนีดั่งค้อน ร่างกายดั่งอาวุธ ถูกทำลายให้พินาศแล้วกำเนิดใหม่ ซึ่งนี่ก็คือวิชาก่อเกิดกายของหนังสือยุทธภัณฑ์!

ไม่ว่าทัณฑ์สายฟ้าพิโรธจะทรงพลังมากเพียงใด หลัวซิวก็ไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่วินาทีที่ย่างกรายสู่วิถีบำเพ็ญปรปักษ์ เขาก็รู้แล้วว่าหากอยากยึดกุมชะตาชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง ก็ทำได้เพียงยืนหยัดอยู่บนเส้นทางนี้ให้ถึงที่สุด เดินไปถึงจุดสูงสุด

ยิ่งกว่านั้นคือเขาอยากให้พลานุภาพของทัณฑ์สายฟ้าแข็งแกร่งมากกว่านี้ซะอีก เนื่องจากยิ่งทัณฑ์สายฟ้าแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ขอแค่เขาไม่ตาย หลังจากผ่านการขัดเกลาและชุบจากทัณฑ์สายฟ้าในครั้งนี้แล้ว ถึงจะทำให้เขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ชุดคลุมยาวดำที่อยู่บนตัวเขาไม่ใช่ชุดคลุมยาวดำทั่วไป แต่เป็นภัณฑ์ล้ำจ้าวมหาเทพที่เขากลั่นด้วยมือตนเอง ทว่าเมื่ออยู่ภายใต้พลังอนุภาพที่น่าสยดสยองของทัณฑ์สายฟ้า ทำให้มันแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงภายในพริบตา

อัสนีดั่งดาบ ฉีกกระชากร่างกายเขา เลือดสีแดงสดที่นับไม่ถ้วนสาดกระเด็น ทุกครั้งที่เขาพุ่งทะยานขึ้นสู่นภาสูง ก็จะถูกผ่าจนร่วงลงมา กระดูกแตกร้าว เลือดอาจท่วมตัว สภาพอนาถจนทนดูไม่ได้

แต่เขากลับไม่ตาย ร่างกายและกระดูกที่ถูกอัสนีฉีกกระชากกำลังสมานกันอย่างแข็งขัน เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าตัวเองได้เกิดใหม่แปรเปลี่ยนในการถูกทำลายให้พินาศ ร่างยุทธ์ร่างเนื้อยกระดับขึ้นอีกขั้น บรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพขั้น 3!

ร่างเนื้อแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแล้ว จึงย่อมอดทนอยู่ภายใต้การถูกทัณฑ์สายฟ้าที่ผ่าอย่างดุดันได้ยาวนานมากขึ้นอยู่แล้ว เขาพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าอีกครั้ง ใช้กำปั้นและร่างกายของเขาฝืนต้านทานทัณฑ์สายฟ้า

ยิ่งถึงช่วงหลังทัณฑ์สายฟ้าก็ยิ่งน่ากลัว ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของหลัวซิวยังคงแปรเปลี่ยนและเกิดใหม่อยู่เช่นเคย นี่จึงทำให้เขายิ่งไม่อยากให้ทัณฑ์สายฟ้าในครั้งนี้สิ้นสุดลง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่แน่ผลการกลั่นร่างของเขาอาจจะสามารถบรรลุถึงระดับจักรพรรดิเทพขั้นสูงโดยตรงได้เลย

นิรยะเพชฌฆาตก็ถูกทำลายล้างจนสภาพดูไม่ได้เช่นกัน ทว่าภายในเขตแดนที่ถูกอัคคีเทพระดับเจ็ดปกคลุมกลับไม่ได้รับผลกระทบจากทัณฑ์สายฟ้าพิโรธเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะมีควันหลงจากทัณฑ์สายฟ้ากระเพื่อมไปเป็นครั้งคราว มันก็จะถูกพลังกฎเพลิงอัคคีที่น่ากลัวแผดเผาจนว่างเปล่า

เมื่อผลการกลั่นร่างของหลัวซิวบรรลุถึงจักรพรรดิเทพระดับ 4 ทัณฑ์สายฟ้าบนนภาสูงก็สิ้นสุดลงแล้ว นี่จึงทำให้เขารู้สึกเสียดายเล็กน้อย ผู้อื่นล้วนอยากให้ทัณฑ์สายฟ้าสิ้นสุดเร็ว ๆ หน่อย ก็มีเพียงคนอย่างเขาเท่านั้นแหละถึงอยากให้ทัณฑ์สายฟ้าคงอยู่ตลอดไป

