ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1042
ลิเลียนอึ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณแม่ คุณแม่กำลังพูดถึงข้อตกลงเรื่องอะไรกันคะ?”
“แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่แล้ว! เพื่อที่จะช่วยครอบครัวของเธอแก้ปัญหานี้ ฉันจึงตัดสินใจที่จะนำเงินออมของฉันออกไปประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของแมนดี้” คุณย่าเยตส์พูดยิ้ม ๆ
“หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์?!”
ไซม่อนและลิเลียนทั้งสองต่างมองหน้ากัน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องการดำเนินงานของบริษัทมากนัก แต่พวกเขาก็พอที่จะรู้ว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ พวกเขาจะขายหุ้นของพวกเขาด้วยเงินเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ได้อย่างไร?
เมื่อมองไปที่การจ้องมองที่ดูสับสน คุณย่าเยตส์ก็หัวเราะออกมา “ฉันรู้ว่าพวกเธอสองคนไม่สามารถยอมรับข้อเสนอนี้ได้ในตอนนี้ แต่เธอไม่รู้หรอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันร้ายแรงมากแค่ไหน”
“มาเถอะแกรนต์ มาบอกคุณลุงและคุณป้าของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้หน่อย”
แกรนต์ ไบร์ทเดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดอย่างสุภาพว่า “คุณลุง คุณป้าครับ ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายขายของโครงการรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ และผมอยู่ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของบัควู้ดมาร่วมสิบปีแล้ว”
ไซม่อนอึ้งไปชั่วขณะ “รีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เหรอ? บริษัทที่เป็นบริษัทเดียวที่สามารถแข่งขันกับตระกูลเซอร์เรย์ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้”
“ใช่แล้วครับ นอกจากนี้พวกเรายังมีรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ที่ให้การสนับสนุนที่เหนือกว่า” แกรนต์ยิ้มออกมา “ไม่เช่นนั้น พวกเราคงไม่สามารถทำออกมาได้ดีมากขนาดนี้ในบัควู้ด!”
“ก่อนอื่นเลย ให้ผมอธิบายให้คุณฟังในมุมมองของมืออาชีพเกี่ยวกับปัญหาที่ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน”
ไซม่อนและลิเลียนพยักหน้าอย่างเก้ ๆ กัง ๆ แกรนต์ดูเหมือนมืออาชีพในทุก ๆ ด้าน การฟังเขาจะไม่ส่งผลร้ายใด ๆ กับพวกเขาแน่นอน
แกรนต์ยังคงยิ้มในขณะที่เขาอธิบายว่า “ซิลเวอร์ นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นบริษัทน้องใหม่ในวงการอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการเพียงโครงการเดียวภายใต้ชื่อซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ต”
“ซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ตได้ขายออกไปจนเกือบที่จะหมดแล้วเนื่องจากอิทธิพลและชื่อเสียงของผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง มีการซื้อวิลล่าประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียงแค่สองสามวัน อีกทั้งบริษัทยังได้รับเงินมัดจำถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ จากการขายที่ประสบความสำเร็จแต่ละครั้ง”
“จริง ๆ แล้วนี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ด้วยเงินมัดจำถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ รีสอร์ตก็จะดำเนินการและแล้วเสร็จได้เร็วขึ้น”
“น่าเสียดายที่ต้องมาประสบปัญหาเสียก่อน”
“การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานคุณภาพของโครงการนี้ได้ถูกเปิดเผยออกไป และมีคนเกือบที่จะเสียชีวิตเพราะเหตุการณ์นี้ด้วย”
“เหล่าบรรดาผู้ที่ซื้อวิลล่าไปแล้ว พวกเขาย่อมรู้สึกไม่ต้องการมันอีกต่อไปเป็นเรื่องธรรมดา!”
“ในกรณีเช่นนี้ ทุกคนจะต้องเรียกร้องขอเงินคืนอย่างแน่นอน ตามในข้อตกลงแล้วหากลูกค้าต้องการเงินคืนเนื่องจากคุณภาพของวิลล่าที่ไม่ได้คุณภาพ เราต้องชดเชยให้พวกเขาถึงสามเท่าของราคาที่จ่าย!”
“พูดอีกอย่างก็คือ ขณะที่โครงการซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ตในปัจจุบันได้รับเงินมัดจำประมาณ 46.6 ล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้จำเป็นต้องชดเชยให้ลูกค้าจากเหตุการณ์ความเสียหายครั้งนี้ และจำนวณที่ต้องชำระคือประมาณ 139.8 ล้านดอลลาร์”
“หากคุณเพิ่มเงินต้นไปด้วย ทุกอย่างจะมีมูลค่าสูงถึง 186.4 ล้านดอลลาร์เลยครับ”
“นี่ล่ะครับคือวิกฤตปัจจุบันที่ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์กำลังจะต้องเผชิญ!”
เมื่อได้ฟังที่แกรนต์พูดด้วยคารมอันคมคาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาบอกว่าจำเป็นต้องชดเชยเงินจำนวณมากถึง 186.4 ล้านดอลลาร์ ไซม่อนและลิเลียนเริ่มเวียนหัวและเกือบที่จะหมดสติล้มลงไปกองที่พื้น
186.4 ล้านดอลลาร์?
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะขายเลือดขายเนื้อตัวเอง แต่ก็ยังไม่สามารถหาเงินได้มากมายขนาดนั้นหรอก!
เมื่อเห็นไซม่อนและลิเลียนตัวสั่นหวาดผวา คีธจึงใช้โอกาสนี้พูดขึ้นมาว่า “ลิเลียน เธอเข้าใจถึงสถานการณ์ของเธอแล้วหรือยังล่ะ?”
“บริษัทดูใหญ่โตมาก แต่จริง ๆ แล้วบริษัทกำลังที่จะพังและล้มละลายอีกในไม่ช้า เธอจะไม่สามารถชำระหนี้มหาศาลแบบนั้นได้แม้จะใช้เวลาถึงสิบชั่วอายุคน!”
“ฉันไม่สนใจบริษัทหรอกนะ แต่การใช้เงินจำนวณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อรับส่วนได้เสียทั้งหมดจากการเป็นเจ้าของส่วนของแมนดี้นั้นมันถือเป็นเรื่องหลักเพื่อช่วยเธอแก้ปัญหาทั้งหมดนี้!”