มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2574
บนตัวเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ต่างมีออร่าตราประทับที่หลัวซิวทิ้งไว้ เพราะฉะนั้นแม้นจะไม่ทราบตำแหน่งที่แน่ชัดของพวกนาง แต่กลับสามารถผนึกตำแหน่งคร่าว ๆ ของพวกนางได้อยู่
ฉะนั้นผ่านไปไม่นานนัก หลัวซิวก็มาถึงดาราอีกดวงหนึ่งบนมหาโลกะแสงดาว ดาราหวนสมุทร
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เขาก็มาถึงละแวงคูเมืองแห่งหนึ่งบนดาราหวนสมุทร แผ่ขยายตัวสำนึกที่แข็งแกร่งออกไป ก่อนจะผนึกออร่าตราประทับของตนในตำแหน่งหนึ่งในเมืองได้อย่างรวดเร็ว
ตัวสำนึกของเขาเห็นว่าเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่อยู่ในห้องใต้หลังคาแห่งหนึ่ง ทว่าบริเวณใกล้เคียงของห้องใต้หลังคากลับมีค่ายยากเย็นที่ระดับไม่ต่ำจัดวางอยู่ ราวกับมีคนขังพวกนางไว้ในห้องใต้หลังคา
นี่จึงทำให้สีหน้าของหลัวซิวหม่นหมองลงไปภายในพริบตา โชคดีที่บริเวณรอบ ๆ ของห้องใต้หลังคาเป็นเพียงค่ายยากเย็น ซึ่งไม่มีค่ายกลที่กีดกั้นกระแสสัมผัสแต่อย่างใด มิเช่นนั้นละก็ หากเขาสัมผัสออร่าตราประทับบนตัวพวกนางไม่ได้ เขาต้องคิดว่าพวกนางตกอยู่ในความอันตราย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจนร้อนรนใจมากเพียงใด
หลัวซิวไม่ใช่ผู้ที่หมดห่วงแต่อย่างใด ถึงแม้เขาจะตัดขาดกับบ่วงกรรมในอดีตไปเยอะมากก็ตาม แต่เยว่เอ๋อร์และซีโรว่เป็นคนข้างกายที่ใกล้ชิดสำคัญต่อเขามากอย่างแน่นอน
ชัวะ!
ร่างกาของหลัวซิวหายวับไปกับที่ เทเลพอร์ตไปถึงละแวกใกล้เคียงกับห้องใต้หลังคาที่ตั้งอยู่ในเมืองโดยทรง บริเวณรอบ ๆ ของห้องใต้หลังคาแห่งนี้มีค่ายยากเย็นเทพระดับห้าจัดวางอยู่ ค่ายกลปรเภทนี้ มีเพียงมหาปรมาจารย์ค่ายเทพเท่านั้นที่จัดวางได้
ยกมือขึ้นมาประสานอินเพื่อร่ายวิกล จากระดับฝืมือด้านค่ายกลของหลัวซิว สามารถทะลุการขวางกั้นของค่ายกลได้อย่างง่ายดาย มาถึงหน้าห้องใต้หลังคา
เขาเปิดประตูห้องใต้หลังคาออก ก่อนจะมองเห็นพวกนางสองคนนั่งท่าขัดสมาธิอยู่ภายในห้อง เมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามา เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่จึงพากันลืมตาขึ้นมา ภายในแววตามีรังสีแห่งความระแวดระวัง
“เยว่เอ๋อร์ ซีโรว่ ข้าเอง”หลัวซิวตะโกนคำหนึ่ง ก่อนจะย่างเท้าเดินเข้าไป
เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ก็มองเห็นหลัวซิวแล้ว พวกนางถึงขั้นไม่กล้าเชื่อในสายตาตนเอง เมื่อตอบสนองกลับมาได้ ก็มีความตะลึงดีใจปรากฏบนใบหน้าทันที
“ท่านพี่!”เหยียนเยว่เอ๋อร์กลายเป็นเศษเงาร่างหนึ่ง กระโจนเข้าไปในอ้อมอกหลัวซิว กอดเขาเอาไว้แน่น ๆ
อุปนิสัยของเหยียนซีโรว่ค่อนข้างรักนวลสงวนตัว แม้นจะไม่ได้ตื่นเต้นดีใจอย่างเหยียนเยว่เอ๋อร์ แต่ก็เดินตรงมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากนั้นก็ถูกหลัวซิวยื่นมือออกมากอดไว้ด้วย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ หลัวซิวรวมตัวกับพวกนางน้อยมาก ๆ มาตรแม้นว่าอยู่ในแดนปริศนาเผ่าจี้ บ้างเขาก็ออกไปทำกิจธุระด้านนอก บางครั้งเมื่อกลับมาพวกนางทั้งสองก็ต่างฝึกตนปิดขัง จึงมีเวลาพบกันน้อยมาก
“ยัยสองคนนี้ พวกเจ้าออกมาฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก็แล้วไป ไยต้องแจ้นมาไกลเช่นนี้ด้วย?”
หลัวซิวตบก้นเหยียนเยว่เอ๋อร์ทีหนึ่ง แม้น้ำเสียงจะตำหนิ ทว่ากลับไม่ดุดันแต่อย่างใด
“เจ้าก็อีกคน อุปนิสัยเจ้ามั่นคงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไยถึงก่อเรื่องกับยัยเยว่เอ๋อร์ด้วย?”หลัวซิวยื่นมือออกไปบีบจมูกเหยียนซีโรว่ทีหนึ่ง
“เราก็แค่อยากขัดเกลาตัวเองน่ะ หวังว่าอนาคตจะสามารถช่วยเหลือท่านได้ ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของท่านตลอดไป”เหยียนเยว่เอ๋อร์ทำปากจู๋ สภาพดูน้อยใจมาก
เหยียนซีโรว่ซุกหัวเข้าไปในอ้อมอกหลัวซิว หน้าแดงก่ำไม่พูดอะไร
อุปนิสัยของสตรีทั้งสองนางที่แตกต่างไม่เหมือนกันแสดงออกให้เห็นอย่างถึงอกถึงใจเลย
“ผู้ใดเป็นคนบอกว่าพวกเจ้าเป็นตัวถ่วง? ผลการฝึกตนของข้าก็ไม่เห็นจะสูงกว่าของพวกเจ้านี่”หลัวซิวหลุดหัวเราะออกมา เขาก็ทราบอยู่แล้วว่าเหตุใดสตรีทั้งสองนางถึงแจ้นมาฝึกฝนไกลเช่นนี้ แต่เขาเป็นห่วงพวกนางมากจริง ๆ ไม่อยากให้พวกนางลำบากเช่นนี้
หากไม่ใช่เพราะบนตัวพวกนางมีออร่าตราประทับที่ตนทิ้งไว้ หากไม่ใช่เพราะเขามาตามมาทางฝั่งนี้ ทันทีที่พวกนางเป็นอะไรไป เกรงว่าตนคงต้องเสียใจทีหลังมากแน่นอน