48.ข้าคือหล.่..
หลิ่วเจินใช้เวลาเฟ้นหาความทรงจำในหัวเป็นนานสองนาน ก็ ไม่พบสิ่งใด เป็นครั้งแรก ที่นางรู้สึกอึดอัดใจอย่างที่สุด นางจำ ไม่ได้เลยจริง ๆว่าเคยมีปฏิสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ไม่ ไม่ จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? ก็แค่ช่วงนี้ข้ายุ่งมาก จริง ๆ ก็เลยลืมไปนะ” หลิ่วเจิน โพล่งออกมา พลางหัวเราะแหะ
ๆ
สีหน้าของแม่เฒ่าหนานเองก็ดูไม่มีอะไรผิดสังเกตุ
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าควรไปได้แล้ว เจ้าพาข้าไปส่งบ้านได้ หรือไม่?” แม่เฒ่าหนานลุกยืนขึ้นอย่างยากลำบาก
หลิ่วเจินวางขนมในมือลงแล้วรีบไปช่วยประคองหญิงชรา
กู้หรูเฟิงผู้ซึ่งเฝ้ามองหลิ่วเจินประคองแม่เฒ่าหนานจากไป ให้รู้สึกแปลกๆ ในใจ ในวันวิวาห์ของคนทั้งสอง คล้ายว่าไม่ เคยเห็นแม่เฒ่าหนานไปปรากฏตัวที่งานเลย ไฉนจู่ ๆ นางถึง เป็นฝ่ายมาเยี่ยมหลิ่วเจินในวันนี้เล่า?
หลิวเจินประคองแม่เฒ่าหนานกลับไปถึงบ้านของอีกฝ่าย ตอนที่หญิงสาวกำลังจะจากไป แม่เฒ่าหนานเอ่ยน้ำด้วยเสียง เรียบเรื่อย ไม่รีบร้อน “เจ้าไม่ใช่อาเจิน
ใจหลิ่วเจีนบีบรัดแน่นทันใด
เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนนางมิได้ทำอะไรผิดสังเกตุไปใช่ 48.ข้าคือหล.่..
หลิ่วเจินใช้เวลาเฟ้นหาความทรงจำในหัวเป็นนานสองนาน ก็ ไม่พบสิ่งใด เป็นครั้งแรก ที่นางรู้สึกอึดอัดใจอย่างที่สุด นางจำ ไม่ได้เลยจริง ๆว่าเคยมีปฏิสัมพันธ์กับอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ไม่ ไม่ จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? ก็แค่ช่วงนี้ข้ายุ่งมาก จริง ๆ ก็เลยลืมไปนะ” หลิ่วเจิน โพล่งออกมา พลางหัวเราะแหะ
ๆ
สีหน้าของแม่เฒ่าหนานเองก็ดูไม่มีอะไรผิดสังเกตุ
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าควรไปได้แล้ว เจ้าพาข้าไปส่งบ้านได้ หรือไม่?” แม่เฒ่าหนานลุกยืนขึ้นอย่างยากลำบาก
หลิ่วเจินวางขนมในมือลงแล้วรีบไปช่วยประคองหญิงชรา
กู้หรูเฟิงผู้ซึ่งเฝ้ามองหลิ่วเจินประคองแม่เฒ่าหนานจากไป ให้รู้สึกแปลกๆ ในใจ ในวันวิวาห์ของคนทั้งสอง คล้ายว่าไม่ เคยเห็นแม่เฒ่าหนานไปปรากฏตัวที่งานเลย ไฉนจู่ ๆ นางถึง เป็นฝ่ายมาเยี่ยมหลิ่วเจินในวันนี้เล่า?
