หลัวซิวไม่กล้าเข้าใกล้เขตพื้นที่ที่เป็นใจกลางของห้วงลึก นอกเสียจากเขาจะใช้พลังแห่งเซียนในขวดเซียนอัคคีหลอมจิต
แต่ทว่าหากทำเพื่อเสาะหาความลับของโลงศพเทวฝังสวรรค์ มันยังไม่คุ้มแก่การให้หลัวซิวใช้ไพ่เด็ดใบนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะจากไปอย่างไม่ลังเลใจ
ผันร่างเป็นแสงกลแล้วบินออกไปจากดาราที่รกร้างว่างเปล่าดวงนี้ หลัวซิวหันหน้ากลับไปมอง ไม่รู้เพราะเหตุใด เขามีลางสังหรณ์บางอย่าง บางทีใช่ว่าถูโยวหมิงอาจจะตายไปแล้วจริง ๆ เสมอไป
……
หลังจากที่ออกมาจากห้วงลึก หลัวซิวก็นำตัวเหยียนเยว่เอ๋อร์ออกมาจากหอคอยฮวง บนใบหน้านางมีรอยยิ้มจาง ๆ ขอแค่ได้อยู่เคียงข้างหลัวซิว กุมมือเขาไว้ นางก็รู้สึกเหมือนตนได้ครอบครองโลกทั้งใบแล้ว
นางไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่สงบสุขเช่นนี้จะดำเนินการไปได้อีกนานเท่าไหร่ นางรักษาทุกวินาทีที่ตนได้อยู่เคียงข้างคนรัก
บางครั้งความสุขเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการคำพูดใด ๆ มันก็เรียบง่ายเช่นนี้นี่แหละ
หลัวซิวย้อนกลับมายังเมืองหยุนซังแห่งดาราทงซังพร้อมกับเหยียนเยว่เอ๋อร์อีกครั้ง
เขาเคยอ่านความทรงจำของโกวต๋า หัวหน้าแก๊งทงซังรวมไปถึงซูเสว่หลัน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าในห้วงดาราไร้จ้าวแห่งนี้ จะมีจอมยุทธ์จำนวนมากไปรวมตัวกันบนดาราที่มีสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะมีกองกำลังที่ประกอบธุรกิจด้านหน่วยข่าวกรองโดยเฉพาะ
และสาเหตุที่หลัวซิวกลับมานั้น ก็เพื่อจะใช้กองกำลังที่ขายข่าวกรองเหล่านี้มาสืบเสาะสถานการณ์ของโลกร้าง
ณ ซอยเล็ก ๆ ซอยหนึ่งที่ไม่โดดเด่นในทิศตะวันออกของเมืองหยุนซัง ภายในซอยเล็ก ๆ ดังกล่าวมีบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งที่ดูธรรมดาเรียบง่ายมาก
บัดนี้หลัวซิวพาเหยียนเยว่เอ๋อร์มาถึงสถานที่ดังกล่าว
บริเวณลานหน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้น ใต้ต้นไม้ใหญ่มีผู้อาวุโสที่อยู่ในชุดคลุมยาวสีเทาคนหนึ่งกำลังนั่งตากลมอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ ข้างเก้าอี้มีโต๊ะหนึ่งใบ บนโต๊ะมีกาชาวางอยู่หนึ่งใบ
หากคนที่ไม่รู้ก็จะคิดแค่ว่าที่นี่คือสถานที่พักที่ธรรมดาเรียบง่ายแห่งหนึ่ง มีเพียงจอมยุทธ์บางส่วนในเมืองหยุนซังที่ผลการฝึกตนบรรลุถึงเทพมารระดับเก้าเป็นต้นไป ถึงจะทราบว่าที่นี่คือสถานที่ที่จัดเสนอข้อมูลข่าวกรองในทุก ๆ ด้าน
ข่าวกรองเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อจอมยุทธ์อย่างยิ่ง ยกตัวอย่างเช่นการตามหาทรัพยากรการฝึกตนต่าง ๆขจ วัตถุดิบที่ใช้สำหรับการหลอมอาวุธจัดวางค่ายกล และต้นยาเซียนที่ใช้ในการกลั่นยาต่าง ๆ เป็นต้น ล้วนต้องใช้เบาะแส ซึ่งเบาะแสก็คือข่าวกรอง ยิ่งระดับข่าวกรองเบาะแสที่เจ้าต้องการสูงเท่าไหร่ ราคาที่ต้องจ่ายก็ยิ่งสูงมากเท่านั้น
“โอ๊ะ? มีลูกค้ามาแล้วหรือ?”
