มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2605
หลัวซิวก็เรียกตำหนักวัฏสงสารออกมาจากห้วงจักรหยั่งรู้เช่นกัน ตำหนักสีน้ำตาลแก่พุ่งชนเข้ากับฝ่ามือใหญ่มังกรม่วงอย่างรุนแรง ทำให้ห้วงดาราถูกบดขยี้จนแตกสลายเป็นวงกว้าง
ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว หลัวซิวก็ปะทะกับซือถูเซิ่งเจี๋ยไปสิบกว่ากระบวนท่า เขาดูดซับพลังจากโลหิตแห่งชิงเทียนอย่างต่อเนื่อง อาศัยคุณลักษณะเวียนว่ายตายเกิดของพลังแห่งชิงเทียน ยังพอถูไถฝืนต้านทานต่อไปได้
ขณะที่เขาอยู่ในแดนมกุฎเทพ ก็สามารถข้ามขั้นสังหารจักรพรรดิเทพได้อย่างง่ายดายแล้ว แต่ว่าหลังจากเขาอาศัยอุบายเพิ่มเสริมต่าง ๆ ยกระดับผลการฝึกตนขึ้นมาถึงจักรพรรดิเทพ แล้วเผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลางคนหนึ่ง กลับทำได้เพียงฝืนต้านทานอย่างยากลำบาก
นี่ไม่ได้หมายความว่าศักยภาพของหลัวซิวเทียบเคียงกับอดีตไม่ได้ ทว่าจากการที่แดนยุทธ์ยิ่งอยู่ยิ่งสูง ระยะความต่างก็ยิ่งอยู่ยิ่งมาก ระดับความยากในการข้ามขั้นประลองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
อ้างอิงจากการคาดการณ์ของตัวหลัวซิวเอง หากเขาจะมีศักยภาพในการต่อกรกับมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลาง อย่างน้อยสุดก็ต้องยกระดับถึงจักรพรรดิเทพช่วงกลางก่อนถึงจะทำได้
ในขณะที่หลัวซิววางแผนจะใช้ศิลาผนึกปีศาจอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีหมอกดำกลุ่มหนึ่งฉีกกระชากห้วงดารา ปรากฏกลางสนามรบภายในพริบตา ก่อนจะมีพลังความตายที่มากมายมหาศาลแผ่กระจายออกมา
ในขณะเดียวกัน ก็มีเงาดำร่างหนึ่งปรากฏกลางหมอกดำ ถัดจากนั้นโลงศพเทวสีดำใบหนึ่งก็พุ่งกดอัดไปทางซือถูเซิ่งเจี๋ยกะทันหัน
“มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ?”
สีหน้าของหลัวซิวดูผงะเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงเลยว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะปรากฏตัวเวลานี้ อีกทั้งยังลงมือช่วยตัวเองรับมือกับซือถูเซิ่งเจี๋ยด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อมีการลงมือของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ ทำให้หลัวซิวสลัดความคิดที่จะใช้ศิลาผนึกปีศาจทิ้ง ฟาดฟันกระบี่ร่องฟ้าออกไป เพลาไหลรวยปรากฏ
เพลาไหลรวยของเขาได้ทำการผนึกซือถูเซิ่งเจี๋ยเอาไว้ ถึงแม้จากผลการฝึกตนของซือถูเซิ่งเจี๋ยเขาจะสามารถหลุดพ้นจากการถูกพันธนาการก็ตาม ทว่าก็จำเป็นต้องใช้เวลาเช่นกัน
ตู้ม!
ภายใต้การร่วมมือของหลัวซิวและมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ ทำให้สีหน้าของซือถูเซิ่งเจี๋ยเปลี่ยนไปหนักมาก กระอักเลือดเฮือกใหญ่ ร่างกายกระเด็นออกไป
“ปรปักษ์สวรรค์!”
ร่างกายของหลัวซิวดั่งลำแสง วิญญาณแห่งวีรบุรุษทั้งหลายปรากฏ แสงกระบี่ที่แวววาวจับตาฉีกกระชากท้องฟ้า
มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน ง้างมือตบทีหนึ่ง ฝาของโลงศพเทวจึงแง้มออกเล็กน้อย ก่อนจะมีฤตยูมหากาพย์ที่มืดทึบน่ากลัวม้วนซัดออกมา
สีหน้าของซือถูเซิ่งเจี๋ยหม่นหมองอย่างยิ่ง เขาก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะปรากฏตัวเวลานี้ เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าศักยภาพของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิไม่ด้อยกว่าเขา ยิ่งกว่านั้นคือแข็งแกร่งกว่าเขาเล็กน้อยด้วย บวกกับหลัวซิวที่มีกำลังรบมหาจักรพรรดิยุทธ์ วันนี้เขาไม่มีทางกำราบหลัวซิวได้แน่นอน
ด้วยเหตุนี้ซือถูเซิ่งเจี๋ยจึงไม่ได้รบติดพันต่อแต่อย่างใด หยิบฮู้ชิ้นหนึ่งออกมาโดยตรงแล้วบีบมันให้แตก ก่อนจะกลายร่างเป็นแสงกลดวงหนึ่งภายในพริบตา ทลายอนัตตาแล้วหายวับไป
หรงเทาก็ย่อมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทางฝั่งนี้ได้อยู่แล้ว ถึงแม้ระหว่างการต่อสู้ของเขาและลาร์ เขาจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ ทว่าร่างเนื้อของฝ่ายตรงข้ามเกะกะระรานมากเกินไป เขาแทบจะทำลายเกราะป้องกันของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย เมื่อเห็นว่าซือถูเซิ่งเจี๋ยถึงขั้นหลบหนีไปแล้ว เขาคนเดียวจะมีทางสู้สามคนไหวได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้ หรงเทาจึงถอนตัวถอยกลับอย่างรวดเร็วเช่นกัน ควบคุมแสงกลดวงหนึ่ง จากไปอย่างรวดเร็ว
หลัวซิวหยุดยั้งลาร์ที่อยากไล่ตามไปเอาไว้ จากศักยภาพผลการฝึกตนของหรงเทา ต่อให้ไล่ตามไปแล้วก็ทำอะไรฝ่ายตรงข้ามไม่ได้
“ขอบพระคุณมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิมากที่ลงมือช่วยเหลือ”หลัวซิวมองไปทางมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิที่นั่งท่าขัดสมาธิอยู่บนโลงศพเทวสีดำ พลางทำท่าคารวะพลางพูด
เขาทราบอยู่ว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเคยมีความขัดแย้งกับเขาดึกดำบรรพ์ และยิ่งมีบ่วงแค้นต่อเขาดึกดำบรรพ์ด้วย แต่อย่างไรเสียครั้งนี้มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็ได้ช่วยเหลือตัวเองไว้
“หากเจ้าไม่รังเกียจละก็ ระหว่างเจ้าและข้าสามารถเรียกสหายแทนกันได้”มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิหัวเราะแล้ว สีหน้าที่ดูชั่วร้ายถึงขั้นทำให้คนรู้สึกได้ถึงความจริงใจอย่างยิ่ง
เรียกสหายแทนกัน?
หลัวซิวรู้สึกแปลกใจอย่างอดไม่ได้ มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะมาไม้ไหนอีกล่ะ?