มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2584
ก่อนที่หลัวซิวจะพูด ประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิเห็นว่าเขาได้ฆ่า หยูเฉิงเหวิน ดังนั้นเขาจึงพูดก่อนว่า “ข้าคือเจ้าสำนักจักรพรรดิแสงดาว เฉิงลั่วหยู ได้รู้ว่าหยูเฉิงเหวินจะทำร้ายผู้น้อยหลัว จึงมาห้ามเขา”
ในเวลานี้ เฉิงลั่วหยูไม่กล้าพูดว่าเขามาที่นี่เพื่อช่วย หยูเฉิงเหวิน ตอนนี้ หยูเฉิงเหวินถูกฆ่าตายและข้างหลัวซิวดูเหมือนว่าจะมีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ปกป้องเขาไม่กล้าคิดเรื่องอื่น ๆ ออกมา
แน่นอนว่าหลัวซิวเย้ยหยันกับคำพูดของ เฉิงลั่วหยู ถ้าเขามาเพื่อห้ามหยูเฉิงเหวินจริงๆ เขาคงทำไปนานแล้วแทนที่จะยืนลังเลอยู่ตรงนั้น
แน่นอนว่าเขายังสังเกตเห็นว่าสายตาของลาร์จับจ้องไปที่ เฉิงลั่วหยู จะเห็นได้ว่าถ้าลาร์ไม่อยู่ที่นี่ เฉิงลั่วหยูจะไม่ห้ามหยูเฉิงเหวินเลย และอาจช่วย หยูเฉิงเหวินฆ่าเขา หลัวซิวด้วยซ้ำ
“ถ้าอย่างนั้นข้ายังต้องจะขอบใจเจ้าสำนักจริงๆ ที่มาช่วย แต่หยูเฉิงเหวินถูกข้าฆ่าไปแล้ว ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นผู้อาวุโสไท่ซ่างสำนักจักรพรรดิแสงดาวของพวกเจ้า ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องไม่ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักแน่ แต่เป็นหยูเฉิงเหวินที่ทำเองใช่ไหม?” หลัวซิวพูดด้วยรอยยิ้ม
เดิมที เฉิงลั่วหยูก็อยากอธิบายแบบนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าหลัวซิวจะพูดคำพูดที่เขาจะพูด ร่องรอยของความลำบากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาพยักหน้าและพูดว่า “ผู้น้อยหลัวมีความชอบธรรม สำนักจักรพรรดิแสงดาวของข้าจะไม่มีวันเป็นศัตรูกับเจ้าเด็ดขาด”
“เหอะเหอะ ข้าเชื่อว่าเจ้าสำนักเฉิงไม่ได้หมายความอย่างนั้น ตอนที่ข้าอยู่ในโลกาเสวียนหมิง ข่งเม่าจากสำนักจักรพรรดิแสงดาวของพวกเจ้าก็ไม่ได้โจมตีข้า แต่พวกเจ้าพาข่งเม่าเข้าสู่แดนปริศนาด้วยกัน เขายังติดยาเซียนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ต้นหนึ่งกับข้าอยู่” หลัวซิวกล่าว
เดิมทีหลัวซิวไม่ได้ตั้งใจจะมาขอยาเซียนนี้ที่ข่งเม่าเป็นหนี้อยู่ เดมิทีเขามุ่งเป้าไปที่ตระกูลและสำนักที่อยู่เบื้องหลังที่โจมตีเขาเท่านั้น ข่งเม่าไม่ได้โจมตีเขา หลัวซิวเองก็ ไม่อยากไปขอยาเซียนนี้
อย่างไรก็ตาม ทัศนคติของ เฉิงลั่วหยูทำให้หลัวซิวสูญเสียความปรารถนาดีที่มีต่อสำนักจักรพรรดิแสงดาวไปหมด แน่นอนว่าในโลกของศิลปะการต่อสู้นี้นอกจากญาติและเพื่อนของเขาแล้ว คนอื่นๆ ก็พึ่งไม่ได้จริงๆ
ยาเซียนที่ข่งเม่าเป็นหนี้เขา หลัวซิวไม่ได้ตั้งใจจะให้สำนักจักรพรรดิแสงดาวได้เปรียบแล้ว
เฉิงลั่วหยูคาดไม่ถึงว่าหลัวซิวพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แต่เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว พยักหน้าและพูดว่า “ผู้น้อยหลัวไม่ต้องกังวล เรื่องของยาเซียน ข่งเม่าบอกข้าแล้ว และเดิมทีตั้งใจจะส่งถึงตระกูลจี้ เกรงใจจริงๆที่ให้ผู้น้อยมาด้วยตัวเอง”
ขณะที่พูด เฉิงลั่วหยูหยิบกล่องหยกซึ่งมียาเซียนระดับ 6 ออกมา
ในใจของหลัวซิวไม่สนใจ เฉิงลั่วหยูพูดประโดยคนี้หลอกผียังดีกว่า อสูรดูดจิตเดินไปหยิบกล่องหยก หลัวซิวเปิดมันเพื่อตรวจสอบยาเซียนที่อยู่ภายในและพบว่ามันเป็นระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ยาเซียนต้นหนึ่งจริงๆ
“เช่นนี้แล้ว ขอบใจเจ้าสำนักเฉิง คนของตระกูลหยูกักขังภรรยาของข้าเพื่อกลั่นวิชามนต์ดำ ดังนั้นข้าจึงทำลายเมืองตระกูลหยู ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักเฉิงคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”
“ตระกูลหยูหาเรื่องตายเอง พวกเขาสมควรได้รับ!” เฉิงลั่วหยูทำได้เพียงกัดกฟันกรอดแล้วพูดคำเหล่านี้โดยขัดต่อความประสงค์ของเขา
“เจ้าสำนักเฉิงมีความชอบธรรมอย่างแท้จริงและเป็นคนดี ถ้าไม่มีอะไรอื่น ข้าจะจากไปแล้ว”
โบกมือ หลัวซิวสังเวยของขลังจักรพรรดิเทพออกมา จากนั้นก็หายไปในอนัตตาพร้อมกับ อสูรดูดจิต ลาร์ เยว่เอ๋อร์และซีโรว่
หลังจากที่หลัวซิวและพรรคพวกของเขาจากไป เฉิงลั่วหยูรู้สึกว่าความกดดันที่ทำให้เขาหายใจลำบากค่อยๆ หายไป สีหน้าของเขาก็มืดมนอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าในใจของเขาจะแค้นแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าที่จะตามไปหาเรื่องหลัวซิว เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าชายผู้แข็งแกร่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ออกจะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย อาจจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่งกาจกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์อีกด้วย!
มหาจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไปยังมีแดนที่แข็งแกร่งกว่า เฉิงลั่วหยูซึ่งเป็นประมุขแห่งสำนักจักรพรรดิรู้เรื่องนี้ดี แต่เขาก็รู้ด้วยว่าไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับนั้นในมหาโลกาพันสาม เฉพาะในโลกมหาศักดิ์แปดด้านเท่านั้นที่มี
“เป็นไปได้ไหมว่าหลัวซิวคนนี้มาจากโลกมหาศักดิ์แปดด้าน? นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดเขาถึงถูกปกป้องด้วยผู้แข็งแกร่ง?”
เฉิงลั่วหยูนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เพราะมีข่าวลือว่าเผ่าจี้มาจากโลกมหาศักดิ์แปดด้าน หากไม่ใช่เพราะกลัวสิ่งนี้ สำนักจักรพรรดิตระกูลใหญ่อื่น ๆ จะไม่เต็มใจที่จะไปหาเรื่องหลัวซิวและเผ่าจี้อย่างง่ายดาย