เมื่อเห็นหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ปรากฏหน้าลานบ้าน ผู้อาวุโสชุดเทาที่นั่งตากลมอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณก็ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ไม้โบราณ
“ยินดีต้อนรับทั้งสองท่านขอรับ ทั้งสองท่านดูแปลกหน้าหน้า ทว่าในเมื่อสามารถตามหามาถึงที่นี่ได้ คาดว่าก็น่าจะทราบกฎเกณฑ์ของเทียนหวางโหลวแล้ว”
เทียนหวางโหลวคือองค์กรหน่วยข่าวกรองที่มีชื่อเสียงโด่งดังในห้วงดาราแห่งนี้ เครือข่ายข่าวกรองของพวกเขาได้รับสมญานามว่าเป็นเทียนหวาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ ที่เกิดขึ้นในดาราจักรวาล ก็ราวกับไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาไม่ทราบยังไงอย่างนั้น
เล่ากันว่าผู้แข็งแกร่งที่บุกเบิกเทียนหวางโหลวคือผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์พิเศษ เล่ากันว่าพรสวรรค์ที่ติดตัวเขามาตั้งแต่กำเนิดสามารถเชื่อมประสานสัมผัสกับชะตาฉางเหอที่ลึกลับมหัศจรรย์มากที่สุด
โชคชะตาเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างยิ่ง มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่บรรลุถึงแดนมกุฎเต๋า ก็ไม่อาจได้สัมผัสกับความลี้ลับของโชคชะตา
แต่หลัวซิวกลับเข้าใจดีมาก ๆ ว่าในธรรมวิถีทั้งปวงในจักรวาล มีวิถีชะตาคงอยู่จริง ๆ ระดับของธรรมประเภทนี้ใช่ว่าจะสูงกว่าการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาที่หาพบได้บ่อยเสมอไป แต่มันกลับเป็นธรรมที่สัมผัสได้ยากที่สุด
จักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล ในอสูรจิตทั้งปวง มักจะมีลูกรักที่มีพรสวรรค์พิเศษติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ยกตัวอย่างเช่นร่างเทวไร้มลทินของสวีเซิ่งเจี๋ย หรือร่างชะตาของอาจารย์ปู่แห่งเทียนหวางโหลว
ร่างชะตาคงอยู่อย่างแท้จริง ความพิเศษของฐานร่างประเภทนี้ไม่สามารถยกระดับกำลังรบของตัวเองได้โดยตรง แต่กลับสามารถสัมผัสชะตาฉางเหออันลึกลับที่มองไม่เห็นได้ สามารถรับรู้ข่าวลับส่วนมากที่คนทั่วไปไม่รู้
“ข้าต้องทราบกฎเกณฑ์อยู่แล้ว”
หลัวซิวผงกหัว พลิกมือหยิบหินบรรพไท่ชูออกมา แล้วโยนให้ฝ่ายตรงข้าม
หากต้องการสอบถามข่าวกรองใด ๆ ในเทียนหวางโหลว จำเป็นต้องจ่ายหินบรรพไท่ชูล่วงหน้าก่อนหนึ่งก้อน ซึ่งนี่ก็คือกฎเกณฑ์ของเทียนหวางโหลว
และเป็นเพราะเงื่อนไขข้อนี้นี่เอง จอมยุทธ์ส่วนใหญ่ที่บรรลุไม่ถึงเทพมารระดับเก้า มีน้อยคนมากที่สามารถได้รับทรัพยากรการฝึกตนระดับสูงอย่างหินบรรพไท่ชู
ฉะนั้นส่วนใหญ่ผู้ซื้อข่าวกรองของเทียนหวางโหลวจึงเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่สูงกว่าเทพมารระดับเก้า อีกทั้งเมื่อได้รับข่าวกรองจากเทียนหวางโหลวแล้ว ค่าตอบแทนก็ต้องจ่ายด้วยหินบรรพไท่ชูเช่นกัน ไม่ก็ใช้วัตถุดิบสมบัติที่อยู่ในระดับเดียวกันมาแลก
ชี่บรรพไท่ชูที่ซ่อนอยู่ในหินบรรพไท่ชูเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ ผู้อาวุโสชุดเทาโบกมือเก็บหินบรรพไท่ชูก้อนนั้นเข้าไป ก่อนจะมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า “ไม่ทราบว่าลูกค้าทั้งสองท่านต้องการซื้อข่าวกรองประเภทใดหรือ?”
