มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2897
ในเมื่อก่อน หลัวซิวไม่รู้ว่าอสูรฟ้าใหญ่มีการดำรงอยู่เช่นไร จนกระทั่งเขาได้เป็นลูกศิษย์ของมกุฎเต๋าหวูจี๋อย่างเป็นทางการในหลายปีที่ผ่านมา สำหรับความลับบางอย่างของสมัยโบราณกาล เขาถึงได้รับรู้อย่างโดยสังเขป
หลังจากพ่านพ้นมหาทัณฑ์ในสมัยต้าเหยียน บรรพโบราณทั้งแปดได้บุกเบิกฟ้า ดิน ดำ เหลือง จักรวาลหิวโหยโลกาห้วงดาราแปดด้าน โลกมหาศักดิ์แปดด้านในตอนนั้นทรุดโทรมรอการฟื้นฟู
อสูรฟ้าใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคนั้น เคยต่อสู้กับชิงเทียนประมุขเต๋าสวรรค์ยุคแรก แม้ว่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สุดท้ายชิงเทียนได้กลายเป็นประมุขเต๋า ทว่าอสูรฟ้าใหญ่ก็มิได้สิ้นชีพ
บุญคุณความแค้นมากมายรวมเข้าด้วยกัน ทำให้ภายในใจของอสูรฟ้าใหญ่เต็มไปด้วยความแค้นที่มีต่อประมุขเต๋าชิงเทียนอย่างไม่เคยจางหายไป ดังนั้นในเวลานี้ โลกาฟ้าดินหลิงหลงได้ยื่นกิ่งไม้แห่งสันติภาพให้กับเขา
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยุคบำเพ็ญปรปักษ์ที่มีอสูรฟ้าใหญ่เป็นผู้นำ จึงได้เริ่มขึ้น
ทว่าท้ายที่สุดแล้วอสูรฟ้าใหญ่ก็ยังไม่อาจกลายเป็นประมุขเต๋าได้ แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นใกล้เคียงกับประมุขเต๋า แข็งแกร่งยิ่งกว่าฮวงจวินที่มีผลการฝึกตนในแดนผู้แกร่งเลิศอีกมากนัก
“ผู้ใดกล้าประมือกับข้า!”
เสียงหนึ่งได้ตะโกนออกมาจากหมอกดำของหุบเขาอสูรฟ้า จากนั้นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดที่มีปราณปีศาจน่าครั่นคร้ามรายล้อมร่างก็ปรากฏขึ้น ร้องท้าทายมาทางเมืองต้าฮวงโบราณ
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันในอนัตตา ไม่ได้มีการต่อสู้เป็นวงกว้างเกิดขึ้นในทันที ในตอนแรกนั้น ย่อมมีการหยั่งเชิงเป็นหลัก
“ข้าสู้กับเจ้าเอง!”
เงาร่างสายหนึ่งลอยออกไปจากฝ่ายเมืองต้าฮวงโบราณ เป็นผู้แข็งแกร่งของชนเผ่าฮวงผู้หนึ่ง กงล้อเทพสีทองเจ็ดวงลอยอยู่ด้านหลังศีรษะ เป็นจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดคนหนึ่งเช่นเดียวกัน
“ฆ่า!”
ไม่จำเป็นต้องพูดมากใด ๆ จักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดสองคนเริ่มการต่อสู้ขึ้นทันที
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวลอยมาจากอนัตตาอย่างไม่ขาดสาย กองทัพทั้งสองฝ่ายที่มีเทพมารระดับเก้าเป็นทหารธรรมดา จักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดถือว่าเป็นพลังการต่อสู้ขั้นสูงแล้ว
แต่หลัวซิวกลับทราบดี การต่อสู้ยกนี้เป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อย เพราะไม่ว่าจะเป็นทางเมืองโบราณต้าฮวง หรือทางด้านแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่า แต่ละด้านต่างก็มีจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดนับหมื่นคนเป็นอย่างน้อย
กุญแจสำคัญที่จะสามารถกำหนดผลการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่จักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ด และก็ไม่ใช่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดอย่างแน่นอน อย่างน้อยจักต้องเป็นการประจัญบานระหว่างมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าถึงจะได้ หรือสุดท้ายแล้วอาจวิวัฒนาการกลายเป็นการชิงความเป็นใหญ่ของผู้ส่งเสียด้วยซ้ำ!
เมื่อการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้จะตัดสินแพ้ชนะได้อยู่แล้วนั้น ทางหุบเขาอสูรฟ้าก็มีการเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง
มังกรอสูรสีดำหน้าตาดุร้ายตัวแล้วตัวเล่าได้ลอยออกมา ในสายตาของมังกรแต่ละตัวเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม กรงเล็บอันน่าหวาดกลัว แผ่ซ่านไปด้วยรัศมีพลังอันแข็งแกร่ง
มังกรอสูรพวกนี้มิใช่อสูรจิตที่แท้จริง แต่เป็นเหมือนดั่งหุ่นเชิดที่เกิดขึ้นจากค่ายกล ไม่ว่าจะเป็นกรงเล็บ หัวมังกร ตัวมังกร หางมังกร ปีกมังกร ล้วนสลักไปด้วยลายค่ายของค่ายกลมากมายมหาศาล จำเป็นต้องมีนักยุทธ์จำนวนมากอยู่ด้านใน ร่วมแรงกันขับเคลื่อน
ก็เหมือนกับเรือรบอสูรร้าง ที่จำเป็นต้องระดับกำลังของนักยุทธ์จำนวนมาก ถึงจะแสดงอานุภาพสูงสุดออกมาได้
“ลงมือ!”
เมื่อเสียงบัญชาการดังขึ้น เรือรบอสูรร้างของทางเมืองโบราณต้าฮวงต่างลอยเหาะขึ้นมา เรือรบอสูรร้างร้อยลำ ต่างก็ระเบิดคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ทัดเทียมได้กับผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดออกมา
คลื่นพลังเหล่านี้ มีแข็งแกร่งมีอ่อนแอ แข็งแกร่งเทียบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดชั้นยอด ส่วนที่อ่อนแอนั้นเทียบเท่ามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดขั้นปฐมภูมิหรือไม่ก็ช่วงกลาง
เมื่อเทียบกันแล้ว มังกรอสูรสีดำที่ลอยออกมาจากหุบเขาอสูรฟ้ามีจำนวนน้อยกว่าเล็กน้อย มีแค่หกสิบกว่าตัว แต่รัศมีพลังของมังกรอสูรพวกนี้อย่างน้อยแต่ละตัวกลับอยู่ในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงปลายขึ้นไป!
เรือรบอสูรร้างของทางเมืองต้าฮวงโบราณมีจำนวนมากกว่า แต่มังกรอสูรดำของหุบเขาอสูรฟ้ามีความแข็งแกร่งโดยส่วนตัวที่สูงยิ่งกว่า!
เริ่มจากการหยั่งเชิงเล็กน้อยในตอนแรก การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายก็ได้ปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน ระยะห่างระหว่างเมืองต้าฮวงโบราณกับหุบเขาอสูรฟ้าอยู่ในอนัตตาห่างกันนับล้านลี้ ได้กลายเป็นสนามภายในพริบตา
วินาทีที่สงครามได้ปะทุขึ้น จักรพรรดิเทพชนเผ่าฮวงกับจักรพรรดิเทพวิถีมารที่กำลังประมือกันอยู่ต่างถอยหลังอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากเรือรบอสูรร้างกับมังกรอสูรดำ บรรดาผู้แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายต่างกระโจนเข้ารบ ซึ่งมีเรือรบอสูรร้างกับมังกรอสูรดำเป็นกองกำลังหลักในการรบ การต่อสู้กันอย่างดุเดือดได้เกิดขึ้น
หลัวซิวไม่ได้ไปควบคุมเรือรบอสูรร้าง เพราะเมื่อเทียบกันแล้วสิ่งที่มีรูบร่างใหญ่มักกลายเป็นเป้าหมายอาวุธสงครามได้ง่าย เขาชอบการคลื่นไหวเพียงลำพังมากกว่า ถึงจะไม่เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนในสงครามที่มีผู้คนมากมาย
เพราะเขาทราบเป็นอย่างดี ทันทีที่คนของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่าซ่าพบเห็นร่องรอยของเขา จักต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตเขาอย่างแน่นอน
อีกอย่างเขามาที่นี่เพื่อขัดเกลาตนเอง หากต่อสู้โดยการอาศัยอานุภาพของเรือรบอสูรร้าง แล้วจะเป็นการขัดเกลาตนเองได้อย่างไร?
ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งของทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้ลงมือ วัฏจักรแปดกับวัฏจักรเก้าเองก็ไม่ได้เข้าสู่สนามรบโดยตรง
สามารถพูดได้โดยไม่ต้องลังเล ในสนามเช่นนี้ ยกเว้นหุ่นเชิดมังกรอสูรดำที่ยโสโอหังล้นฟ้าพวกนั้น หลัวซิวแทบจะไร้คู่ต่อสู้ก็ว่าได้!
มือถือกระบี่ร่องฟ้า หลัวซิวไปมาในสนามรบอย่างไร้ร่องรอย เขาสังหารไปนับร้อยคนเพียงในเวลาอันสั้น ในนั้นมีทั้งราชาเทพวัฏจักรห้า มีทั้งมกุฎเทพวัฏจักรหก
เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นมังกรอสูรดำหรือว่าเรือรบอสูรร้างต่างไม่จำเป็นต้องใช้จักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดทั้งหมดถึงจะแสดงอานุภาพออกมาได้ ดังนั้นผู้ที่ถืออาวุธต่อสู้ในสนามรบ ก็มีจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
คนที่กล้าทำเช่นนี้ ต่างก็เป็นหัวกะทิในบรรดาจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ด หรือไม่ก็ได้ฝึกฝนพลังอมตะวิชาอาถรรพณ์ที่ร้ายกาจ บ้างก็มีศัสตราวุธของขลังที่ทรงอานุภาพอยู่ในมือ สำหรับการบดขยี้ที่มีต่อนักยุทธ์ขั้นต่ำ แค่กวาดผ่านก็เป็นวงกว้าง
“ครืนนน!”
ทันใดนั้นเอง เสียงดังสนั่นหวั่นไหวก้องไปทั่วปฐพี หุ่นเชิดมังกรอสูรดำที่แผ่ซ่านไปด้วยกระแสพลังมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดขั้นสูงได้เล็งเป้าหมายไปที่เรือรบอสูรร้างมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงกลางลำหนึ่ง
กระแสพลังของทั้งสองฝ่ายห่างกันในสองแดนใหญ่ สำหรับในระดับขั้นมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด หากไม่มีวิธีเฉพาะที่ค่อนข้างแข็งแกร่งมาชดเชย สามารถพูดได้ว่ามีความแตกต่างกันมากเลยทีเดียว
ตามหลังเสียงที่ดังก้องกังวาน กรงเล็บเดียวของมังกรอสูรดำที่ได้กระแทกให้เรือรบอสูรร้างลอยออกไป เรือรบลำยักษ์พลิกตลบอยู่ในอนัตตา บดขยี้ปริภูมิเป็นวงกว้าง
ทว่ามังกรอสูรดำที่ดุร้ายตนนี้กลับไม่คิดที่จะปล่อยมันไป พบเพียงว่ามังกรอสูรดำตัวนั้นไล่ตามไปด้วยความเร็วเหมือนดั่งสายฟ้า กรงเล็บอันแหลมคมคู่หนึ่งตะครุบเรือรบอสูรร้างเอาไว้ หัวขนาดใหญ่ได้อ้าปากกว้างที่เต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคมของมัน จากนั้นก็งับลง
ตรงกลางของเรือรบอสูรร้างถูกกัดแหว่งไปก้อนใหญ่ นักยุทธ์หลายคนที่ช่วยขับเคลื่อนค่ายกลอยู่ด้านในตายไปกับที่
ในขณะเดียวกัน ลายค่ายของค่ายกลถูกทำลาย การขับเคลื่อนของค่ายกลสามพันได้รับผลกระทบ กระแสพลังที่แผ่ซ่านออกมาของเรือรบอสูรร้างได้ลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเรือรบอสูรร้างลำนี้กำลังจะถูกหุ่นเชิดมังกรอสูรดำทำลาย จู่ ๆ ก็มีตราประทับสีน้ำเงินขนาดใหญ่เหมือนดั่งภูเขาลอยเข้ามา เสียงกระแทกดังขึ้น กระทบลงไปบนศีรษะของมังกรอสูรดำ
มังกรอสูรดำถูกกระแทกถอยหลัง แหงนหน้าร้องคำรามเสียงดังสนั่น ดวงตาสีแดงก่ำคู่หนึ่ง เพ่งเล็งไปยังเงาร่างที่เดินออกมา
ผู้ที่ลงมือเซ่นของขลังออกมา คือผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดคนหนึ่งของฝ่ายเมืองต้าฮวงโบราณ แถมยังเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงปลาย!
“ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ลงสนามรบเร็วเช่นนี้เชียวหรือ?”
หลัวซิวมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้อยู่ไกล ๆ เขาเองก็พอจะเข้าใจว่าทำไมมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดลงเข้าร่วมการต่อสู้เร็วเช่นนี้ นั่นย่อมเป็นเพราะว่ามูลค่าของเรือรบอสูรร้างแต่ละลำไม่ธรรมดา หากถูกทำลายไป นับว่าเป็นความเสียหายไม่น้อยเลยสำหรับเมืองต้าฮวงโบราณ
แต่ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด มิใช่เพียงทางฝ่ายเมืองต้าฮวงโบราณเท่านั้นที่มี
การเข้าสู่สนามรบของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด ทำให้การต่อสู้ของทั่วทั้งสนามรบเพิ่มระดับขึ้นไปอีกขั้น กำลังพลของทั้งสองฝ่ายต่างมีคนตายอยู่ตลอดเวลา
หลัวซิวได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาและกลิ่นอายของตนเองตั้งแต่ตอนลงสู่สนามรบแล้ว วิถีไร้ลักษณ์ของเขาได้วิวัฒนาการเป็นวิถีเซียนไปเรียบร้อย ตอนนี้เขาใช้วิถีไร้ลักษณ์เปลี่ยนแปลงกลิ่นอายของตนเอง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งก็ไม่อาจมองทะลุได้
แม้ว่าเขาจะหลีกเลี่ยงการเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงอย่างเต็มที่แล้ว แต่ในขณะที่เขาฆ่าผู้คนในสนามรบมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็ยังคงตกเป็นเป้าของผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่าอยู่ดี
ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างดุเดือด ไอสังหารล็อกเขาเอาไว้แน่น
“เข้ามาได้ดี!”
หลัวซิวแหงนหน้าหัวเราะ จิตใจฮึกเหิม ภายใต้การซ่อนเร้นของการแปรวิถีไร้ลักษณ์ ในสายตาของคนอื่นแสงเซียนที่พุ่งกระฉูดออกมาของเขาเป็นเหมือนดั่งอัคคีที่ลุกโชน
คนที่ไม่รู้ จะมองเขาเป็นเพียงนักยุทธ์ที่ฝึกฝนธรรมเวชเพลิงอัคคีคนหนึ่ง
ที่ลงมือกับหลัวซิวมิใช่ใครที่ไหน เป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจที่เคยล่าสังหารเขานั่นเอง ทว่าในตอนนี้มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจกลับจำเขาไม่ได้
ก่อนหน้านี้ หลัวซิวสามารถรับมือกับมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจได้ แต่ยังคงตกเป็นรองเล็กน้อย แต่พลังการต่อสู้ของเขาในตอนนี้ได้อยู่เหนือกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่!”
