ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1152
น้ำเสียงของฮาร์วีย์เย็นชาราวกับน้ำแข็ง นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่เขาจะมอบให้กับตระกูลเยตส์
แต่หลังจากที่พวกเขาหยุดนิ่งไปสักพัก พวกเขาก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากนั้นไม่นานนัก
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
“คุณย่า เจ้าหมอนี่มันคิดว่ามันสามารถเหยียบย่ำพวกเราได้อย่างนั้นเพียงเพราะว่าพวกเรากำลังมีปัญหาอยู่!”
“มันไม่รู้อะไรเสียแล้ว!”
“ผมได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับมันมาแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่คนขับรถของเจ้าชายยอร์กเท่านั้นเอง คนขับรถกระจอก ๆ เพียงคนเดียวจะสามารถทำลายทั้งตระกูลเยตส์ได้หรือเปล่านะ? หยุดฝันกลางวันได้แล้ว!”
“มันไม่สามารถแก้ไขนิสัยเก่า ๆ ของตัวเองในการคุยโวโอ้อวดได้เลยแม้สักนิด!”
“แกกำลังคุกคามตระกูลเยตส์เหรอ? แกคิดว่าไม่มีใครสนับสนุนพวกเราแล้วจริง ๆ เหรอ?”
การแสดงออกของเหล่าตระกูลเยตส์ทั้งหมดนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ไม่ว่าพวกเขาจะตกต่ำไปมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใช่ตระกูลที่ลูกเขยกระจอก ๆ ที่เกาะภรรยาตัวเองกินจะสามารถก้าวข้ามไปได้
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนกำลังจะมาพบกับพวกเขาในอีกสามวันข้างหน้า
เมื่อแผนของตระกูลเยตส์สำเร็จ พวกเขาก็จะได้เป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ของเซาท์ไลท์
เรียกร้องให้พวกเขาประกาศคำขอโทษผ่านสื่อต่าง ๆ และคุกเข่าต่อลงหน้าเดอะการ์เด้น เรสซิเด้นท์พร้อมกับกลับใจเหรอ?
สิ่งนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามแต่
การแสดงออกของฮาร์วีย์เย็นชามาก ๆ ท่าทีของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้ว่าจะถูกตระกูลเยตส์เย้ยหยันมากเพียงใดในเวลานี้
“ตระกูลเยตส์ จงจำเอาไว้นะ ฉันได้ให้โอกาสไปแล้วเพราะเห็นแก่ภรรยาของฉันเอง”
“ถ้าพวกคุณพลาดโอกาสนี้ไป จะไม่มีโอกาสครั้งที่สองอีกแล้ว”
“แน่นอน ว่าพวกคุณสามารถรวบรวมสายสัมพันธ์และความแข็งแกร่งทั้งหมดของพวกคุณเพื่อต่อสู้กับฉันภายในสามวันนี้ได้”
“แต่ฉันคิดว่าตระกูลที่ใกล้จะล้มละลายอย่างพวกคุณ จะสามารถรวบรวมกำลังทั้งหมดได้เหรอ?”
ฮาร์วีย์หัวเราะอย่างเย็นชา
ถ้าตระกูลเยตส์ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนี้ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะกำจัดพวกเขาเหล่านี้ให้สิ้นซาก แต่ภายใต้สถานการณ์ตอนนี้นั้น พวกเขายังคงตัดสินใจให้แมนดี้เป็นแพะรับบาปอยู่ดี
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ เจ้าขยะ! พวกเราอนุญาตให้แกไปตั้งแต่เมื่อไหร่?!”
“แมนดี้อยู่ไหน! บอกให้เธอมาที่นี่เดี๋ยวนี้!” เลย์ตัน ลูฟตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด
ฮาร์วีย์มองย้อนกลับไปอย่างขุ่นเคืองและจ้องไปที่เลย์ตันอย่างเย็นชา
“คุณยังโชคดีนะที่ฉันได้สัญญากับพวกคุณว่าจะให้เวลาอีกสามวัน”
“ไม่งั้นแกได้ตายแน่ ๆ ถ้าฉันไม่ทำเช่นนั้น!”
ฮาร์วีย์เริ่มที่จะหมดความอดทน ก่อนเขาจะหันกลับและจากไปในที่สุด
เลย์ตันตัวสั่นด้วยความโกรธเจียนแทบจะคลั่ง
“คุณย่า เจ้าลูกเขยตัวดีนี่มันชักจะหยิ่งผยองเกินไปแล้ว เราควรที่จะกำจัดมัน!” ฟินน์ เยตส์เดินขึ้นมาและพูดด้วยท่าทางสุดเย็นชา
การแสดงออกของคุณย่าเยตส์เปลี่ยนไปอย่างมาก
“อีกสามวันข้างหน้าจะมีความสำคัญต่อพวกเรามาก ๆ เราต้องอยู่ให้นิ่งและไม่ก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ใด ๆ อีก นั่นจะทำให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนดูถูกตระกูลของเราอย่างแน่นอน!”
“ยังถือว่าวันนี้เจ้าลูกเขยขยะยังโชคดีอยู่! เราจะปล่อยมันไปก่อน!”
ฟีบี เยตส์พูดขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังเอามือปิดหน้าของตัวเองอยู่ว่า “คุณย่าคะ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด! นั่นหมายความว่าหนูจะต้องทนที่มันมาตบหน้าหนูก่อนหน้านี้สิคะ เพื่ออะไรคะ?!”
คุณยายเยตส์แสดงสีหน้าสงสารจับใจ
“โอ๋ ๆ หลานรักฟีบี รีบกลับไปรักษาบาดแผลของหลานกันเถอะ ย่าไม่ควรให้หลานมาด้วยเลยวันนี้!”
“มั่นใจได้เลย พวกเราจะคิดบัญชีกับเจ้าลูกเขยตัวแสบแน่ในอีกสามวันข้างหน้า!”
ตระกูลเยตส์ทุกคนต่างกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ พวกเขาทั้งหมดเกลียดฮาร์วีย์เข้ากระดูกดำ
หากว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนไม่สนใจในตัวฟีบีเพราะใบหน้าที่บวมจากการถูกตบครั้งนี้ ตระกูลเยตส์ก็จะสูญเสียโอกาสที่จะขึ้นสู่อำนาจอันยิ่งใหญ่เพียงแค่การดีดนิ้วของหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปโดยปริยาย
ฮาร์วีย์จะเป็นคนที่ต้องมารับโทษนี้ทั้งหมดและจะเป็นตราบาปของตระกูลเยตส์ตลอดไป
ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะมาพบกับตระกูลเยตส์ในอีกสามวันข้างหน้า พวกเขาอาจจะกำจัดฮาร์วีย์ไปแล้ว
ฟีบีพูดออกมาอย่างโกรธเคืองว่า “เดี๋ยวก่อนเถอะ เจ้าฮาร์วีย์ ยอร์ก! เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันนี่แหละจะหักแขนขาของแกทั้งหมดแล้วโยนทิ้งลงถังขยะไปซะ!”
“แล้วฉันจะจับเมียของแกขายให้ซ่อง คอยดู!”