“ข้าอยากทราบสถานภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ของโลกร้าง”หลัวซิวตอบกลับโดยตรง
รูม่านตาของผู้อาวุโสชุดเทาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหดลงเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาหรี่ตาลง “มูลค่าของข่าวกรองนี้มีตั้งแต่หินบรรพไท่ชูหนึ่งหมื่นก้อน ตลอดจนหินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อนขอรับ”
“หมายความว่าอย่างไร?”หลัวซิวเอ่ยปากสอบถาม จำนวนหินบรรพไท่ชูหนึ่งหมื่นก้อนกับหนึ่งแสนก้อนมันแตกต่างกันไม่น้อยเลย เป็นเพียงข่าวกรองเดียว แต่มูลค่ากลับผันผวนมากขนาดนี้ เขาจึงต้องถามให้ชัดเจนอยู่แล้ว
ต้องท้าวความก่อนว่าหินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อน เพียงพอที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อขั้นปฐมภูมิคนหนึ่งบรรลุถึงแดนช่วงกลางได้แล้วนะ
“หินบรรพไท่ชูหนึ่งหมื่นก้อนเป็นเพียงข่าวกรองทั่วไป แต่ถ้าเกิดเป็นหินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อนละก็ ข้อมูลก็จะละเอียดมากกว่าเดิม ข้าจักอ้างอิงจากราคาที่ท่านจ่าย แล้วนำข้อมูลส่งกลับไปสำนักงานใหญ่ การที่ท่านจะได้รับข่าวกรองมากน้อยเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนหินบรรพไท่ชูที่ท่านยอมจ่ายแล้วล่ะ”
หลัวซิวที่ได้ยินคำอธิบายของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้ถามอะไรมากเช่นกัน หยิบแหวนเก็บของออกมาหนึ่งวงแล้วยื่นให้ฝ่ายตรงข้ามโดยตรง
ผู้อาวุโสชุดเทายื่นมือออกไปรับแหวนเก็บของมา ใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจภายใน จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้
เพราะภายในแหวนเก็บของวงนี้ที่หลัวซิวให้เขา มีหินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อน!
นี่จึงทำให้ผู้อาวุโสชุดเทาอดมองชายหนุ่มชุดดำที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้ อย่างไรเสียหินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อนก็ไม่ใช่จำนวนที่คนทั่วไปสามารถควักออกมาได้ แม้นเจ้าเมืองหยุนซังที่แข็งแกร่งที่สุดบนดาราทงซังจะสามารถควักออกมาได้ แต่ก็ไม่มีทางใช้มันแลกกับข่าวกรองเพียงหนึ่งเรื่องอย่างแน่นอน
ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบคนหนึ่งของเทียนหวางโหลว สภาพจิตใจของผู้อาวุโสชุดเทากลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจเรื่องต้องห้ามบางอย่างดีมาก ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรมาก ก่อนจะพูดว่า: “เทียนหวางโหลวของเราจะรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคน มูลค่าของข่าวกรองต้องไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ผู้อาวุโสชุดเทาก็หยิบไข่มุกสีเขียวออกมาหนึ่งเม็ด หลัวซิวสัมผัสคลื่นออร่าตัวสำนึกของฝ่ายตรงข้ามได้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาใช้เคล็ดวิชาด้านวิญญาณบางอย่าง ยึดไข่มุกสีเขียวเม็ดนี้เป็นสื่อกลาง เพื่อติดต่อสื่อสารกับสำนักงานใหญ่ของเทียนหวางโหลว
ไม่นานนัก ผู้อาวุโสชุดเทาก็เก็บไข่มุกสื่อสารสีเขียวกลับเข้าที่ จากนั้นเห็นเพียงเขาขยำมือครั้งหนึ่ง จู่ ๆ ประตูไม้ของห้องนอนหนึ่งในตัวบ้านก็เปิดออก แล้วมีลำแสงบินออกมาจากห้องดังกล่าว