หลิวเจินประคองแม่เฒ่าหนานกลับไปถึงบ้านของอีกฝ่าย ตอนที่หญิงสาวกำลังจะจากไป แม่เฒ่าหนานเอ่ยน้ำด้วยเสียง เรียบเรื่อย ไม่รีบร้อน “เจ้าไม่ใช่อาเจิน
ใจหลิ่วเจีนบีบรัดแน่นทันใด
เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนนางมิได้ทำอะไรผิดสังเกตุไปใช่ ใหม?
“แม่เฒ่าหนาน ท่านพูดอะไรของท่านกัน? ข้าคือหลิ่วเจิน!” ฝ่ามือของหลิ่วเจินเริ่มมีเหงื่อซึม ทว่าใบหน้าหญิงสาวยังมิ ปรากฏคลื่นแห่งความหวาดหวั่น
แม่เฒ่าหนานจับขอบโต๊ะแล้วเอ่ยว่า “ตอนเจ้ายังเด็ก เจ้า ไม่ชอบกินขนมนี่เลย ข้าทำให้ขนมนี่ให้พวกเด็กคนอื่น ๆกิน ส่วนเจ้าไม่เคยกิน ทว่าเจ้าชอบให้ข้าทำแป้งทอดฟักทอง มิ หนำซ้ำ เจ้าชอบเอะอะโวยวาย มีนิสัยเจ้าอารมณ์และบอกว่าไม่ กินแป้งทอดผักชี ต่อมาเจ้าก็อาละวาดดึงตั้ง เห็นแบบนี้ แล้ว..ข้าเลยตีเจ้าไปทีหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นเจ้าก็มาหาข้าใหม่” แม่ เฒ่าหนานจับจ้องหลิ่วเจิน ที่กำลังย้อนนึกถึงเรื่องในอดีต
หลิ่วเจินขมวดคิ้วน้อย แบบนี้มาก่อนเล่า? ๆ เหตุใดนางถึงไม่เคยรู้ว่ามีเรื่อง
“จริง ๆรี? มันนานมากแล้ว ข้าเลยจำไม่ได้แล้วล่ะ” หลิ่ว เจินฉีกยิ้ม
แม่เฒ่าหนานรู้สึกว่าหลิ่วเจินดูจะนุ่มนวลเกินไปหน่อย “เจ้าไม่เคยพูดกับผู้คนอย่างนุ่มนวลมากแบบนี้”
ใช่ เมื่อก่อนนี้หลิ่วเจินมีอารมณ์ด้านร้ายทุกรูป ซ้ำยังเกิด โทสะง่ายด้วย จู่ ๆนิสัยหญิงสาวก็เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหวใน ฉับพลัน ซึ่งทำให้คนสงสัยขึ้นมาจริง ๆ
“จริง ๆ รีภายหลังข้าแต่งงานแล้ว ก็เลยเข้าใจ ว่าไม่ควร โวยวายอย่างไร้เหตุผลและเอาแต่ใจแบบในอดีตอีก” คำพูดนี้ ใหม?