เสียงร้องโหยหวนที่เต็มไปด้วยความไม่ยินยอมดังก้องไปทั่วหมู่เมฆ ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย
ร่างของมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูด บุรุษในชุดสีดำหน้า หน้าตาแสนธรรมดาคนหนึ่ง มือกุมแสงเทวเพลิงอัคคี เสมือนจับดาบ สังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจตายไปกับที่!
บุรุษธรรมดาคนนี้ ก็คือหลัวซิวนั่นเอง แสงเทวเพลิงอัคคีในความเป็นจริงคือการผนึกรวมของแสงเซียน
เพียงแต่ว่าทั้งหมดนี้ได้ถูกวิถีไร้ลักษณ์บดบังเอาไว้ ไม่มีผู้ใดสามารถมองออกถึงสถานะที่แท้จริงของเขาได้
นับตั้งแต่การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายได้เริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไรนัก ทว่าในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ ก็เริ่มมีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดสิ้นชีพแล้ว
ในสนามรบ ไม่เจ้าก็ข้าต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาได้สังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจ สีหน้าท่าทางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยกมือขั้นซัดออกไป ฝ่ามือเพลิงอัคคีขนาดใหญ่ข้างหนึ่งปรากฏขึ้นในกลางอากาศ
ตรามหาหัตถ์ราชาเซียน!
มือขนาดใหญ่ข้างนี้เป็นเหมือนดั่งไฟเผาเมฆที่ขอบฟ้า ฝ่ามือร่วงลง ไม่รู้ได้ตบคนของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจกับชนเผ่าเฉว่ซ่าตายไปเท่าไหร่ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้
“สารเลว ฆ่ามันเสีย!”
มหาจักรพรรดิยุทธ์รชนีปีศาจถูกสังหาร ได้ดึงดูดความสนใจผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจคนอื่น ๆ ทันใดนั้นก็มีกระแสพลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าหาหลัวซิวพร้อมกันเก้าสาย
ในกระแสพลังทั้งเก้าสาย มีสองสายเป็นหุ่นเชิดมังกรอสูรดำ แต่ละตัวแผ่ซ่านไปด้วยพลังของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดช่วงปลาย
กระแสพลังอีกแปดสายที่เหลือค่อนข้างอ่อนแอ แต่ทุกสายล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด
“ฆ่าได้เยี่ยม!”
“ทุกคนลงมือด้วยกัน มหาจักรพรรดิยุทธ์ไม่ได้ไร้เทียมทาน!”
“……”
เห็นมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งของอีกฝ่ายถูกสังหาร ทำให้กองทัพฝ่ายเมืองต้าฮวงโบราณมีกำลังฮึกเหิมขึ้นมาทันที
สนามรบนับล้านลี้ดูเหมือนจะกว้าง แต่ความจริงมิเป็นเช่นนั้น เวลาไม่ถึงสามอึดใจ ก็ได้มีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดฆ่าเข้ามาใกล้หลัวซิวเป็นที่เรียบร้อย
ในมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดทั้งสามคน มีสองคนมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีปีศาจ และอีกหนึ่งคนมาจากชนเผ่าเฉว่าซ่า
“ทะยานเซียน!”
หลัวซิวไม่เกรงกลัวเลยสักนิด เห็นเพียงเขาเหยียบอากาศเข้าไปตั้งรับ ยกมือต่อยออกไปหนึ่งหมัด หมัดของเขากลายเป็นดั่งแสงเซียนสายหนึ่ง ที่มีเปลวเพลิงสีทองลุกโชน
“ตึงงงง!”
มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดของชนเผ่าเฉว่ซ่าบุกนำหน้า หมัดของหลัวซิวต่อยลงไปบนพลังอมตะของเขา รู้สึกเพียงว่าพลังกลุ่มหนึ่งพุ่งทะลักใส่เขา ทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้าน แล้วปลิวถอยหลังออกไปนับร้อยลี้ถึงประคองร่างกายเอาไว้ได้
และในตอนนี้เอง หลัวซิวได้เข้าต่อสู้กับมหาจักรพรรดิยุทธ์อีกสองคนที่บุกเข้ามา