เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 53

ตอนที่ 53

53.รู้สึกเจ็บ

กู้หรูเฟิงเอามือแตะแผลเป็นของตนโดยไม่รู้ตัว แล้วทอดมอง หลิ่วเจินด้วยสายตาว่างเปล่า

“ไม่ ไม่รู้สึกอันใด” หลังกู้หรูเฟิงฟังหลิ่วเจินกล่าวจบ ก็ยัง ไม่เกิดความรู้สึกใด ๆ ที่แผล ทว่าในใจยังรู้สึกกลัดกลุ้มและ กังวลอยู่พอควร เกรงว่าแผลเป็นบนหน้าจะถูกคนสร้างขึ้น

เป็นไปได้ว่าเมื่อแผลเป็นขยายตัวถึงจุดหนึ่ง อาจมีบาง อย่างเกิดขึ้นกับเขาก็ได้

หลิ่วเจินนิ้วหน้า พลางครุ่นคิด การลุกลามขยายตัวนี้มัน เป็นมาสักพักหนึ่งแล้วใช่หรือไม่? เพราะเพียงตลอดช่วงบ่าย แผลก็ขยายตัวจากขอบเขตเดิมไปเกือบครึ่งเซนติเมตรแล้ว

หลิ่วเจินเห็นกู้หรูเฟิงจู่ๆก็ขมวดคิ้ว ต่อมาก็มีสีหน้าไม่สู้ดี “เป็นอะไรดี?”

ยามนี้กู้หรูเฟิงขมวดคิ้วเป็นปมแล้ว “รู้สึกคล้าย ๆแสบ ร้อน มันเจ็บมากแลย”

หลิ่วเจินช่วยพยุงกู้หรูเฟิงลุกขึ้น แล้วพาชายหนุ่มไปนั่งที่ เตียง ครั้นแล้วจึงบ่ายหน้าออกจากห้องไปเอาน้ำมาให้

เมื่อหญิงสาวเข้ามาในห้องก็เห็นกู้หรูเฟิงยังคงนิ่วหน้าอยู่ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในฤดูหนาว กลับมีเหงื่อผุดขึ้นมาให้เห็น หลิวเจินใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่น แล้วส่งให้กู้หรูเฟิง นางไม่รู้ 53.รู้สึกเจ็บ

กู้หรูเฟิงเอามือแตะแผลเป็นของตนโดยไม่รู้ตัว แล้วทอดมอง หลิ่วเจินด้วยสายตาว่างเปล่า

“ไม่ ไม่รู้สึกอันใด” หลังกู้หรูเฟิงฟังหลิ่วเจินกล่าวจบ ก็ยัง ไม่เกิดความรู้สึกใด ๆ ที่แผล ทว่าในใจยังรู้สึกกลัดกลุ้มและ กังวลอยู่พอควร เกรงว่าแผลเป็นบนหน้าจะถูกคนสร้างขึ้น

เป็นไปได้ว่าเมื่อแผลเป็นขยายตัวถึงจุดหนึ่ง อาจมีบาง อย่างเกิดขึ้นกับเขาก็ได้

หลิ่วเจินนิ้วหน้า พลางครุ่นคิด การลุกลามขยายตัวนี้มัน เป็นมาสักพักหนึ่งแล้วใช่หรือไม่? เพราะเพียงตลอดช่วงบ่าย แผลก็ขยายตัวจากขอบเขตเดิมไปเกือบครึ่งเซนติเมตรแล้ว

หลิ่วเจินเห็นกู้หรูเฟิงจู่ๆก็ขมวดคิ้ว ต่อมาก็มีสีหน้าไม่สู้ดี “เป็นอะไรดี?”

ยามนี้กู้หรูเฟิงขมวดคิ้วเป็นปมแล้ว “รู้สึกคล้าย ๆแสบ ร้อน มันเจ็บมากแลย”

หลิ่วเจินช่วยพยุงกู้หรูเฟิงลุกขึ้น แล้วพาชายหนุ่มไปนั่งที่ เตียง ครั้นแล้วจึงบ่ายหน้าออกจากห้องไปเอาน้ำมาให้

เมื่อหญิงสาวเข้ามาในห้องก็เห็นกู้หรูเฟิงยังคงนิ่วหน้าอยู่ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในฤดูหนาว กลับมีเหงื่อผุดขึ้นมาให้เห็น หลิวเจินใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่น แล้วส่งให้กู้หรูเฟิง นางไม่รู้ อาการของชายหนุ่ม จึงไม่รู้ว่าควรให้ยาอะไร จะบอกว่าเป็น บาดแผล ทว่าดูแล้วไม่น่าใช่ เพราะมันฝังอยู่ใต้ผิวหนัง

