ในช่วงเวลาที่หลัวซิวปิดขัง เขาไม่ทราบแต่อย่างใดว่าเนื่องจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภูเขาถูหลิง ทำให้ทั้งมหาโลกาพันสามเกิดแรงสั่นสะเทือนที่ไม่น้อยเลย
หลังจากมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิได้รับกรองแก้วมรกตดั้งเดิมแล้ว เขาก็หายวับไปเช่นกัน นายแห่งตระกูลหงพากำลังคนบุกตามไปถึงที่อย่างเดือดดาล สำนักจักรพรรดิมรณะจึงผนึกสำนักเขาโดยตรง
นายแห่งตระกูลหงเกือบจะฝืนใช้อำนาจโจมตีสำนักเขาของสำนักจักรพรรดิมรณะให้แตกแล้ว ทว่ากลับไม่ได้เสียสติแต่อย่างใด หากสำนักเขาของสำนักจักรพรรดิมรณะตีแตกง่ายเช่นนั้นละก็ สำนักจักรพรรดิมรณะก็คงไม่มีทางสืบสานมาได้ยาวนานเช่นนี้หรอก
จากนั้นตระกูลหงก็ไปหาเผ่าจี้ อีกทั้งไม่เสียดายที่ต้องแตกหักกับเผ่าจี้ จะให้เผ่าจี้ส่งตัวหลัวซิวออกมา
ด้วยเหตุนี้บรรพอาจารย์ซ่อนเร้นอีกคนหนึ่งของตระกูลหงก็ออกจากการปิดขังเช่นกัน ลงไม้ลงมือกับนายแห่งเผ่าจี้อยู่นอกดารายอดอัมพรอย่างยิ่งใหญ่ ทว่าทั้งสองฝ่ายกลับไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรกันและกันได้เลย
นายแห่งเผ่าจี้ก็จนปัญญามากเช่นกัน เขานึกไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวเพิ่งออกไปได้ไม่นาน ก็ถึงขั้นสร้างปัญหาที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ดูจากท่าทีในครั้งนี้ของตระกูลหง หากเผ่าจี้ไม่ส่งตัวหลัวซิวออกไป ตระกูลหงก็จะเปิดศึกสงครามกับเผ่าจี้ทันที
นายแห่งเผ่าจี้ย่อมไม่อยากเอาเป็นเอาตายกับตระกูลหงอยู่แล้ว ถึงแม้ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้กองกำลังของเผ่าจี้จะขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม ทว่าหอยอดอัมพรกลับยังคงอยู่เช่นเคย มาตรแม้นว่าเพราะการดับสลายสูญสิ้นของเจ้าหอยอดอัมพรรุ่นก่อนจะทำให้หอยอดอัมพรถ่อมตัวกว่าอดีตมาก ๆ และยิ่งถูกเผ่าจี้แย่งอำนาจบารมีไป แต่จากการที่บรรพอาจารย์ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ของกองกำลังใหญ่ทั้งหลายต่างพากันเปิดตัวสู่โลกาภายนอก หรือหอยอดอัมพรไม่มีบรรพอาจารย์ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์คอยคุ้มกันรักษาจริง ๆ?
บัดนี้นายแห่งเผ่าจี้ก็ถือว่าเข้าใจเล็กน้อยแล้ว หลังจากเจ้าหอยอดอัมพรรุ่นก่อนดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว หอยอดอัมพรจงใจถ่อมตัวลง เพื่อทำให้เผ่าจี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา แล้วกลายเป็นเป้าหมายที่ผู้คนต่างเข้าโจมตี
หากไม่มีความจำเป็น ตระกูลหงก็ไม่อยากเอาเป็นเอาตายกับเผ่าจี้ให้ถึงที่สุดอยู่แล้ว เนื่องจากตระกูลหงมาจากโลกมหาศักดิ์ ซึ่งเคยได้ยินตำนานเรื่องเล่าของเผ่าจี้อยู่ หากพูดถึงเรื่องความเป็นมาแล้วละก็ ตระกูลหงไม่มีสิทธิ์เทียบเคียงกับเผ่าจี้เลยด้วยซ้ำ
หากไม่ใช่เพราะเผ่าจี้เสื่อมทรุดลงถึงจุดต่ำสุดจริง ๆ ต่อให้ตระกูลหงมีอำนาจมากกว่านี้ร้อยเท่า พวกเขาก็ไม่กล้ามารุกรานเผ่าจี้หรอก
ทั้งสองฝ่ายจึงปรึกษาหารือร่วมกันอย่างญาติดี สุดท้ายก็ได้กำหนดการแข่งขันครั้งหนึ่ง และผู้เข้าแข่งขันของทั้งสองฝ่ายก็คือหลัวซิวและนายแห่งตระกูลหง หงเว่ย
สาเหตุที่นายแห่งเผ่าจี้ตอบตกลงการแข่งขันในครั้งนี้นั้น เป็นเพราะเขามั่นใจในตัวหลัวซิวมาก มิหนำซ้ำบัดนี้หลัวซิวยังไม่กลับมา เมื่อถึงครานั้นหากหลัวซิวกลับมาแล้วไม่อยากเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เขาก็เลือกที่จะปกป้องหลัวซิวอย่างสุดกำลังสามารถ มากสุดก็แค่แตกหักกัน แล้วทั้งสองฝ่ายเปิดศึกสงครามกัน
ตระกูลหงเป็นผู้เสนอการแข่งขันในครั้งนี้ จึงต้องมีความมั่นใจอยู่แล้ว ผลการฝึกตนของหงเว่ยขาดเพียงก้าวเดียวก็คือมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว แม้นการตายของหงหวู้จะมีความเกี่ยวข้องกับหลัวซิว แต่นั่นก็เป็นเพราะหลัวซิวพึ่งพิงค่ายกล อ้างอิงจากข่าวคราวที่ตระกูลหงยึดกุม ผลการฝึกตนที่แท้จริงของหลัวซิวเป็นเพียงแดนจ้าวมหาเทพเท่านั้น
หงเว่ยเชื่อว่าขอแค่ไม่มีเวลาให้หลัวซิวได้จัดวางค่ายกล ต่อให้เขาเป็นนักค่ายเทพระดับหกคนหนึ่ง เมื่อขาดที่พึ่งพิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไป เขาก็เป็นเพียงเนื้อปลาบนเขียงเท่านั้นแหละ!
ตัวหลัวซิวเองไม่ทราบเรื่องทั้งหมดนี้แต่อย่างใด เมื่อผลการฝึกตนของเขามีการบรรลุแล้วย้อนกลับมายังยอดอัมพร ก็ได้ยินข่าวคราวนี้เป็นเวลาแรกเลย
และจากการกลับมาของหลัวซิว ทำให้กองกำลังทั้งหลายต่างเดือดพล่านขึ้นมา คนจำนวนมากต่างพากันเร่งเดินทางไปยังตำแหน่งที่ตั้งของแดนปริศนาเผ่าจี้ เนื่องจากทุกคนล้วนทราบกันดีว่าในเมื่อหลัวซิวกลับมาแล้ว เช่นนั้นก็หมายความว่าการแข่งขันระหว่างเขาและนายแห่งตระกูลหงหงเว่ยจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
นี่คือการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย ฝั่งหนึ่งคือนายท่านตระกูลมหาจักรพรรดิยุทธ์อย่างตระกูลหง เป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพขั้นสูงที่ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็สามารถบรรลุเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว ส่วนอีกฝั่งหนึ่งกลับเป็นคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นเป็นเยี่ยมและมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยผลการฝึกตนจ้าวมหาเทพ เล่ากันว่าเขามีกำลังรบในการต่อกรกับจักรพรรดิเทพได้แล้ว และยิ่งเป็นมหาปรมาจารย์ที่มีระดับฝีมือในวิถียาและวิถีค่ายกลสูงส่ง!