“แม่เฒ่าหนาน ท่านพูดอะไรของท่านกัน? ข้าคือหลิ่วเจิน!” ฝ่ามือของหลิ่วเจินเริ่มมีเหงื่อซึม ทว่าใบหน้าหญิงสาวยังมิ ปรากฏคลื่นแห่งความหวาดหวั่น
แม่เฒ่าหนานจับขอบโต๊ะแล้วเอ่ยว่า “ตอนเจ้ายังเด็ก เจ้า ไม่ชอบกินขนมนี่เลย ข้าทำให้ขนมนี่ให้พวกเด็กคนอื่น ๆกิน ส่วนเจ้าไม่เคยกิน ทว่าเจ้าชอบให้ข้าทำแป้งทอดฟักทอง มิ หนำซ้ำ เจ้าชอบเอะอะโวยวาย มีนิสัยเจ้าอารมณ์และบอกว่าไม่ กินแป้งทอดผักชี ต่อมาเจ้าก็อาละวาดดึงตั้ง เห็นแบบนี้ แล้ว..ข้าเลยตีเจ้าไปทีหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นเจ้าก็มาหาข้าใหม่” แม่ เฒ่าหนานจับจ้องหลิ่วเจิน ที่กำลังย้อนนึกถึงเรื่องในอดีต
หลิ่วเจินขมวดคิ้วน้อย แบบนี้มาก่อนเล่า? ๆ เหตุใดนางถึงไม่เคยรู้ว่ามีเรื่อง
“จริง ๆรี? มันนานมากแล้ว ข้าเลยจำไม่ได้แล้วล่ะ” หลิ่ว เจินฉีกยิ้ม
แม่เฒ่าหนานรู้สึกว่าหลิ่วเจินดูจะนุ่มนวลเกินไปหน่อย “เจ้าไม่เคยพูดกับผู้คนอย่างนุ่มนวลมากแบบนี้”
ใช่ เมื่อก่อนนี้หลิ่วเจินมีอารมณ์ด้านร้ายทุกรูป ซ้ำยังเกิด โทสะง่ายด้วย จู่ ๆนิสัยหญิงสาวก็เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหวใน ฉับพลัน ซึ่งทำให้คนสงสัยขึ้นมาจริง ๆ
“จริง ๆ รีภายหลังข้าแต่งงานแล้ว ก็เลยเข้าใจ ว่าไม่ควร โวยวายอย่างไร้เหตุผลและเอาแต่ใจแบบในอดีตอีก” คำพูดนี้ ฟังดูสมเหตุสมผลมาก
ทันใดนั้นแม่เฒ่าหนานก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร เพราะ มันฟังดูมีเหตุผลนัก สตรีหลายคนที่แต่งงานไปแล้ว หลายคนก็ มีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะโดนชีวิตหลังแต่งเตี๋ยวกร่า จนเลิกเอาแต่ใจไปเลย
“ที่บ้าน ไม่แย่ใช่ไหม?” แม่เฒ่าหนานพลันเปลี่ยนมาคุย เรื่องชีวิตคู่กับหลิ่วเจินแทน
หลิวเจินนิ่งงั้นไปชั่วครู่ ในหัวพยายามคิดหาวิธีแก้ต่าง อย่างรวดเร็วตามเคย? ตอนเริ่มต้น นางเพียงรู้ว่าความสัมพันธ์ ของเจ้าของร่างเดิมกับกู้หรูเฟิงตึงเครียดมาก แต่ดูเหมือนจะ คลี่คลายลงไปโขหลังนางเข้ามายึดครองร่างนี้แทน
“ก็ไม่แย่ ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทีละนิด ๆ น่ะ”หลิ่วเจินตอบ
แม่เฒ่าหนานพยักหน้า แล้วเดินเข้าตัวบ้านไป ครั้นแล้วก็ ออกมาพร้อมกับห่อกระดาษน้ำมันในมืออีก
หลิ่วเจินกำลังคิดว่า นี่เป็นกับดักอีกอันหรือไม่?
