ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1831
อีเลียสไม่ค่อยได้รับผิดชอบอะไรเลย
แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู แต่เขาก็เป็นคนที่สุขุมรอบคอบที่สุด
ไม่มีใครกล้ารบกวนเขาในขณะที่เขาฝึกหมากล้อม เปียโน วาดภาพ หรือศิลปะการต่อสู้
แต่โทรศัพท์ของเขากลับดังขึ้นในขณะที่เขากำลังเล่นหมากล้อม นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นแล้ว
อีเลียสยืนขึ้นเพื่อรับโทรศัพท์ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ว่ามา”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อยของอีเลียสเลขาที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าชาย มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับผู้อำนวยการฌอง แลรี่ แชมเบอร์ส และพรรคพวกของเขา!
“ในขณะที่พวกเขาไปสร้างปัญหาให้ฮาร์วีย์ที่โรงพยาบาล เบนจามินและโยนา ลินช์ก็ไปที่นั่น!
“ผู้กำกับฌองทุกปลดออกจากตำแหน่ง และคุณแชมเบอร์สก็ถูกจับเข้าคุก!
“เฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอกำลังเผชิญกับอันตรายที่คาดไม่ถึงเช่นกัน หากฝ่ายตรงข้ามยังไม่หยุดโจมตี บริษัทอาจล้มละลายได้เลย
“อีกทั้งดิฉันยังได้รับข้อมูลจากโลกใต้ดินในเรื่องที่เราทำการตรวจสอบประวัติของฮาร์วีย์แล้วค่ะ กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เราคิด
“เขามาจากบัควู้ด แต่ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขามีอีกตัวตนหนึ่ง เขาคือเจ้าชายยอร์ก!
“เจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์!”
เลขาสาวตัวสั่นเมื่อเธอเอ่ยชื่อนี้ออกมา
ตอนนี้ไม่มีเวลาเหลือมากนัก เธอจึงไม่สามารถค้นหาข้อมูลได้มากมายเท่าไหร่ แต่ก็อย่างที่เธอพูดไปแล้ว แค่ชื่อของฮาร์วีย์ก็เพียงพอที่จะอธิบายปัญหาโดยรวมได้
คนที่มีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าชายจะเป็นคนธรรมดา ๆ ได้ยังไง?
สำหรับฮาร์วีย์ที่จะเป็นเจ้าชายเพียงคนเดียวในเมืองขนาดใหญ่อย่างเซาท์ไลท์ได้ นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์สถานะและตัวตนของเขา
“เขาน่ะหรือ? แต่ฉันดันคิดมาตลอดว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นมันก็น่าจะชัดเจนแล้วว่าทำไมแลรี่ถึงเอาชนะเขาไม่ได้”
อีเลียสกล่าวเสริมอย่างใจเย็น “แต่ แล้วยังไงต่อล่ะ?”
“ดิฉันเคยได้ยินเรื่องราวของเจ้าชายยอร์กมาก่อน เขาเป็นคนที่ทำลายตระกูลชั้นนำของเซาท์ไลท์อย่างตระกูลยอร์กลงด้วยตัวเขาเอง
“แต่ในสายตาของคนอย่างฉัน พวกยอร์กก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
“การได้ครองอำนาจอยู่ในเซาท์ไลท์ ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีสิทธิ์เข้ามาร่วมวงศ์วานสังคมชั้นสูงเดียวกับเรา เขาก็เป็นได้แค่คนนอกวงสังคมเท่านั้น
“เข้ามาอวดแบ่งอำนาจของตัวเองแค่เพราะเขาอ้างถึงเซาท์ไลท์แค่นั้น…
“น่าเสียดายที่กระแสน้ำในมอร์ดูเชี่ยวกราก”
อีเลียสสงบนิ่งตลอดเวลา ดูเหมือนเขาจะเข้าใจดีว่าจริง ๆ แล้วฮาร์วีย์เป็นใคร และเขาก็ไม่ได้ถูกข้อมูลที่พึ่งได้รับทำให้หวั่นไหวแต่อย่างใด
จากนั้นเลขาก็จำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เจ้าชาย ยังมีอีกเรื่องค่ะ
“ว่ากันว่าหนึ่งในสี่นายน้อยแห่งฮ่องกง แมทธิว ฟลินน์ หนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู ลูคัส ฌอง ควินตัน ยอร์ก ตัวแทนของสตาร์ แชโบลจากประเทศ J ในประเทศ H อย่างปีเตอร์ ลี และอีกหลายต่อหลายคนก็ไปที่สกาย คอร์ปอเรชั่นของเจ้าชายยอร์กเพื่อสร้างปัญหามาแล้ว
“แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนจบลงด้วยความสูญเสียครั้งใหญ่
“เจ้าชายฌองทำเพียงแค่แอบสนับสนุนคนอื่น ๆ อย่างลับ ๆ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้โดยตรง เขาจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
“แต่มีคนบอกว่าแมทธิว ฟลินน์บาดเจ็บสาหัสในตอนที่เขาเดินทางกลับถึงฮ่องกง
“ควินตันถูกควบคุมตัวเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มเพื่อทบทวนความผิดของตัวเอง และก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวมาจนถึงบัดเดี๋ยวนี้
“ปีเตอร์ถูกถอดออกจากตำแหน่งตัวแทนไปแล้วด้วยซ้ำ!
“และแม้ว่าจะไม่มีข้อพิสูจน์ที่ว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับเจ้าชายยอร์ก แต่ท่านก็ยังควรต้องระมัดระวังเรื่องของเขาเอาไว้ด้วยนะคะ”
ความอยากรู้อยากเห็นจุดประกายในตัวอีเลียส เขายิ้มและตอบว่า “ถ้าเขาทำให้เจ้าชายฌองจนมุมได้จริง ๆ ฉันก็คิดว่าเขาค่อนข้างมีความสามารถทีเดียว”
“บอกให้ใครก็ได้ส่งข้อความถึงชายคนนี้ บอกเขาว่าฉันต้องการพบเขาและขอให้เขามาพบฉันที่สตอร์ม พาวิลเลี่ยนในอีกสามวันหลังจากนี้”
ปัง!
ทันใดนั้นเอง ประตูที่ล็อคอยู่ตรงสวนบนชั้นดาดฟ้าถูกเปิดออก
ชายคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้าอย่างใจเย็น
“อย่างที่ฉันเห็น เราไม่ต้องรอถึงสามวันด้วยซ้ำ”
อีเลียสวางโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นผู้มาเยือน เขาหรี่ตามองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มใบหน้า