ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1671
ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดไม่ออกชั่วขณะและไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
เคลลี่ มาโลนรู้สึกอายมากเช่นกัน ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะมีค่ามากน้อยเพียงใด ก็ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงน้ำใจของฮาร์วีย์ แต่มันกลับกลายเป็นเช่นนี้…
เขาอายนิดหน่อยและพูดว่า “เอาล่ะ อย่าเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระกันเลย รีบกินเถอะ!”
ในทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของฮาร์วีย์สั่น เขาหยิบมันขึ้นมารับสายโดยไม่รู้ตัวและได้ยินเสียงตื่นตระหนกของโยนาลินช์จากปลายสาย “นายน้อยยอร์ก มีบางอย่างเกิดขึ้น รีบมาเร็วเข้า ไม่งั้นฉันจะ…”
โทรศัพท์ถูกตัดสายไปก่อนที่โยนาจะทันได้พูดจบ เมื่อฮาร์วีย์โทรกลับไปเขาก็ได้รับเพียงเสียงสัญญาณตอบรับ
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลลินช์!
แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่อยากสนใจความเป็นไปของตระกูลลินช์มากนัก แต่ในตอนนี้เขาก็ยังกังวลเล็กน้อยเรื่องโยนาเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบพูดว่า “ลุงมาโลน มีบางอย่างเกิดขึ้น ผมต้องไปแล้ว ทานอาหารค่ำให้อร่อยนะครับ วันหลังผมจะเชิญไปทานอาหารเย็นด้วยกัน!”
จากนั้นเขาก็เพิกเฉยต่อการยื้อของเคลลี่และออกไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ
“ฮึ่ม ฉันแค่ตุ๋นเห็ดของเขาและต้มชาผู่เอ๋อ มาทำตัวอย่างนี้ได้ยังไง?”
จูน ลี โกรธจนตัวสั่น หลังจากเห็นว่าฮาร์วีย์ทำตัวไม่สุภาพใส่
“ไอ้ยาจกนี่มาหาเรา เราเลี้ยงข้าวเขาและยังหางานให้เขาทำ ฉันแค่แหย่นิดหน่อย แต่เขากลับทำตัวเนรคุณใส่เราอย่างนี้น่ะเหรอ?”
“พวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าก็แบบนี้แหละ คงไม่มีอะไรจะเสียแล้ว!”
เฮเซล มาโลนก็ถอนหายใจเช่นกัน เธอมีคนมาหมายปองมากมาย และฮาร์วีย์ก็เป็นคนที่แย่ที่สุดในบรรดาผู้ชายเหล่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้ชายแบบนี้ไปไม่ถึงไหนแน่นอน เขาคงถูกกำหนดให้เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวไปตลอดชีวิต
มิสเตอร์ไทคูนยังจะดีซะกว่า เขาเป็นเจ้าพ่อ เหมือนดั่งชื่อของเขา!
เคลลี่นังรู้สึกอายมาก แต่เขายังพยายามอธิบายสถานการณ์ “คุณไม่ได้ยินเหรอว่าฮาร์วีย์บอกว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นรึ? เมื่อกี้มีคนโทรหาเขาไม่ใช่รึไง?”
“มีปัญหา? เขาเป็นคยบ้านนอกที่เพิ่งมาจากชนบท เขาจะมีปัญหาอะไรในมอร์ดู?”
“หรือเขารีบไปรับถุงยังชีพ?”
“ก็คงใช่ เขาจะทำอะไรได้อีกนอกจากเรื่องแบบนี้?”
จูนหัวเราะเยาะครั้งแล้วครั้งเล่า
“มาโลน ฉันบอกคุณแล้ว หยุดหวังให้เฮเซลกับเขามีอนาคตร่วมกันเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา มีส่วนไหนที่คู่ควรกับลูกสาวตัวน้อยของเรา?”
“อย่าให้เขามาที่บ้านของเราอีก ดูเห็ดที่เขาให้มาสิ ไม่รู้ว่าใช้มูลวัวปลูกรึเปล่า แถมกลิ่นก็เหม็นชะมัด คุณจะกินเหรอ?”
“และไข่ต้มใบชานี้ มันคงรสชาติแย่มาก เราจะไม่กินมันหรอกนะ!”
“ก็ได้! ถ้าคุณไม่กิน ผมจะกินเอง!” เคลลี่ก็เริ่มโกรธเช่นกัน
เขาหยิบชามซุปขึ้นมาทันทีและดื่มซุปไก่ที่ใส่สมุนไพรโชวูไปจนหมด
จากนั้นเขาก็กินไข่ต้มใบชาต่อจนหมด
หลังจากกินมันทั้งหมดเขาก็เรอออกมา
จูนมองฉากนี้แล้วพูดอย่างเย็นชา “อร่อยไหม? ถ้าอร่อย ก็กินให้เยอะ ๆไปเลย ฉันจะดูว่าคุณจะยัดมันไปได้ถึงขนาดไหน!”
“โอ้ ฉันบอกพวกเธอทั้งคู่กี่ครั้งแล้วว่าพวกเธอต้องดีต่อกันเข้าไว้? ทำไมพวกเธอถึงทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้”
ในขณะเดียวกัน ผู้อาวุโสวัยหกสิบปีคู่หนึ่งก็เดินเข้ามา พวกเขาดูน่าเกรงขาม และมีกลิ่นอายของความสง่างามประกายออกมา
สองคนนั้นเป็นพ่อแม่ของจูน
“คุณพ่อคุณแม่มาแล้ว รีบมากินข้าวเร็วเข้า อาหารพร้อมแล้ว!” จูนทักทายพวกเขาด้วยใบหน้าที่มีความสุข
คุณพ่อลีพยักหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้น จากนั้นเขาก็คว้ากล่องชาผู่เอ๋อที่เพิ่งถูกโยนลงพื้นขึ้นมามองซ้ายมองขวาแล้วพูดว่า “เคลลี่ เธอได้สิ่งนี้มาจากไหน?”