แม่เฒ่าหนานคลี่กระดาษห่อน้ำมันตรงหน้านาง “เจ้าไม่ ชอบแป้งทอดผักชี แต่เจ้าซอบแป้งทอดฟักทอง ดังนั้นข้าเลยทำ มาให้ เจ้าลองชิมดูสิ” มีแป้งทอดฟักทองสี่ถึงห้าชิ้นในนั้น แต่ พวกมันเย็นหมดแล้ว
ยามนี้หลิ่วเจินลังเลอยู่เป็นนาน นางควรกินหรือไม่กินดี ขนมนี่ดูคล้ายแป้งทอดผักชี และหากกินเข้าไปแล้ว จะโดน สงสัยหรือไม่ ฟังดูสมเหตุสมผลมาก
ทันใดนั้นแม่เฒ่าหนานก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร เพราะ มันฟังดูมีเหตุผลนัก สตรีหลายคนที่แต่งงานไปแล้ว หลายคนก็ มีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะโดนชีวิตหลังแต่งเตี๋ยวกร่า จนเลิกเอาแต่ใจไปเลย
“ที่บ้าน ไม่แย่ใช่ไหม?” แม่เฒ่าหนานพลันเปลี่ยนมาคุย เรื่องชีวิตคู่กับหลิ่วเจินแทน
หลิวเจินนิ่งงั้นไปชั่วครู่ ในหัวพยายามคิดหาวิธีแก้ต่าง อย่างรวดเร็วตามเคย? ตอนเริ่มต้น นางเพียงรู้ว่าความสัมพันธ์ ของเจ้าของร่างเดิมกับกู้หรูเฟิงตึงเครียดมาก แต่ดูเหมือนจะ คลี่คลายลงไปโขหลังนางเข้ามายึดครองร่างนี้แทน
“ก็ไม่แย่ ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทีละนิด ๆ น่ะ”หลิ่วเจินตอบ
แม่เฒ่าหนานพยักหน้า แล้วเดินเข้าตัวบ้านไป ครั้นแล้วก็ ออกมาพร้อมกับห่อกระดาษน้ำมันในมืออีก
หลิ่วเจินกำลังคิดว่า นี่เป็นกับดักอีกอันหรือไม่?
แม่เฒ่าหนานคลี่กระดาษห่อน้ำมันตรงหน้านาง “เจ้าไม่ ชอบแป้งทอดผักชี แต่เจ้าซอบแป้งทอดฟักทอง ดังนั้นข้าเลยทำ มาให้ เจ้าลองชิมดูสิ” มีแป้งทอดฟักทองสี่ถึงห้าชิ้นในนั้น แต่ พวกมันเย็นหมดแล้ว
ยามนี้หลิ่วเจินลังเลอยู่เป็นนาน นางควรกินหรือไม่กินดี ขนมนี่ดูคล้ายแป้งทอดผักชี และหากกินเข้าไปแล้ว จะโดน สงสัยหรือไม่ “ไฉนไม่กินเล่า?” แม่เฒ่าหนานเอียงคอเล็กน้อย มองหลิ่ว
เงินด้วยสีหน้าเอ็นดู
หลิ่วเจินครุ่นคิดอยู่เป็นนาน และในที่สุดก็หยิบขึ้นมากิน
ชิ้นหนึ่ง
สีหน้าของแม่เฒ่าหนานชัดเจนว่าดูไม่ผิดปกติแต่อย่างใด
หลิ่วเจินไม่ใช่คนเลือกกิน ความจริงแล้ว นางกินอะไรก็ได้ แต่ยายตัวแสบที่เป็นเจ้าของร่างเดิมนี้ยากจะบอกได้ว่าเป็นเช่น ใด เหนืออื่นใด พวกนางทั้งสองคนแตกต่างกัน จะหนึ่งคนหรือ ครึ่งคน ไม่มีใครหรอกที่จะเหมือนกันได้ทุกกระเบียดนิ้ว “ไฉนไม่กินเล่า?” แม่เฒ่าหนานเอียงคอเล็กน้อย มองหลิ่ว
เงินด้วยสีหน้าเอ็นดู
หลิ่วเจินครุ่นคิดอยู่เป็นนาน และในที่สุดก็หยิบขึ้นมากิน
ชิ้นหนึ่ง
สีหน้าของแม่เฒ่าหนานชัดเจนว่าดูไม่ผิดปกติแต่อย่างใด
หลิ่วเจินไม่ใช่คนเลือกกิน ความจริงแล้ว นางกินอะไรก็ได้ แต่ยายตัวแสบที่เป็นเจ้าของร่างเดิมนี้ยากจะบอกได้ว่าเป็นเช่น ใด เหนืออื่นใด พวกนางทั้งสองคนแตกต่างกัน จะหนึ่งคนหรือ ครึ่งคน ไม่มีใครหรอกที่จะเหมือนกันได้ทุกกระเบียดนิ้ว