ทั้งตัวบ้านและลานบ้านมีค่ายกลต้องห้ามถูกจัดวางอยู่เยอะมาก ๆ ทว่าตัวสำนึกของหลัวซิวเทียบเท่าผู้สูงส่ง ดังนั้นค่ายกลต้องห้ามของที่นี่ไม่สามารถขัดขวางการตรวจสอบด้วยตัวสำนึกของเขาได้ด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ตัวสำนึกของหลัวซิวจึงเห็นว่าภายในห้องนอนห้องนั้นมีค่ายวาร์ฟหนึ่งค่าย วินาทีนี้ม้วนหยกชิ้นหนึ่งที่ผู้อาวุโสชุดเทากำลังถืออยู่ในมือก็ถูกส่งมาจากค่ายกลที่อยู่ภายในห้องดังกล่าวนี่แหละ
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเทียนหวางโหลวนี่มีระบบค่ายกลที่สมบูรณ์แบบหนึ่งชุดขญ ซึ่งเป็นเฉกเช่นเดียวกับองค์กรนักล่ายุทธ์แห่งโลกแสงดาวที่เขาเคยคบค้าสมาคม คุณสมบัติของทั้งสองสิ่งคล้ายคลึงกัน ทว่าระดับกลับแตกต่างกันเยอะมากถึงมากที่สุด
ใช้หินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อน หลัวซิวได้รับม้วนหยกชิ้นหนึ่งมาจากเทียนหวางโหลว หลังจากเขาแผ่ขยายตัวสำนึกเข้าไปภายในม้วนหยกแล้ว ตัวสำนึกก็อ่านข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
หลัวซิวไม่จำเป็นต้องดูสถานภาพเมื่อไม่กี่เดือนก่อนของโลกร้างด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมานี้
เทียนหวางโหลวสมกับเป็นองค์กรที่ชำนาญการสืบเสาะข่าวคราวต่าง ๆ จริง ๆ ในม้วนหยกก็มีการกล่าวถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสถานปรักเซียนแห่งแดนบรรพกาลเช่นกัน และยิ่งกล่าวถึงมกุฎเต๋าทั้งสี่!
สำหรับจอมยุทธ์ส่วนมากแล้ว การคงอยู่ของมกุฎเต๋าก็เป็นเหมือนผู้แข็งแกร่งในตำนาน แต่ดูเหมือนเทียนหวางโหลวจะรู้ข้อมูลที่เยอะกว่านี้มาก
ในขณะเดียวกันนี่ก็ทำให้หลัวซิวเข้าใจเช่นกันว่าตัวเองไม่ได้ใช้หินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อนเสียเปล่าญภ ถ้าเกิดเขาจ่ายหินบรรพไท่ชูแค่หมื่นก้อนละก็ เช่นนั้นภายในม้วนหยกต้องไม่มีการพูดถึงการคงอยู่ของผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ภายในม้วนหยกยังพูดถึงอีกด้วยว่าหลังจากปริภูมิของสถานปรักเซียนพังทลายลงไปแล้ว จอมยุทธ์ที่อยู่บริเวณรอบนอกของแดนบรรพกาลเมื่อครานั้น ไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์แห่งโลกร้าง หรือสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไท่ชู ต่างก็ได้รับความเสียหายที่หนักหน่วงอย่างยิ่ง
มกุฎเต๋าหวูซินและมกุฎเต๋าหวูจี๋ต่างได้รับบาดเจ็บทั้งคู่แล้วหลบหนีไป บริเวณรอบนอกของแดนบรรพกาลถูกพลังทำลายล้างห้วงเวลาที่น่ากลัวผนึก ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋า ก็ไม่กล้าบุกรุกเข้าไปง่าย ๆ
ต่อมาเรื่องราวของแดนบรรพกาลก็จบลงชั่วคราว ถัดจากนั้นมกุฎเต๋าหวูจี๋ก็กลับไปรักษาบาดแผลในโลกาอนัตตาอู๋จี๋
ทว่าไม่นานนัก มกุฎเต๋าบรรพฮวง……ก็ดับสลายสูญสิ้น!
ในขณะเดียวกันเนื่องจากการดับสลายสูญสิ้นของมกุฎเต๋าบรรพฮวง ทำให้ทั้งโลกร้างตกอยู่ในความวุ่นวายทันที โลกาฟ้าดินหลิงหลงและโลกาเทพมังกรไท่ชูก็ใช้โอกาสนี้บุกรุกเข้ามาอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่ สถานบรรพบุรุษของชนเผ่าฮวงถูกทำลายล้างจนกลายเป็นพื้นที่เรียบ!
ต่อมาตระกูลเทียนฮวงก็ถูกล้มล้าง อาณากระบี่หวูจี๋ถูกล้มล้าง!
