ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1300
ฮาร์วีย์เตะไปที่เข่าของเอ็ดดี้ส่งผลให้เข่าของเขาหักในทันที
เอ็ดดี้กรีดร้องราวกับหมูที่ถูกเชือด และรีบคุกเข่าลงต่อหน้าของฮาร์วีย์
เปรี้ยง!
ฮาร์วีย์เดินไปหาเทรซี่และตบเธออย่างแรงจนเธอล้มลงไปกองกับพื้น การตบนั้นรุนแรงมาก และดูเหมือนว่ามันจะทำให้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วย
ในเวลาไม่ถึงนาที ทั้งสองคนที่เคยอวดอ้างหยิ่งยโสโอหังก่อนหน้านี้กลับคุกเข่าลงต่อหน้าของฮาร์วีย์อย่างเปิดเผย
“ฮาร์วีย์? แกรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?! แกเพิ่งทำร้ายคนจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินนะ! มันเท่ากับว่าแกกำลังหาทางส่งตัวเองไปตายอยู่!”
“ฮาร์วีย์ แกมันบ้าไปแล้ว!”
สายตาของซัคและเด็กซ์เตอร์กลายเป็นเคร่งเครียด แม้ว่าพวกเขาจะต้องการหยุดฮาร์วีย์ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น
ฮาร์วีย์หันมาจ้องมองพวกเขาอย่างใจเย็น จากนั้นเขาก็คว้าขวดไวน์บนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกดังขึ้นพร้อมกับขวดไวน์ที่แตกละเอียดเป็นชิ้น ๆ ตอนนี้หัวของเอ็ดดี้มีหยดเลือดจำนวนมากเริ่มไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย และร่างกายของเขาก็โอนเอียงไปมา
“ฉันจะทุบหัวมันทุกครั้งที่พวกนายพูดเรื่องไร้สาระ มาดูกันว่าพวกนายจะพูดได้มากเท่าไรกว่าที่มันจะตาย?” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ พร้อมด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย
ทุกคนต่างยืนนิ่งเป็นหินราวกับรูปปั้น เหล่าคนในงานต่างก็ตะลึงงันจนสุดขีด
แม้แต่แมนดี้เองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร
ฮาร์วีย์เคยแสดงกริยาค่อนข้างรุนแรงในนิอัมมี่มาแล้ว ด้วยวิธีการที่เขาเอาชนะดอน แซนเดอร์และแซ็ค ซิมเมอร์พร้อมกับคนอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะไร้ความปรานีได้ถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะเป็นบริษัทมอร์แกน ไฟแนนเซียลกรุ๊ปจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็ตามแต่
ในหัวของแมนดี้เต็มไปด้วยความมึนงง เธอไม่รู้เลยว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
ฮาร์วียืเอื้อมมือไปตบหน้าเอ็ดดี้เบา ๆ “รีบ ๆ เรียกเอกอัครราชทูตของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินของเจ้ามาเดี๋ยวนี้”
เอ็ดดี้รีบดึงโทรศัพท์ออกมาด้วยความตื่นตระหนก และรีบโทรออกในทันที
“ท่านทูต! ผมเอง เอ็ดดี้! มีคนทำร้ายคนของเราและเรียกร้องให้ท่านออกมาขอโทษเขาครับ!”
ฮาร์วีย์คว้าโทรศัพท์เขาก่อนที่เอ็ดดี้จะทันได้พูดอะไรต่อ เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณต้องเป็นรูเบิร์ต อดีตรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์สินะ ฉันให้เวลาคุณแค่สิบนาทีเพื่อมาที่นี่และขอโทษฉัน”
“คุณน่าจะจำเสียงฉันได้นะ”
ฮาร์วีย์วางสายทันทีหลังจากพูดจบ
‘เขาบ้าไปแล้ว!’
‘เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ !’
แขกทุกคนในงานต่างก็มองฮาร์วีย์ราวกับว่าเขานั้นได้เสียสติไปแล้ว
‘ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!’
เอ็ดดี้พยายามยิ้มทั้งที่ปากชุ่มไปด้วยเลือด “ฮาร์วีย์! ในเมื่อนายก็รู้ว่าเขาเป็นอดีตรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์ นายก็น่าจะรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงนี่!”
“สำหรับคนอย่างเขา ความภาคภูมิใจของประเทศเรานั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด!”
“ก็คงไม่เป็นไร ถ้านายจะแค่ดูถูกฉัน แต่นี่นายยังหยามเกียรติประเทศอันรุ่งโรจน์ของพวกเราอีกด้วย!”
“นาย แมนดี้ และครอบครัวของนายทั้งหมดจะต้องตายเพราะบาปนี้!”
ฮาร์วีย์คว้าไวน์อีกขวดอย่างไม่ใส่ใจนัก ใบหน้าของเขาเย็นชา เสียงแก้วแตกดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาใช้มันทุบหัวของเอ็ดดี้
“อ๊ากกกกก!”
เอ็ดดี้กรีดร้องอย่างเจ็บปวด
เขากลิ้งไปมากับพื้นอย่างทุรนทุรายไม่สามารถแม้แต่จะคุกเข่าได้ด้วยซ้ำ
เขาอยากจะขู่ฮาร์วีย์ แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น
เรื่องนี้มันบ้าบอสิ้นดี!
สำหรับเอ็ดดี้แล้ว ฮาร์วีย์คือคนที่บ้าบิ่นสุด ๆ !
สำหรับแขกที่เหลือในงานพวกเขายังคงรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขารู้สึกได้ว่าชีวิตของฮาร์วีย์ใกล้จะจบลงแล้ว
เขาจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!
แมนดี้และครอบครัวของเธอเองก็จะต้องตายในไม่ช้านี้!
แมนดี้รู้สึกราวกับว่าสายฟ้ากำลังฟาดลงมาที่เธอตอนนี้ เธอไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เธอรีบพูดกับฮาร์วีย์ว่า
“ที่รัก เราควรรีบหนี! ยิ่งห่างจากที่นี่มากเท่าไหร่ได้ก็ยิ่งดีเท่านั้น”