คนสิบกว่าคนยกบันไดไม้มา ตะโกนดังบุกเข้าไป บันไดไม้นี่ทำอย่างง่ายๆ มองแล้วก็แค่ท่อนไม้มัดความยาวไม่เท่ากันสิบกว่าท่อนมามัดรวมกันเท่านั้น ผิวเปลือกไม้ก็ยังไม่ได้เหลาออก ด้านหัวและปลายบันไดไม้ยังมีทหารเผ่าหนี่ว์เจินยิงธนู ยิงขึ้นไปไม่หยุด
ชาวเผ่าหนี่ว์เจินจำนวนมากกว่าพวกโจรวัวโค่วในป้อมนี้ ทหารราบด้านในกับซามูไรล้วนถูกบีบจนไม่กล้าโผล่หัวออกมา ซ้ายขวามีบันไดเช่นนี้ราวเจ็ดแปดตัว มาถึงแผงไม้ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว พาดบันไดขึ้น จากนั้นก็มีนักรบเผ่าหนี่ว์เจินใช้กระบองตุ้มเหล็กกับดาบใหญ่บุกขึ้นไป
เริ่มปีนเข้าไป ธนูหยุดยิง ด้านในพวกซามูไรกับทหารราบร้องไห้ตะโกนให้ลุกขึ้นต่อสู้ มีคนรุมเข้าใส่นักรบเผ่าหนี่ว์เจินที่โดดจากบันไดถึงพื้นยังยืนไม่มั่น รุมกันแทงทวนยาว กลับถูกนับรบเผ่าหนี่ว์เจินตะโกนใส่ ก่อนจะตัดทวนยาวหัก บุกเข้าไปอีกก้าวก่อนจะฟันฉับครึ่งท่อน
ซามูไรวัวโค่วผู้นั้นโมโหจัด สองมือกุมดาบ จะเข้าปะทะตัวต่อตัวกับชาวเผ่าหนี่ว์เจิน ดาบเขาเร็วมากจริง และยังผ่านมากฝึกฝนมา แต่ตอนเข้าเพิ่งจะกระโดด ก็ถูกขวานด้ามหนึ่งจากอีกฝ่ายปาใส่ จามหัวทันที
ผู้กล้านับรบเผ่าหนี่ว์เจินมีแต่เลือดเปรอะเปื้อนตัว ศัตรูบ้าง ตนเองบ้าง อย่างไรอาวุธโจรวัวโค่วก็ไม่ใช่ของเล่น สามารถเรียกได้ว่าเป็นดาบที่สังหารคนได้จริง แต่ชาวเผ่าหนี่ว์เจินกลับไม่ใส่ใขแผลบนตัวแต่อย่างใด ยังคงรบไม่ถอย มักทำให้ศัตรูเบื้องหน้ารู้สึกหวาดกลัวไปก่อน
ชาวเผ่าหนี่ว์เจินกล้าหาญส่วนกล้าหาญ หากก็เรียกได้ว่ามุทะลุไม่เบา ทหารราบบุกเข้าไปมีระยะห่างพอควร ก็มีคนหันไปเปิดประตูป้อม คนด้านนอกล้วนกรูกันเข้ามา ถือธนูล้อมไว้ พากันยิงสาดเข้าไปด้านใน ไม่นานคนหลายร้อยในป้อมก็ไร้กำลังต้านทาน
มีโจรวัวโค่วคุกเข่าคิดยอมจำนน คุกเข่ายังไม่ทันได้กล่าวอันใด ก็ถูกชาวเผ่าหนี่ว์เจินสองตาแดงก่ำก้าวเข้ามาด้านหน้าฟันทิ้งทันที หิ้วหัวกลับไป หัวหน้าโจรวัวโค่วคนหนึ่งแลกได้เงินรางวัลไม่น้อย
ในลานไม่มีกำลังต้านทานอีก มีคนเข้าค้นในทุกบ้าน พวกที่หลบอยู่คิดว่ารอดตัว หากล้วนถูกสังหารเรียบ
คนด้านนอกคุ้มกันหวังทง มองการต่อสู้ด้านหน้า รอจนชาวเผ่าหนี่ว์เจินกรูกันออกมา มีคนโบกมือส่งสัญญาณให้หวังทง ทุกคนล้วนรู้การต่อสู้สิ้นสุดแล้ว
“เผ่าหนี่ว์เจินไห่ซีสุดยอดมาก วันเดียวบุกป้อมโจรวัวโค่วไปเจ็ดป้อม ถึงกับไม่แสดงอาการเหน็ดเหนื่อย”
มีคนกล่าวอย่างตกใจ หวังทงเอ่ยสั่งขึ้นว่า
“ให้จ่ายเงินไปตามหัว มีคนบาดเจ็บก็นำไปทำแผล ส่งคนไปติดต่อเอาตัวไปดูแลบนรถ ตั้งค่ายพักได้ คืนนี้พักผ่อน!”