โลกร้างในปัจจุบันถูกข้าศึกยึดไปโดยสิ้นเชิงแล้ว……
“เป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดจริง ๆ ด้วยสินะ?”
หลังจากหลัวซิวอ่านข่าวกรองที่อยู่ในม้วนหยกเสร็จเรียบร้อย เขาก็โบกมือทำลายม้วนหยกจนกลายเป็นฝุ่นผง
อันที่จริงเขาเตรียมใจเผชิญหน้ากับผลลัพธ์นี้ตั้งนานแล้ว ในขณะที่เขาทราบข่าวที่มกุฎเต๋าบรรพฮวงดับสลายสูญสิ้น เขาก็รู้แล้วว่าแค่อาศัยอาจารย์ตัวเองเพียงคนเดียว ก็คงหัวเดียวกระเทียมลีบ อย่างไรเสียฝ่ายตรงข้ามก็มีผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าเช่นกัน ทั้งยังไม่ได้มีเพียงคนเดียวด้วย มิหนำซ้ำหลังจากต่อสู้กับมกุฎเต๋าหวูซินอย่างยิ่งใหญ่ ตัวมกุฎเต๋าหวูจี๋เองก็ยังได้รับบาดเจ็บอีก?
“มกุฎเต๋าบรรพฮวงตายอย่างไร? ถูกผู้ใดสังหาร?”จู่ ๆ หลัวซิวก็ถาม
รูม่านตาของผู้อาวุโสชุดเทาขยายใหญ่ขึ้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาดูตะลึงมากที่หลัวซิวถามคำถามนี้
อย่างไรเสียนั่นก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่เหมือนดั่งตำนาน ซึ่งคำถามเช่นนี้เหมือนเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะยังกล้าถามอีกญบ เขาไม่กลัวว่าจะนำปัญหาที่ยิ่งใหญ่มาสู่ตนหรือ?
“ข่าวกรองนี้เกี่ยวเนื่องถึงสิ่งต้องห้าม ดังนั้นเทียนหวางโหลวของเราจึงไม่สามารถจัดเสนอให้ท่านได้ขอรับ”ผู้อาวุโสชุดเทาเพ่งมองหลัวซิวอยู่สามสี่วินาที สุดท้ายเขาก็ส่ายหน้าแล้วตอบกลับ
หลัวซิวก็ไม่รู้สึกแปลกใจต่อคำตอบนี้เช่นกัน การที่เทียนหวางโหลวสามารถคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ พวกเขาย่อมต้องมีวิถีในการเอาชีวิตรอดอยู่แล้ว ต่อให้ได้รับข้อมูลต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับมกุฎเต๋า พวกเขาก็จะไม่เอาข้อมูลประเภทนี้มาโอ้อวด เนื่องจากสำหรับเทียนหวางโหลวแล้ว ผู้แข็งแกร่งทุกคนที่อยู่ในระดับมกุฎเต๋าล้วนเป็นสิ่งต้องห้าม!
ทว่าแม้นเทียนหวางโหลวจักไม่บอก หลัวซิวก็ทราบเช่นกันว่าผู้ที่สามารถสังหารมกุฎเต๋าบรรพฮวงได้ ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับมกุฎเต๋าเหมือนกัน
มกุฎเต๋าหวูซินและมกุฎเต๋าหวูจี๋ต่างบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ เช่นนั้นจึงสามารถตัดความเป็นไปได้ของมกุฎเต๋าหวูซินทิ้ง ต่างอยู่ในแดนมกุฎเต๋าเหมือนกัน ภายใต้สถานการณ์ที่ต่อสู้กันตัวต่อตัว หลัวซิวสันนิษฐานว่าต่อให้มกุฎเต๋าบรรพฮวงจะไม่มีหอคอยฮวงอยู่ในมือแล้วสู้มกุฎมังกรอิมไม่ไหว แต่ก็น่าจะไม่ถึงขั้นถูกฆ่า
ดังนั้นหลัวซิวจึงคาดการณ์ว่า การตายของมกุฎเต๋าบรรพฮวงต้องมีการเข้าร่วมของมกุฎเต๋าทั้งสี่แน่นอน
ผู้ที่มีความเป็นไปได้สูงที่สุดก็คือมกุฎมังกรเอี๊ยงแห่งโลกาเทพมังกรไท่ชูนั่น แล้วก็มกุฎเต๋าสังสารวัฏ เจ้าแห่งจ่างเทียนตี้ที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่ลับ!