ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1418
ดวงตาของสตีฟกระตุก ใบหน้าของเขาถอดสีจนหมด
แต่หากไม่มีคำสั่งของฮาร์วีย์ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
หลังจากคุกเข่าลงไปเมื่อคืนนั้น ความกล้าของเขาก็สูญสิ้นไปหมด เขาไม่กล้าจะต่อกรกับฮาร์วีย์อีกต่อไป
เขาไม่กล้าแม้แต่จะติดต่อกับปีเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาทำได้แค่เตรียมการย้ายทรัพย์สินทุกกระบวนการให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
“พอแล้ว ถ้าผมไม่อนุญาต เขาจะไม่มีสิทธิ์พูดแม้แต่น้อย” ฮาร์วีย์กล่าวขณะยิ้มจาง ๆ
“ตอนแรก คุณใช้การทำสัญญาเป็นการหลอกล่อให้ภรรยาผมดื่มเหล้า คุณเอาแต่บังคับให้เธอดื่ม พูดซ้ำไปซ้ำมา จนคนอื่นเขารู้กันหมดแล้วว่าคุณกำลังทำอะไร”
“แล้ววันนี้ คุณยังเอาแต่ยั่วโมโหผมซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่มีเหตุผลอีก ผมอยากจะไล่คุณออกเพื่อลดปัญหาของพวกเราเหลือเกิน”
“ทำไมคุณถึงชอบทำตัวน่าโมโหขนาดนี้นะ?”
“สตีฟ ทุกคนจากประเทศ J เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนหมอนี่กันหมดเลยหรือเปล่า หรือเพราะคุณไม่ได้สอนสุนัขของตัวเองให้มีมารยาท?”
“ถูกเจ้าหมอนี่เห่าใส่ตลอดทำให้ผมรำคาญเป็นอย่างมากเลยล่ะ”
สตีฟตัวสั่นพอได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ เขาตอบกลับขณะสั่นไปทั้งตัวที่ใส่รองเท้าบู๊ต “ซีอีโอยอร์กครับ ผมไม่ได้สั่งสอนเขาดีพอ เดี๋ยวผมจัดการเอง!”
สตีฟตะโกนใส่บร็อกด้วยความโกรธเกรี้ยว “เลิกส่งเสียงดังได้แล้ว! คุกเข่าขอขมาต่อหน้าซีอีโอยอร์กซะ! ยอมรับความผิดของตัวเองแล้วร้องขอให้เขาให้อภัยเดี๋ยวนี้!”
สตีฟอยากจะตบบร็อกให้ตาย
‘ใครมันทำให้หมอนี่ใจกล้าแถมยังน่ารำคาญได้ขนาดนี้นะ?!’
“ผมทำอะไรผิดเหรอครับ? ท่านประธานลี ท่านไม่ได้กลัวคนจากประเทศ H ใช่ไหมครับ?!”
“อีกอย่าง ท่านประธานได้คำอนุญาตจากท่านตัวแทนลีที่จะมอบทรัพย์สินของแผนกธุรกิจในเซาท์ไลท์ให้คนจากประเทศ H แล้วเหรอครับ?”
“ผมเข้าใจแล้ว! ท่านต้องร่วมมือกันกับฮาร์วีย์แน่ ๆ ต่อให้ผมต้องคลานไป ผมก็จะคลานไปหาท่านตัวแทนลี แล้วเล่าเรื่องพวกนี้ให้ท่านฟัง!”
ฮาร์วีย์เลิกสนใจคำพูดไร้สาระของบร็อกแล้ว เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดมือแล้วเอ่ยด้วยเสียงสงบนิ่ง “ทำตามกระบวนการให้เสร็จ เซ็นเอกสารนั่นเสียที ผมรีบ!”
สตีฟตัวสั่น จากนั้นก็โบกมือ บอดี้การ์ดรีบตรงเข้ามาจัดการบร็อก
สตีฟลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล จากนั้นก็เดินตามฮาร์วีย์เข้าห้องออฟฟิศไปอย่างติด ๆ
ในห้องนั้นมีสัญญาวางเตรียมไว้แล้ว
สตีฟไม่กล้าอ่านสัญญานั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขารีบเซ็นชื่อตัวเองลงไปโดยอัตโนมัติ
จากนั้นเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้นราวกับเป็นอัมพาต
เขารู้ว่าในตอนนี้ เขารอดชีวิตแล้ว
ฮาร์วีย์ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ เขาแค่ต้องการเซ็นสัญญาเท่านั้น
ปกติแล้ว คนอื่นจะเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องการออกคำสั่งจัดการทรัพย์สินที่ว่า
ส่วนเรื่องสตีฟจะรายงานสถานการณ์กับผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่าเขาหลังเขารอดชีวิตกลับมาได้อย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับฮาร์วีย์
จากมุมมองด้านข่างนั้น อาเวลจ้องมองทุกอย่างด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้
จะมากหรือจะน้อย เขาก็จำได้ว่าสตีฟเป็นใคร
เขายังรู้ด้วยว่าสตีฟถูกเหยียบย่ำตั้งแต่วินาทีที่อีกฝ่ายเขามาถึงที่นี่
ก่อนหน้านี้นั้น อาเวลไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนทำ เขาจะไปรู้ได้ยังไง?
แต่ตอนนี้ พอได้เห็นสภาพหมดกำลังของสตีฟ แล้วหันกลับมามองเขาที่ไร้รอยขีดข่วน แม้ว่าอาเวลจะเป็นเจ้านายนักเลง แต่เขาก็รู้สึกว่าเขาเฉียดความตายไปนิดเดียว
อาเวลเห็นฮาร์วีย์กำลังจะกลับ เขาเลยรีบวิ่งตามฮาร์วีย์ไป “ซีอีโอยอร์กครับ วันนี้ท่านได้เปิดหูเปิดตาผมจริง ๆ !”
“ก่อนหน้านี้ผมไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน ผมนำของขวัญมาแสดงความจริงใจให้ท่านด้วย โปรดรับมันไว้เถอะครับ!”