ยามนี้พระอาทิตย์ตกแล้ว ท้องฟ้ามืดแล้ว ได้ยินคำสั่งหวังทง ทุกคนล้วนรับคำดัง หวังทงหันไปยิ้มกับหม่าซานเปียว กล่าวว่า
“เมื่อก่อนให้เงินพวกเขา พวกเขาไม่สนใจ เพราะไม่มีของให้ซื้อ และไม่มีที่ใช้เงิน แต่ทว่าตอนนี้พ่อค้าจำนวนมากมาถึงที่นี่ รับซื้อของพวกเขา ขายสินค้าให้พวกเขา พวกเขานับวันยิ่งรู้ผลดีของเงินทองแล้ว ครั้งนี้แจกเงินตามหัว แน่นอนให้พวกเขาบุกต่อไป!”
หม่าซานเปียวส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา วันนี้นับว่ารบชนะต่อเนื่อง จิตใจทุกคนล้วนไม่เลว หวังทงหุบยิ้ม ออกคำสั่งกล่าวว่า
“คืนนี้ต้องส่งสายสืบทหารม้าออกไปกวาดให้ทั่ว ต้องรู้ให้ได้ว่าทัพใหญ่โจรวัวโค่วเคลื่อนไหวอย่างไร ต้องแม่นยำ ต้องให้เห็นกับตา อย่าส่งชาวเผ่าหนี่ว์เจินไป ต้องใช้คนของเราทั้งหมด”
หม่าซานเปียวรับคำ รีบออกไปเตรียมการ คืนนี้ตั้งค่าย กลางวันชาวเผ่าหนี่ว์เจินแม้ว่ามีบาดเจ็บล้มตาย แต่กลับไม่มาก ทำลายป้อมโจรวัวโค่วติด ๆ กันไปถึงเจ็ดป้อม ได้หัวมาสองพันกว่า นำมาแลกเป็นเงินกันถ้วนหน้า ล้วนดีอกดีใจกันยกใหญ่ หวังทงกำชับไปแล้วว่าไม่ให้ดื่มสุรา แต่ทุกคนต้องการฉลองก็มีวิธี จึงเข้าเขาไปล่าสัตว์ ได้สัตว์ป่ามาไม่น้อยต้มและย่าง ทั้งกองได้กลิ่นเนื้อหอมกรุ่น อารมณ์ทุกคนล้วนพองฟูดีใจอย่างที่สุด
ข่าวการทหารมาถึง เร็วกว่าที่หวังทงคาดไว้มาก ฟ้ามืดลง ในค่ายยังมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ก็มีทหารจากสามเส้นทางมารายงาน ว่ากองกำลังคาโต คิโยมาสะในเช้าหนึ่งนำกำลังทัพใหญ่จากเมืองฮัมฮึงมุ่งลงใต้ไป
ก่อนหวังทงนำกำลังทหารม้าทัพใหญ่ออกเดินทางก็คำนวณถึงทางหลี่หู่โถวที่ตั้งทัพทางใต้ของจังหวัดพยองอันกับจังหวัดฮัมกยอง ปิดเส้นทางไปมาเหนือใต้ของเกาหลีไว้แล้ว จึงได้ออกเดินทาง
กองกำลังหลวงทัพใหญ่ขวางทางอยู่กลางคาบสมุทรเกาหลี ปิดทางจังหวัดฮัมกยอง กองโจรวัวโค่วกองรบสองไม่อาจถอยหนี พวกเขาจำต้องฝ่าออกไปจึงจะลงใต้ไปรวมทัพใหญ่ได้ ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับว่าถูกล้อมให้ตายที่นี่
****************
“ท่านแม่ทัพ ทางเหนือเมืองฮัมฮึงมีกองลาดตระเวนต้องรายงานไหม?”