เปลือยกายลอยอยู่กลางนภาสูง หลังจากผ่านการกำเนิดใหม่และแปรเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายเขาก็ยิ่งอยู่ยิ่งสมบูรณ์แบบ หุ่นสูงชะลูด มีปณิธานแห่งความแข็งกร้าวไร้รูปประเภทหนึ่งที่เสมือนข้าเป็นเจ้าเพียงผู้เดียวในจักรวาลทะลักออกมา

ความองอาจกล้าหาญประเภทนี้เกิดจากความไม่เกรงกลัวอำนาจสวรรค์ของเขา การกระทำที่ฝืนต้านท้านทัณฑ์สายฟ้า ไม่เกรงกลัวแม้แต่สวรรค์ ในโลกหล้านี้ยังมีคนประเภทนี้อยู่อีกหรือ?

“บนฟ้าบนดิน มีเพียงข้าผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นเจ้า?”

หลัวซิวหรี่ตาลง ความรู้สึกเช่นนี้ เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นแค่ก่อนเขาจะบรรลุสู่แดนผู้สูงส่งเมื่อชาติปางก่อน

ไม่นึกเลยว่าภพชาตินี้ เพิ่งบรรลุถึงแดนเทพมารระดับสี่เท่านั้น ก็มีความรู้สึกประเภทนี้แล้ว

ยกมือโบกครั้งหนึ่ง ทำการกลั่นแปรวัตถุดิบที่เหลืออย่างสบายมือ กลั่นออกมาเป็นชุดคลุมยาวดำชุดหนึ่งแล้วสวมใส่บนตัว การตระหนักรู้ที่ใหม่เอี่ยมของวิถีไร้ลักษณ์หมุนเวียนอยู่ในสมองและจิตใจ

จากการที่แดนผลการฝึกตนบรรลุครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็เข้าใจและตระหนักรู้ในวิถีไร้ลักษณ์ได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

อดีตเขาแค่สามารถใช้วิถีไร้ลักษณ์วิวัฒนาการวิถีทั้งปวงในจักรวาลฟ้าดินออกมา ทว่าแท้จริงแล้วการวิวัฒนาการประเภทนี้ มันเป็นการเลียนแบบอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะเลียนแบบได้แนบเนียนเหมือนจริงมากเพียงใด เมื่อพูดตามหลักความหมายอย่างเข้มงวดแล้ว มันก็ยังถูกจำกัดอยู่ในจักรวาลฟ้าดินอยู่ดี

วิถีไร้ลักษณ์ที่อยู่ในใจเขานั้น ไม่เพียงสามารถวิวัฒนาการกฎในจักรวาลฟ้าดินออกมาได้ ยังต้องสามารถวิวัฒนาการพวกกฎที่อยู่เหนือจักรวาลฟ้าดินออกมาได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นวิถียุทธ์ของบำเพ็ญปรปักษ์คนอื่น ๆ ตลอดจนวิถีแห่งสวรรค์!

การวิวัฒนาการเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของวิถีไร้ลักษณ์ แต่วิถีไร้ลักษณ์ยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือทำให้สรรพวิชากลายเป็นว่างเปล่า

การวิวัฒนาการสรรพวิชานั้น เป็นการเริ่มจากไม่มีสู่มี ส่วนการทำให้สรรพวิชากลายเป็นว่างเปล่านั้น เป็นการเริ่มจากมีสู่ไม่มี เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว ถึงจะเป็นวิถีไร้ลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ

“สรรพวิถีล้วนว้าง!”

จิตใจมีการตระหนักรู้ หลัวซิวใช้นิ้วจิ้มลงกลางอากาศที่ว่างเปล่า ก่อนจะมีรัศมีเทวดวงหนึ่งพุ่งออกมาจากปลายนิ้ว ทุกตำแหน่งที่รัศมีดังกล่าวเคลื่อนผ่าน สรรพวิชาล้วนสลายหายไป ทุกสรรพสิ่งล้วนกลายเป็นว่างเปล่า

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท