ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1668
ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้ตอบโต้ ใบหน้าของเคลลี่ก็มืดมิดราวกับกลางคืน เขาเอ่ยว่า “จูน ลี คุณหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”
“ใครคือหมาวัด? แล้วใครคือดอกฟ้า?”
“ฮาร์วีย์และเฮเซลชอบพอกันมาตั้งแต่เด็กนะ!”
“ผมเฝ้าดูเขาเติบโต แน่นอนว่าผมรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร!”
“ถ้าเขายอมเป็นลูกเขยของผม ผมคงมีความสุขมาก!”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับผู้ชายไม่ใช่จำนวนเงินที่เขาหาได้ แต่เป็นความรับผิดชอบที่เขามีต่างหาก!”
“พวกคุณสองคนไม่ได้ต่างกันเลย มองคนแค่ภายนอก!!”
“ในสายตาของผม ฮาร์วีย์ยังไม่มีช่องทางของตัวเอง แต่ถ้าเขามีเขาย่อมสามารถทำเงินได้หลายแสนดอลลาร์!”
“วันนี้ผมโทรเรียกให้เขาที่นี่ก็เพื่อจะบอกเขาว่าผมมีตำแหน่งระดับสูงในบริษัทให้เขาทำ ถ้าเขาอยากทำ เขาก็เข้ารับตำแหน่งได้ตลอดเวลา!”
เคลลี่เป็นคนเด็ดขาด เขาปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เป็นอย่างดีจนถึงจุดที่ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ
“อะไรนะ?! คุณจองตำแหน่งระดับสูงให้ไอ้คนไร้ประโยชน์นี่เหรอ?!”
ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้ตอบอะไรออกไป จูนก็พรวดพราดขึ้นด้วยความโกรธ
“เขามีดีอะไร? เขาทำอะไรได้? คุณต้องการให้เขามีหน้าที่การงานดี ๆ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนงั้นเหรอ? คุณอยากให้เขาทำเงินได้หลายแสนดอลลาร์งั้นสิ?”
“คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”
“อีกอย่าง คุณเคยบอกว่าคุณจะไม่ให้เพื่อนและญาติเข้ามาทำงานในบริษัทของคุณไม่ใช่เหรอ?”
“คุณไม่ยอมให้ลูกพี่ลูกน้องของฉันมาทำงาน ทั้งที่เขามาขอร้องตั้งหลายครั้ง แต่คุณกลับยอมให้อาร์วีย์เข้าทำงานในตำแหน่งระดับสูงเนี่ยนะ?!”
“เคลลี่ มาโลน คุณอยากตายรึไง?!”
“ขอบอกไว้เลย! ฉันไม่มีทางเห็นด้วยกับความคิดนี้ของคุณ!”
ถ้าฮาร์วีย์เข้าบริษัทด้วยตำแหน่งที่สูงซึ่งทำเงินเดือนได้มูลค่าหลายแสนดอลลาร์ขึ้นมาจริง ๆ เขาอาจพยายามที่จะอยู่ในบริษัทและยึดเกาะเฮเซลไว้อย่างสุดความสามารถ แล้วก็คงวางแผนที่จะฉกทรัพย์สินของตระกูลมาโลนไปจนหมด นั่นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ!
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ จูนก็จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเกลียดชัง
สีหน้าของเคลลี่แย่ลงไปอีก
“แค่ผมเห็นด้วยก็พอแล้ว คุณจะบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์พูดเรื่องพวกนี้งั้นเหรอ?”
จูนชี้ไปที่เคลลี่และอุทานเสียงดัง “สิทธิ์ในการพูดงั้นเหรอ? คุณมีสิทธิ์พูดแทนลูกเขยแต่งเข้าบ้านอย่างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เพ่ย!”
คำพูดเหล่านี้ชี้ชัดไปยังฮาร์วีย์อย่างชัดเจน ทุกคำล้วนดูถูกเหยียดหยามฮาร์วีย์ ทุกประโยคล้วนต่อต้านไม่ให้เขามายุ่งย่ามกับตระกูลมาโลน
ฮาร์วีย์ไม่อาจมีอารมณ์ต่อคำสบประมาทเหล่านั้น เมื่อเขาเห็นเคลลี่และจูนโต้เถียงกันอีกครั้ง เขายืนขึ้นเพื่อพยายามไกล่เกลี่ยคนทั้งสอง
“คุณลุง คุณป้า เลิกทะเลาะกันเพราะผมเถอะครับ…”
ทันใดนั้นเฮเซลก็มีความคิดผุดขึ้นในหัว
“คุณพ่อคุณแม่ หยุดเถอะ มันเป็นแค่งาน”
“ไม่เห็นต้องทะเลาะกันขนาดนี้เลย”
“พ่อก็ไม่อยากทะเลาะด้วยหรอก แต่แม่ของลูกกำลังล้ำเส้น! ฮาร์วีย์ก็เป็นหนึ่งในของตระกูลพ่อด้วย แล้วมันจะผิดอะไรที่พ่อจะดูแลเขา” เคลลี่ตะคอกด้วยความเสียใจ
“เมื่อก่อนตอนเราอยู่ในเซาท์ไลท์ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของฮาร์วีย์ เราคงอดตายไปแล้ว!”
“แต่แม่ของลูกกลับไม่รู้จักตอบแทนน้ำใจคนอื่น!”
จูนหัวเราะเบา ๆ
“ตอบแทนน้ำใจ? พ่อแม่ของเขาให้เงินเราเจ็ดสิบดอลลาห์!”
“งั้นให้ฉันจ่ายคืนเขาสักร้อยเท่าเป็นไง? นี่เงินเจ็ดพันดอลลาร์ เอาไปซะ!”
จูนหยิบเงินห้าปึกออกมาในขณะที่เธอพูดและโยนมันใส่หน้าฮาร์วีย์
“คุณ…!”
เคลลี่นึกอยากจะตบจูนแรง ๆ สักฉาด
แต่เฮเซลกระโดดเข้าไปขวางข้างหน้าเคลลี่อย่างรวดเร็ว
“คุณพ่อ คุณแม่พูดถูกนะคะ กฎของบริษัทระบุว่าเราไม่ควรจ้างเพื่อนหรือญาติมาทำงาน มันจะแย่เอานะคะ ถ้าพ่อไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัทของตัวเอง!”
“แต่ในเมื่อตระกูลของเขามีเมตตาต่อเรา เราก็จะไม่แล้งน้ำใจใส่เขาเช่นกัน”
“เอาอย่างนี้ดีไหม? หนูจะใช้เส้นสายของหนูพาเขาเข้าทำงานที่ไคเซ็น กรุ๊ป คุณพ่อคิดว่าดีไหม?”