หัวหน้าโจรวัวโค่วในชุดเกราะพวกป่าเถื่อนใต้ข้างคาโต คิโยมาสะถามขึ้น คาโต คิโยมาสะมีเคราหนา นี่คือที่มาหนึ่งของฉายาพยัคฆ์คาโต เขาลูบเคราไปคิดไป กล่าวว่า
“โจรหมิงทหารจากทางเหนือ ม้าหากไม่อยากให้เส้นทางเสบียงถูกปิดทาง ก็จะต้องรื้อป้อมนี้ทิ้ง ก็ย่อมทำให้พวกเขาเสียเวลา เป็นโอกาสให้เราได้ชัย เชื่อว่าพวกเขาก็ยินยอมพร้อมใจทำเช่นนี้ พวกเขาจะต้องกลายเป็นเทพแห่งเกาหลีนี่”
แผนการคาดไว้สูง ความหมายกระจ่างมาก ก็คือจะทำให้คนเหล่านี้ถอดใจไปสิ้นเชิง นอกจากคนสังกัดบรรดาไดเมียวแต่ละหน่วย ยังมีกองกำลังซามูไรระดับล่าง ถูกรวมมายังทัพใหญ่หน่วยกลาง ผู้ใดล้วนรู้ความต้องการเดิมของโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ โจมตีแผ่นดินหมิงกับเกาหลีขยายดินแดนเป็นเรื่องหนึ่ง อีกด้านหนึ่ง ก็คือต้องการให้บรรดาไดเมียวไซโกกุเหล่านี้ที่ไม่ค่อยยอมศิโรราบเท่าไรได้สูญเสียกำลัง
แม้ตอนนี้ประเทศวัวสงบสุข บรรดาไดเมียวยอมศิโรราบแก่ตระกูลโทโยโตมิ แต่รบกันมาสองร้อยปี ผู้ใดก็ไม่กล้ากล่าวได้ว่าจะสงบไปตลอดหรือไม่ ทุกคนล้วนพยายามทิ้งทหารเก่งกล้าส่วนหนึ่งไว้ในพื้นที่เดิม ใช้กำลังคนที่เพิ่งรวบรวมมาได้มาผสมปนเข้ามาในกองทัพ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิเองก็ฉลาด ทุกคนเบื้องหน้าก็เป็นดังนักรับแห่งยุค กลอุบายเล็กๆ พวกนี้ไม่กล้าใช้มาก ทหารสองพันกว่าที่คาโต คิโยมาสะจัดมาประจำทางเหนือ ล้วนเป็นคนเช่นนี้ ตายเป็นไม่เกี่ยวข้องกับเขา ตายไปได้ยิ่งดี
“ท่านแม่ทัพ ว่ากันว่าโจรหมิงที่ขวางทางใต้เป็นทหารเก่งกล้าที่สุด ข้าคิดว่ารักษาเมืองฮัมฮึงให้แน่นหนา รอร่วมตีขนาบกับท่านโมริ โยชินาริและท่านชิมัดสึที่จังหวัดกังวอนมั่นใจได้ยิ่งกว่า หรือว่า เราใช้เส้นทางเขาไปยังจังหวัดพยองอัน โจมตีปีกข้างโจรหมิง…”
“หากใช้เส้นทางเขาไปยังจังหวัดพยองอัน หากหนึ่งเดือนก่อนข้าก็จะทำเช่นนี้ ตอนนี้พื้นที่เป็นที่ตั้งโจรหมิงทัพใหญ่แสนกว่า พวกเราไป นอกจากขึ้นสวรรค์เป็นเทพแล้วไม่มีจุดจบอื่น สำหรับโจรหมิงทางใต้ แม้ว่าทหารเก่งกล้ากลับเฝ้าอย่างโง่เง่า หลายเส้นทางกำลังพวกเขาน้อยประปราย ขอเพียงเรารวมกำลังบุกโจมตีพร้อมกัน ใช้มากสู้น้อย ก็ย่อมตีแตกได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ ไปรวมตัวกับจังหวัดกังวอนทางนั้นได้”
คาโต คิโยมาสะพูดขึ้นเป็นฉากๆ ซามูไรที่หารือร่วมกันก็เอาแต่พยักหน้าเห็นด้วยว่า
“นี่ก็คือแผน ‘ใช้มากสู้น้อย’ ‘สู้เร็วปะทะเร็ว’ ท่านแม่ทัพช่างหลักแหลมจริง”
คาโต คิโยมาสะเผยรอยยิ้มออกมา ลูบเครากล่าวว่า
