ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1138
วันถัดมา
ตอนนี้ในเมืองบัควู้ดตระกูลที่เป็นที่หนึ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นตระกูลเยตส์อย่างไม่ต้องสงสัย
อย่าน้อยก็ในสายตาของพวกเขา
พวกเขาเพิ่งได้รับทรัพย์สินและส่วนแบ่งมากมายมาจากแมนดี้ ตอนนี้ตระกูลใหญ่ ๆ ในบัควู้ดก็ล่มสลายลงแล้ว
เป็นช่วงเวลาของตระกูลเยตส์ที่จะเติบโตขึ้น!
นี่เป็นจังหวะโอกาสที่หาได้ยาก!
เป็นจังหวะที่ถูกที่ถูกเวลา และถูกคน เกือบจะทุกอย่างเป็นจังหวะของตระกูลเยตส์
ตราบใดที่ตระกูลเยตส์พยายามให้มากขึ้น มันจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไปที่จะเป็นกลุ่มบริษัมที่มีรายได้มูลค่าปีละหมื่นล้านหรือล้านล้านดอลลาร์
“แม่ครับ ช่วงจังหวะชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากที่ไล่ลิเลียนและครอบครัวของเธอออกไป!”
เลย์ตัน ลูฟระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงลูกเขยของตระกูลเยตส์ แต่เขากำลังจะเป็นลูกเขยที่มีชีวิตที่ดี
ไม่มีใครทำอะไรเขาได้เพราะตอนนี้ตระกูลเยตส์อยู่ในสถานะที่น่าจับตามอง!
และเขาอยู่ในตระกูลเยตส์ แน่นอนว่าเขาต้องหาวิธีที่จะเลื่อนขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
ตอนนี้เขาเป็นเพียงรองประธาน ด้วยอำนาจของตระกูลเยตส์ในตอนนี้ เขาสามารถเลื่อนไปเป็นประธานบริษัทได้อย่างง่ายดายตราบใดที่คุณย่าเยตส์เอ่ยปากให้เขา
ฟินน์ก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเช่นกัน ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะอาจจะต้องใช้เวลาสองสามปีในอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการอันดับสามในสถานีตำรวจบัควู้ด
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาอาจจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นกรณีพิเศษ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับเขาในการเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจบัควู้ดในเวลาสองวัน
“ขอพระเจ้าอวยพรให้ตระกูลเยตส์!”
“ตระกูลเยตส์จะเป็นผู้นำในเซาท์ไลท์ ตราบใดที่เราพยายามให้มากขึ้น!”
“และด้วยความช่วยเหลือจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน จึงไม่ยากที่จะเหยียบย่ำเจ้าชายยอร์กในจมใต้ฝ่าเท้าของเรา!”
“จากนี้ไปพวกเราตระกูลเยตส์จะเป็นราชาแห่งเซาท์ไลท์!”
“แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดของเซาท์ไลท์ก็ยังต้องให้เกียรติเรา!”
คนในตระกูลเยตส์ต่างตื่นเต้นเพราะได้รับข่าวดีมาตลอดในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่สิ่งนี้ทำให้ตระกูลเยตส์หยิ่งผยองและอวดดีมากขึ้น
พวกเขามองไม่เห็นความเป็นจริง
ในสายตาของพวกเขา คิดเพียงแค่ว่าตระกูลเยตส์นั้นแข็งแกร่งและมีอำนาจ!
“คุณย่าเยตส์ มีบางอย่างเกิดขึ้น!”
ในตอนนี้เองที่เบ็น เยตส์ จากตระกูลเยตส์รีบเข้ามารายงาน
เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของฟินน์ ที่พัฒนาตนเองในต่างประเทศ และเพิ่งกลับมาเมื่อสองวันก่อน
ตระกูลเยตส์ตั้งความหวังไว้สูงในตัวเขาโดยหวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ
คุณย่าเยตส์ขมวดคิ้วและพูดว่า “ตื่นตกใจอะไรขนาดนั้น? เธอทำตัวให้เหมาะสมหน่อยสิ!”
“เธอไม่รู้หรือไงว่าอีกไม่ช้าตระกูลเยตส์จะขึ้นเป็นผู้นำในเซาท์ไลท์?”
“ถ้าคนอื่นเห็นว่าเธอมีท่าทีกระวนกระวายตื่นตกใจแบบนี้ พวกเขาคงคิดว่าตระกูลเยตส์ไม่เอาไหน!”
คุณย่าเยตส์ไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของเบ็น
ถ้าไม่ใช่เพราะขาดแคลนคน เธอคงไม่ต้องใช้เบ็นที่ชอบทำเรื่องวุ่นวายมาทำหน้าที่นี้
เธอไม่มีทางเลือก ตระกูลเยตส์มีคนน้อย แถมแมนดี้ซึ่งเป็นคนเดียวที่สามารถสร้างผลงานในโลกธุรกิจก็ถูกไล่ออกไปแล้ว
สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้คือไม่มีคนเก่งและโดดเด่นพอ พวกเขาจึงทำได้เพียงส่งคนธรรมดามาทำหน้าที่สำคัญนี้ไปก่อน!
ไม่ว่าเบ็นจะแย่แค่ไหน เขาก็ยังเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเยตส์ พวกเขายังคงเชื่อในตัวเขาได้
เบ็นเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ในวันนี้ เขาจะต้องดูแลบัญชีหนี้สินและทรัพย์สินของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์
คุณย่าเยตส์กำลังรองบการเงินอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ใครจะคิดว่าเบ็นจะกลับมาด้วยท่าตื่นตระหนกแบบนี้?
“พูดช้า ๆ เกิดอะไรขึ้น?” คุณย่าเยตส์พูดอย่างใจเย็น
“คุณย่า ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมมาถึงบริษัทและประกาศแต่งตั้งตัวเองเป็นประธานคนใหม่ในวันนี้ จู่ ๆ พนักงานหลายคนก็ลาออก หลายคนในนั้นอยู่ในระดับผู้บริหาร!”
“ทันทีที่คนพวกนั้นลาออก ทั้งบริษัทก็ชะงัก!”
“ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทรัพย์สินของบริษัทตอนนี้มีมูลค่าเท่าไหร่!”
“คุณย่า พวกเรากำลังเจอปัญหาแล้ว!”