ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1562
มิเชลหัวเราะลั่นหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์ก จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “พ่อหนุ่ม อย่าคิดว่าแค่ตัวเองพอมีฝีมือแล้วจะกลายเป็นราชาสิ ฉันจะบอกนายให้เอาบุญ คนเราน่ะไม่ควรประเมินตัวเองสูงเกินความเป็นจริงหรอก!”
“ถ้านายไปที่มอร์ดูหรือโวลซิ่ง นายจะรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ตัวตลก!”
“บัควู้ดเต็มไปด้วยพวกชั่ว นายคิดว่านายมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่เพียงเพราะบางคนเรียกนายว่าเจ้าชายรึไง? นายเชื่อจริง ๆ หรือว่าตัวเองมีพลังอำนาจเช่นนั้น?”
“ถ้าเป็นในโวลซิ่งและมอร์ดู ภูมิหลังและพลังอำนาจของนายก็เป็นแค่เรื่องตลก!”
“ด้วยพฤติกรรมที่โอหังของนายและความจริงที่ว่านายหาเรื่องตระกูลสมิธ อนาคตของนายจะมีชีวิตที่ยากลำบากรออยู่แน่นอน”
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างใจเย็นโดยไม่ให้คำตอบตรง ๆ
“ผู้มีอำนาจ ภูมิหลัง เส้นสาย ความแข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้”
“แต่แน่นอน หากเราจะเปรียบเทียบกันที่สิ่งเหล่านั้น ผมก็เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด มีภูมิหลังที่พิเศษที่สุด มีเส้นสายที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย…”
“ไม่สำคัญว่าคุณป้าจะเชื่อหรือเปล่า แต่นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!”
“นอกจากอีวอนน์ ซาเวียร์แล้ว ก็ไม่มีใครที่มีสิทธิ์บอกผมให้ทิ้งเธอไป และพวกเขาไม่มีความสามารถพอที่จะทำเช่นนั้นด้วย”
“ต่อให้เป็นแม่ของอีวอนน์ นายน้อยทั้งสี่แห่งโวลซิ่ง หรือเจ้าชายทั้งหกแห่งมอร์ดู…”
“ผมจะไม่มีวันยอมให้อีวอนน์รู้สึกผิด!”
จุดยืนของฮาร์วีย์นั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง เสียจนไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
มิเชลแสดงท่าทางเคร่งขรึม หลังจากมองไปที่ฮาร์วีย์ก็หันสายตาไปทางอีวอนน์
“อีวอนน์ ลูกแน่ใจหรือว่าจะผิดสัญญา?”
“แล้วลูกจะปล่อยให้เด็กคนนี้ทำให้แม่ขายหน้าอย่างที่เขาต้องการเหรอ?”
สีหน้าของอีวอนน์เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน แล้วในที่สุดเธอก็ตอบว่า “แม่ หนูจะทำตามที่สัญญาไว้!”
“แต่หนูสัญญาไว้ว่าจะพบชายคนนั้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หนูไม่เคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ!”
“ถ้าแม่หมายถึงเรื่องแต่งงาน หนูขอโทษ หนูทำไม่ได้!”
“สำหรับวิกฤตของตระกูลสมิธ ตระกูลที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบตระกูลแรกของมาหลายปีแล้ว! ทำไมแม่ยังกลัวพวกองค์กรนักฆ่าอีกล่ะ?”
“ตระกูลเราก็ทุ่มเงินกำจัดพวกเขาก็ได้ แน่นอนว่าเราทำได้แน่!”
“ทำไมเราต้องร่วมหัวจมท้ายไปกับกับพวกเขาด้วย?”
“แม่ไม่รู้หรือว่าตระกูลทอมป์สันมีเป็นคนประเภทพไหน? แม่คิดว่าพวกเขาที่จะทำอะไรที่พวกเขาไม่ได้ผลประโยชน์งั้นเหรอ?”
“นั่นคือเหตุผลที่หนูรับปากกับแม่ว่าจะไปเดทกับเขา แต่หนูจะตกปากแต่งงานกับเขาเด็ดขาด หนูจะทำตามสัญญา แต่หนูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตระกูลจะไม่ทำให้หนูลำบากไปกว่านี้”
หลังจากได้ยินคำพูดของอีวอนน์สายตาของมิเชลเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
เธอรู้ดีว่าลูกสาวของเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งแต่ดื้อรั้น เมื่อทั้งสองฝ่ายพูดมาถึงจุดนี้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องสนทนากันอีกต่อไป
มิเชลหันหลังกลับและจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
แต่ก่อนที่เธอจะเดินออกจากทางเข้า เธอมองไปที่ฮาร์วีย์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง และเธอพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้ เพราะฉันไม่อาจพาอีวอนน์ไปด้วยได้!”
“แต่ฉันยังยืนกรานว่านายไม่คู่ควรกับลูกสาวของฉัน! ต่อให้นายพยายามไปทั้งชีวิต นายก็จะไม่มีวันได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลสมิธ!”
“นายรู้ดีกว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ!”
“ระวังตัวไว้ให้ดี!”
มิเชลก้าวไปข้างหน้าและอุทานอย่างเย็นชา “ไปกันได้แล้ว!”
ฮันเดลและคนอื่น ๆ มองฮาร์วีย์ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปรากฏในแววตตาของพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจึงเดินตามมิเชลออกไป
ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นมิเชล ผู้จองหองยอมแพ้และโอนอ่อนผ่อนปรน
มิเชลก้าวไปในรถโตโยต้า อัลฟาร์ดของเธอและโทรออกอย่างรวดเร็ว
“ฉันต้องการข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับใครสักคน และชื่อของเขาคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!”