หากเป็นหนอง แผลก็ไม่ควรเป็นแบบนี้

เมื่อกู้หรูเฟิงเอาผ้าเช็ดตัวไปซับบนใบหน้าแล้ว ขมวดลึกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวออกจากแผลบนหน้า

“มีอะไรรี?” หลิ่วเจินถาม

“พอเอาผ้าชุบน้ำร้อนแตะแผล ก็รู้สึกเจ็บยิ่งขึ้น” กู้หรูเฟิงอ

ธิบายหลิ่วเจิน

หลิ่วเจินมองแผลเป็นบนใบหน้าชายหนุ่ม มันดูคล้ายปาน ตำที่ขยายตัวไปเรื่อย ๆ ทว่าเรียบมาก เมื่อหลิ่วเจินลองเอามือ แตะ ก็รู้สึกลื่นมากทีเดียว

ดูแล้วคล้ายเป็นการระบายสีดำลงไปบนผิวอย่างไรอย่าง

นั้น

“ไม่เช่นนั้น ลองเปลี่ยนเป็นน้ำเย็นดูไหม?” หลิ่วเจิน แนะนำ หากใช้น้ำร้อนไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ลองใช้น้ำเย็นดูแล้วกัน

กู้หรูเฟิงพยักหน้า เขาไม่รู้ว่าน้ำเย็นหรือน้ำร้อนสามารถ บรรเทาความปวดได้หรือไม่

พอเห็นกู้หรูเฟิงพยักหน้า หลิ่วเจินจึงออกไปเอาน้ำเย็นเข้า มา เมื่อกู้หรูเฟิงหยิบผ้าเช็ดตัวซับลงบนใบหน้า ก็คล้ายรู้สึกดี ขึ้นมาก ทว่ามือที่ถือผ้าเช็ดตัวซึ่งจนเย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ยามนี้ซีดเขียวแกมม่วง

คิ้วก็ อาการของชายหนุ่ม จึงไม่รู้ว่าควรให้ยาอะไร จะบอกว่าเป็น บาดแผล ทว่าดูแล้วไม่น่าใช่ เพราะมันฝังอยู่ใต้ผิวหนัง

หากเป็นหนอง แผลก็ไม่ควรเป็นแบบนี้

เมื่อกู้หรูเฟิงเอาผ้าเช็ดตัวไปซับบนใบหน้าแล้ว ขมวดลึกขึ้น แล้วเอาผ้าเช็ดตัวออกจากแผลบนหน้า

“มีอะไรรี?” หลิ่วเจินถาม

“พอเอาผ้าชุบน้ำร้อนแตะแผล ก็รู้สึกเจ็บยิ่งขึ้น” กู้หรูเฟิงอ

ธิบายหลิ่วเจิน

หลิ่วเจินมองแผลเป็นบนใบหน้าชายหนุ่ม มันดูคล้ายปาน ตำที่ขยายตัวไปเรื่อย ๆ ทว่าเรียบมาก เมื่อหลิ่วเจินลองเอามือ แตะ ก็รู้สึกลื่นมากทีเดียว

ดูแล้วคล้ายเป็นการระบายสีดำลงไปบนผิวอย่างไรอย่าง

นั้น

“ไม่เช่นนั้น ลองเปลี่ยนเป็นน้ำเย็นดูไหม?” หลิ่วเจิน แนะนำ หากใช้น้ำร้อนไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ลองใช้น้ำเย็นดูแล้วกัน

กู้หรูเฟิงพยักหน้า เขาไม่รู้ว่าน้ำเย็นหรือน้ำร้อนสามารถ บรรเทาความปวดได้หรือไม่

พอเห็นกู้หรูเฟิงพยักหน้า หลิ่วเจินจึงออกไปเอาน้ำเย็นเข้า มา เมื่อกู้หรูเฟิงหยิบผ้าเช็ดตัวซับลงบนใบหน้า ก็คล้ายรู้สึกดี ขึ้นมาก ทว่ามือที่ถือผ้าเช็ดตัวซึ่งจนเย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ยามนี้ซีดเขียวแกมม่วง

คิ้วก็ “ก่อนหน้าเคยมีอาการแบบนี้หรือไม่?” หลิวเจินถาม

หญิงสาวนึกถึงสิ่งที่เขาเคยพูด ซึ่งน่าจะมีอาการแนวๆนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้หรือไม่

กู้หรูเฟิงสั่นศีรษะ “ไม่ เพิ่งเป็นครั้งนี้ ความเจ็บดูคล้ายจะ แปลกไปจากเดิม มันเจ็บกว่าแต่ก่อน” หลังกล่าวจบ ก็สงสัยว่า เหตุใดถึงเจ็บแบบนี้ เพราะก่อนหน้าเขาแค่เจ็บจี๊ดนิดหน่อย เท่านั้น…