“เราเดินทางมาสองวันแล้ว โจรหมิงที่เข้าสู่จังหวัดฮัมกยองอยู่เมืองฮัมฮึงเสียเวลาไปไม่น้อย รอพวกเราโจมตีการอุดทางลงใต้พวกมันแตก ก็ไปรวมที่จังหวัดกังวอนกับท่านโมริ โยชินาริกองรบสี่ ไปรอรับศึกพวกทัพโจรหมิงกองนี้”
พื้นที่จังหวัดฮัมกยองเป็นพื้นที่ภูเขาโอบล้อมทางตะวันตกกับทางเหนือ ยิ่งลงไปทางใต้ พื้นที่ก็ยิ่งราบ เมืองฮัมฮึงทางนั้นขึ้นไปทางเหนือมองเห็นแต่เขา ลงใต้กลับเป็นที่เนินดิน ทัพใหญ่คาโต คิโยมาสะลงใต้ได้สองวัน ก็ไปเจอที่ราบเนินสูงต่ำ เห็นที่ราบยิ่งมาก
เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรงหัวแล้ว ใกล้แม่น้ำไม่น้อย คาโต คิโยมาสะก็ออกคำสั่งให้ทั้งกองทัพหยุดพัก กินอาหารกลางวันกันแล้วค่อนเดินทัพต่อ ส่วนใหญ่โจรวัวโค่วกินกลางวันกันง่ายๆ กินแต่ข้าว พวกคาโต คิโยมาสะมีเนื้อแห้งปลาแห้ง
คาโต คิโยมาสะก่อนออกคำสั่ง กระชากม้าไปยังที่สูงแห่งหนึ่งมองดู มองไปต้นและปลายกองกำลัง ตรวจดูว่ามีอันใดผิดปกติหรือไม่ จากนั้นก็ค่อยตัดสินใจ
“เจ้าขึ้นไปดูทางเหนือเกิดเรื่องอันใด!”
เขาเห็นกองทางเหนือของทัพใหญ่ เริ่มมีความวุ่นวาย รีบส่งซามูไรฮาตาโมโตะไปตรวจสอบ
ซามูไรฮาตาโมโตะผู้นี้วิ่งออกไปไม่นาน ก็มีคนวิ่งมาอย่างร้อนใจ ซามูไรหลายคนบนหลังม้าสีหน้าล้วนซีดขาว มาถึงตรงหน้าถึงกับลืมลงจากม้าคำนับ ร้อนใจกล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า
“ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพ ทหารม้าโจรหมิงไล่มาแล้วๆ !!”
ถึงตอนนี้ ทั้งกองกำลังล้วนวุ่นวาย เพราะหลายคนรู้สึกได้ถึงแผ่นดินสั่นสะเทือน ความสะเทือนนี้ไม่ใช่ดังแผ่นดินไหวที่คุ้นเคยกันในประเทศวัว แต่เป็นความสั่นไหวที่มีจังหวะ จากทางเหนือ จากทางตะวันออกกับตะวันตก ดูแล้วถูกล้อม
ได้ยินข่าวนี้ คาโต คิโยมาสะมือกุมด้ามดาบแน่น โงนเงนบนหลังม้าเกือบร่วง ตอนเขากล่าวขึ้น น้ำเสียงแหบไปมาก แต่ก็ยังตะโกนออกมา
“รวมกำลังๆ รวมกำลัง พลปืนใหญ่กับพลปืน ยังมีพลธนูมาที่นี่ให้หมด เร็ว!!”
ซามูไรฮาตาโมโตะข้างกายเขาเริ่มลนลานแล้ว รีบวิ่งออกไปถ่ายทอดคำสั่ง คาโต คิโยมาสะคำรามดังอีกว่า
“สั่งพวกนาเบะชิมะกับซาการะบุกลงใต้ ไม่ให้ทหารม้าโจรหมิงยึดที่สูงแถบนั้นไปได้เด็ดขาด!!”
ม้ายังคงวิ่งวนรอบไม่หยุด คาโต คิโยมาสะมือกุมบังเหียนแน่น ตะโกนคำรามไปพลาง ทางตะวันออกทัพใหญ่ที่สูงแห่งหนึ่ง มีทหารม้ากองกำลังหมิงปรากฏตัวขึ้น หยุดม้ามองไปแล้วมองไปอีก ก็กระชากม้าเข้าใส่ทัพใหญ่โจรวัวโค่ว โจรวัวโค่วทุกคน หลายคนจับตามองทหารม้าผู้นี้ ทหารม้ากองกำลังหมิงบุกเข้ามาได้หลายสิบก้าว ทหารม้าจำนวนมากจากที่สูงก็กรูกันออกมา ราวกับกระแสน้ำทะลักจากด้านใน