มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2622

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2622

เมื่อคนดังกล่าวปรากฏตัวกะทันหัน ทำให้เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ตกใจจนสะดุ้ง ส่วนรูม่านตาของหลัวซิวกลับหดลง จิตสังหารในใจเดือดพล่าน

ที่นี่คือแดนปริศนาเผ่าจี้ อีกทั้งยังเป็นถ้ำของเขาอีก ไม่ว่าคนดังกล่าวจะเป็นผู้ใดก็ตาม การที่ทลายตัวต้องห้ามที่อยู่บริเวณรอบถ้ำของเขาอย่างอุกอาจแล้วบุกเข้ามาโดยตรงนั้น เขาต้องมาด้วยความประสงค์ร้ายแน่นอน

อีกทั้งคนดังกล่าวสามารถบุกเข้ามาในแดนปริศนาเผ่าจี้ และยังสามารถทลายตัวต้องห้ามที่อยู่รอบถ้ำได้อย่างง่ายดาย ยิ่งกว่านั้นคือมันทำให้ตัวหลัวซิวเองสัมผัสล่วงหน้าไม่ได้ด้วย ศักยภาพของคนดังกล่าวต้องไม่ธรรมดามากแน่นอน

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ใด เจ้าวางแผนจะอธิบายเรื่องที่เจ้าบุกเข้ามาในถ้ำของข้าโดยพลการอย่างไร?”หลัวซิวถามกระแทกเสียงต่ำ

“เหอะ ๆ ท่านชายซิวหลัวยังไม่ทราบจุดประสงค์ในกลับมาเยือนของข้าอีกหรือ ขณะที่ล้มล้างตำหนักเสินหยู มึงก็จองหองมากเลยมิใช่หรือ? ไอ้สวะหรงเทานั่นไม่สามารถจับกุมตัวมึงกลับไปได้ กูจึงทำได้เพียงลงมือด้วยตนเอง”

เมื่อฝ่ายตรงข้ามพูดคำพูดดังกล่าวออกมา หลัวซิวก็ทราบความเป็นมาของคนดังกล่าวแล้ว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาเป็นคนที่มาจากตำหนักเสินหยู อีกทั้งศักยภาพยังแข็งแกร่งกว่าหรงเทามากด้วย

หลัวซิวสัมผัสออร่าเกณฑ์พลังเต๋าลาง ๆ ได้จากตัวคนดังกล่าว แต่ทว่าเกณฑ์พลังเต๋าประเภทนั้นยังบรรลุไม่ถึงเทพมารระดับเจ็ด แสดงว่าคนดังกล่าวไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเจ็ดแต่อย่างใด

มาตรแม้นว่าเป็นเช่นนี้ ศักยภาพของคนดังกล่าวก็แข็งแกร่งมาก ซึ่งมีโอกาสเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงสูงมาก

“ลาร์!”

หลัวซิวตะคอกเสียงดังลั่น ถัดจากนั้นลาร์ก็มาถึงภายในถ้ำ เมื่อเขาเห็นชายชุดคลุมเทานั่น ก็ผงะไปอย่างอดไม่ได้ เนื่องจากเขาเฝ้าอยู่ด้านนอกมาโดยตลอด ทว่าถึงขั้นไม่รู้ตัวเลยว่าคนดังกล่าวเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด

หลัวซิวไม่ได้อธิบายเรื่องนี้แต่อย่างใด อย่างไรเสียลาร์ก็ไม่สามารถใช้ผลการฝึกตนและตัวสำนึก จึงไม่โทษที่เขาสัมผัสไม่ได้ว่าคนดังกล่าวบุกเข้ามาในถ้ำ

“เยว่เอ๋อร์ ซีโรว่ พวกเจ้าตามลาร์ออกไปก่อน”หลัวซิวค่อย ๆ เอ่ยปากพูด บัดนี้เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบของสตรีทั้งสองนางก็ถูกจัดจนเป็นระเบียบแล้ว

“นายท่าน ท่าน……”ลาร์ขมวดคิ้วลง ในมุมมองของเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของนายท่านต่างหาก

“ทำตามที่ข้าสั่ง!”หลัวซิวโบกมือ

เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ก็ทราบเช่นกันว่าเวลานี้พวกนางช่วยเหลืออะไรหลัวซิวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นพวกนางจึงตามลาร์ออกไปอย่างเชื่อฟังคำสั่งมาก

ชายชุดคลุมยาวเทาก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดยั้งการจัดแจงของหลัวซิวเช่นกัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “มึงจะไปกับกูด้วยตนเอง? หรือจะให้กูลงมือด้วยตนเอง? แม้ที่นี่จะเป็นอาณานิคมของเผ่าจี้ ทว่าหากกูอยากลงมือละก็ ในเผ่าจี้ก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งกูได้”

หลัวซิวรู้อยู่ว่าทั้งหมดที่คนดังกล่าวพูดมาเป็นความจริง อย่าว่าแต่เผ่าจี้เลย ต่อให้เป็นลาร์ก็ใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของคนดังกล่าวเสมอไป

“เชิญเถอะ!”

หลัวซิวโบกมือไปมา ต่อให้ต้องลงมือ เขาก็ไม่มีทางเลือกที่จะลงมือในแดนปริศนาเผ่าจี้แน่นอน จากศักยภาพของชายชุดคลุมยาวเทานี่ หากเปิดศึกสงครามอย่างไร้ความพะวง ทั้งแดนปริศนาเผ่าจี้ต้องพังทลายแน่นอน ที่นี่คือรากฐานของเผ่าจี้ หากถูกทำลายล้างละก็ มันจะส่งผลกระทบที่ไม่น้อยต่อเผ่าจี้

อีกทั้งไม่เร็วก็ช้าสุดท้ายเขาก็ต้องจัดการปัญหาของตำหนักเสินหยูอยู่ดี เมื่อปีนั้นเขาไม่สามารถหยุดยั้งหรงเทาและซือถูเซิ่งเจี๋ยเอาไว้ได้ หลัวซิวก็รู้แล้วว่าคนในตำหนักเสินหยูยังต้องตามมาอีกแน่นอน แต่เขาแค่นึกไม่ถึงว่าวันนี้มันจะมาถึงเร็วเช่นนี้ อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังจองหองเช่นนี้ด้วย

“มึงประเมินสถานการณ์เก่งมาก”ชายชุดคลุมยาวเทายิ้มพลางพยักหน้า จากนั้นเขาและหลัวซิวทั้งสองคนก็เดินออกไปจากถ้ำ โดยที่คนหนึ่งเดินนำอยู่ด้านหน้าคนหนึ่งเดินตามอยู่ด้านหลัง

ในขณะเดียวกัน เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ก็ได้แจ้งเรื่องที่มีคนบุกเข้ามาให้ผู้อาวุโสในเผ่าจี้ทราบเช่นกัน ถัดจากนั้นนายแห่งเผ่าจี้ก็ตื่นตกใจไปด้วย เพราะฉะนั้นทันทีที่หลัวซิวและชายชุดคลุมยาวเทาออกมา นายแห่งเผ่าจี้ก็พาเหล่าผู้อาวุโสเร่งเดินทางมาแล้ว