“ทว่ามันเจ็บกว่าแต่ก่อนจริง ๆนะ” กู้หรูเฟิงกล่าวเสริม

หลิ่วเจินยิ่งงงหนักขึ้น มันเป็นอาการเช่นนั้นรี? ดูมีลักษณะ คล้ายการติดยาเสพติดมาก ยิ่งเวลาผ่านไป อาการก็ยิ่งรุนแรง ขึ้น และต้องการปริมาณยาเพิ่มขึ้น

“แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นหรือยัง?” หลิ่วเจินถามด้วยความ

ห่วงใย

กู้หรูเฟิงผงกศรีษะ “หากโดนน้ำร้อนจะปวดมาก แต่หาก

โดนน้ำเย็นจะปวดน้อยลง เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?” ชายหนุ่มมอง หน้าหลิ่วเจิน

แม้ว่าหลิ่วเจินจะเรียนจบแพทย์มาก็ตาม ทว่านางยังไม่ กระจ่างนัก เพราะสิ่งที่โลกนี้รู้มีเพียงครึ่งเดียว มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เดียวซึ่งรู้กันเพียงในยุคสมัยโบราณ แล้วก็หาย สาบสูญไปในโลกยุคสมัยใหม่ ไม่เช่นนั้นก็อาจเหลือเป็นเพียง เรื่องเล่าในตำนาน ซึ่งไม่มีอยู่จริง อย่างเช่นการมีชีวิตอมตะ

ขึ้นชีฮ่องเต้เที่ยวแสวงหายาอายุวัฒนะ เพราะอยากมีอายุ “ก่อนหน้าเคยมีอาการแบบนี้หรือไม่?” หลิวเจินถาม

หญิงสาวนึกถึงสิ่งที่เขาเคยพูด ซึ่งน่าจะมีอาการแนวๆนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้หรือไม่

กู้หรูเฟิงสั่นศีรษะ “ไม่ เพิ่งเป็นครั้งนี้ ความเจ็บดูคล้ายจะ แปลกไปจากเดิม มันเจ็บกว่าแต่ก่อน” หลังกล่าวจบ ก็สงสัยว่า เหตุใดถึงเจ็บแบบนี้ เพราะก่อนหน้าเขาแค่เจ็บจี๊ดนิดหน่อย เท่านั้น…

“ทว่ามันเจ็บกว่าแต่ก่อนจริง ๆนะ” กู้หรูเฟิงกล่าวเสริม

หลิ่วเจินยิ่งงงหนักขึ้น มันเป็นอาการเช่นนั้นรี? ดูมีลักษณะ คล้ายการติดยาเสพติดมาก ยิ่งเวลาผ่านไป อาการก็ยิ่งรุนแรง ขึ้น และต้องการปริมาณยาเพิ่มขึ้น

“แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นหรือยัง?” หลิ่วเจินถามด้วยความ

ห่วงใย

กู้หรูเฟิงผงกศรีษะ “หากโดนน้ำร้อนจะปวดมาก แต่หาก

โดนน้ำเย็นจะปวดน้อยลง เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?” ชายหนุ่มมอง หน้าหลิ่วเจิน

แม้ว่าหลิ่วเจินจะเรียนจบแพทย์มาก็ตาม ทว่านางยังไม่ กระจ่างนัก เพราะสิ่งที่โลกนี้รู้มีเพียงครึ่งเดียว มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เดียวซึ่งรู้กันเพียงในยุคสมัยโบราณ แล้วก็หาย สาบสูญไปในโลกยุคสมัยใหม่ ไม่เช่นนั้นก็อาจเหลือเป็นเพียง เรื่องเล่าในตำนาน ซึ่งไม่มีอยู่จริง อย่างเช่นการมีชีวิตอมตะ

ขึ้นชีฮ่องเต้เที่ยวแสวงหายาอายุวัฒนะ เพราะอยากมีอายุ ยืน ทว่าเรื่องนี้ขัดกับกฎของธรรมชาติ คนเราจะอยู่ค้ำฟ้ากันได้

อย่างไร?

“เราดูอาการกันไปก่อนเถิต ก่อนหน้านั้นท่านเจ็บแผลอยู่

นานเท่าใด?” ยืน ทว่าเรื่องนี้ขัดกับกฎของธรรมชาติ คนเราจะอยู่ค้ำฟ้ากันได้

อย่างไร?

“เราดูอาการกันไปก่อนเถิต ก่อนหน้านั้นท่านเจ็บแผลอยู่

นานเท่าใด?”

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท