ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1100
พวกตระกูลเยตส์รอคอยวันนี้มานานมากแล้ว!
พวกเขาเป็นตระกูลของข้าราชการ พวกเขาไม่มีความรู้และไม่สามารถก้าวหน้าได้มากนักในวงการอุตสาหกรรมธุรกิจ
เนื่องจากขาดเงินทุนและความสามารถในการก่อตั้งธุรกิจ พวกเขาจึงไม่สามารถขึ้นเป็นตระกูลระดับแนวหน้าได้สักทีแม้ว่าจะใช้เวลามาเนิ่นนานหลายปีแล้วก็ตาม
ตอนนี้พวกเขามีหุ้นส่วนของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่ในกำมือแล้ว มันเท่ากับว่าพวกเขาเข้าใกล้การเติบโตไปเป็นตระกูลระดับแนวหน้าอีกก้าวหนึ่งแล้ว
สำหรับชาวตระกูลเยตส์บางคน ตอนนี้มันเท่ากับว่าครอบครัวของพวกเขาได้เลื่อนไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นแล้ว
เมื่อคีธเห็นว่าแมนดี้ลงนามในข้อตกลงแล้ว เขาก็กดโทรศัพท์โทรออกทันที “ใช่คุณยานนิค บิสสันหัวหน้าสารวัตรของกรมตำรวจบัควู้ดหรือเปล่าครับ? ผมชื่อคีธ เยตส์”
“หลานเขยของผม ฮาร์วีย์ ยอร์ก เขาได้ถูกกลุ่มอันธพาลจากไทยลักพาตัวไป ผมอยากจะขอฝากเรื่องนี้ไว้กับคุณ และผมคาดหวังผลลัพธ์ความคืบหน้าภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง!”
“ครับท่าน!”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ยานนิคตอบกลับด้วยความเคารพและรีบไปจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายอย่างรวดเร็วทันที
หลังจากวางสาย คีธก็พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “รอฟังข่าวเงียบ ๆ ก็แล้วกันนะ ยานนิค บิสสัน เขาเป็นถึงหัวหน้าสารวัตรของกรมตำรวจบัควู้ด เนื่องจากเขาได้ลงมือด้วยตัวเองแล้ว ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขในระยะเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน”
เมื่อมองดูท่าทางที่สงบของคีธ ทั้งแมนดี้และฮาลซีย์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แต่ในความเป็นจริง คีธนั้นไม่ได้ต้องการจะช่วยพวกเขาเลยแม้สักนิด
ประการแรก ตระกูลเยตส์มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมด คีธรู้ดีว่ายานนิคจะไม่สามารถแก้ไขคดีนี้ได้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างแน่นอน
และสุดท้ายเขาก็จะทำได้แค่นำศพของฮาร์วีย์กลับมาเพียงเท่านั้น
คีธมีไหวพริบและได้ใส่ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในข้อตกลงดังกล่าว
ตราบใดที่ฮาร์วีย์กลับมา แมนดี้ต้องมอบหุ้นส่วนทั้งหมดของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ให้แก่ตระกูลเยตส์ไม่ว่าเขาจะกลับมาแบบเป็นหรือตายก็ตามแต่
คราวนี้มันก็จะเท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวแบบสบาย ๆ !
นกตัวที่หนึ่ง ภารกิจที่ควินตันได้มอบหมายก็จะสำเร็จเสร็จสิ้นและตระกูลเยตส์ยังได้กำจัดฮาร์วีย์ให้พ้นทางอีกด้วย
นกตัวที่สอง พวกเขายังจะได้รับหุ้นส่วนทั้งหมดของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มาไว้ในกำมืออีกด้วย
คีธรู้สึกพึงพอใจในความฉลาดของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่เขาได้เข้าครอบครองซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์แล้ว เขาก็ตั้งเป้าไปที่การเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการของเซาท์ไลท์
ไม่ว่าฮาร์วีย์จะจบลงด้วยการตายหรือมีชีวิตอยู่ก็ไม่สำคัญสำหรับคีธ
แม้ว่าเขาจะต้องฆ่าแมนดี้เพื่อความรุ่งเรืองและอำนาจของตัวเอง เขาก็จะไม่แสดงความเมตตาต่อเธอ…
…
ในขณะเดียวกัน ในห้องใต้ดินคฤหาสน์ลับของตระกูลร็อบบินส์…
เอริคสำรวจฮาร์วีย์ด้วยสายตาและท่าทางสุดเคร่งขรึม หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายมีเล่ห์เหลี่ยมหรือถือไพ่อะไรในมือ”
“แต่ฉันบอกได้เลยเมื่อนายตายไป สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ”
ฮาร์วีย์หัวเราะ “แล้วนายกลัวไหมล่ะ?”
“กลัวเหรอ? ทำไมฉันถึงจะต้องกลัวนายด้วย?” อีริคเย้ยหยัน เขายกมือขึ้นออกคำสั่ง
“เมื่อกี้ หัวหน้าได้ส่งข้อความมาและบอกให้ทำให้มันดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุมากที่สุด เร็วเข้าจัดการซะ ”
หลังจากเอริคพูดเสร็จ เขาก็หันหลังจะเดินจากไป
เขารู้วิธีป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี ตราบใดที่มันไม่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขา มันก็เท่ากับว่าเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย
เหล่าอันธพาลรับจ้างต่างพากันหัวเราะเยาะเย้ย พวกเขาต้องปฏิบัติตามความต้องการของผู้มีพระคุณอยู่แล้ว
มีคนก้าวไปข้างหน้าทันที กำลังจะพาฮาร์วีย์ออกไปและฆ่าเขาทิ้ง
อั่คคค!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า จู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นและเตะเข้ากับศีรษะของชายที่ก้าวเข้ามา ชายคนนั้นลอยล่องไปในอากาสทันทีด้วยแรงเตะอันมหาศาลของฮาร์วีย์
“อะไรกันเนี่ย?!”
พวกอันธพาลคนอื่น ๆ ตกตะลึง วินาทีต่อมาพวกเขารีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับฮาร์วีย์
ฮาร์วีย์ไม่แยแส เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีด้วยซ้ำ พวกอันธพาลทั้งหมดก็ลงไปกองที่พื้น
หลายคนถึงขั้นหมดสติและสิ้นใจไปในทันที ไม่กี่คนที่ยังมีสติก็กลิ้งเกลือกอยู่ที่พื้นไม่สามารถขยับได้
พวกเขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าคนที่พวกเขาลักพาตัวมานั้นน่ากลัวมากขนาดไหน!