ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1986
ในขณะนี้เฮเซล มาโลนมองไปที่แกรี่ ดันเคนโดยไม่รู้ตัว
“คุณยังเป็นหนึ่งในเยาวชนที่มีพรสวรรค์ระดับแนวหน้าของประเทศ H คุณเองก็คงไม่ได้ต่างอะไรกับหัวหน้าสาขาหลงเหมินคนใหม่ของมอร์ดูนักร้อง
“คนได้พบกับหัวหน้าสาขาด้วยตัวเองบ้างหรือยัง?”
“ยังเลย” แกรี่ตอบอย่างใจเย็น
“ถ้าผมอยากพบเขา ผมจะท้าดวลกับเขาที่สาขาหลงเหมินแห่งมอร์ดู
“แต่ผมกังวลว่าตัวเองอาจดูหมิ่นหลงเหมินมากเกินไป พลั้งเผลอทำร้ายเขาเข้า”
แกรี่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ในสายตาของเขา เขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถในระดับแนวหน้าของประเทศ H
หัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดูเทียบอะไรกับเขาไม่ได้เลย!
เฮเซลและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นตกตะลึง
“นายน้อยดันเคน คุณนี่คุณกำลังจะบอกว่าหัวหน้าสาขาคนใหม่เทียบอะไรกับคุณไม่ได้งั้นหรือ?”
“พวกคุณลืมไปแล้วหรือว่าจัสติน วอล์คเกอร์ปฏิบัติต่อผมยังไง?”แกรี่ตอบอย่างใจเย็น
เฮเซลคล้อยตามในทันที
นั่นเป็นเรื่องจริง จัสติน รองหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดูค่อนข้างยำเกรงต่อแกรี่
จากเหตุการณ์นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์สถานะและอำนาจของแกรี่
หลังจากได้ยินเฮเซลพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด สาวกของหลงเหมินก็ตกใจเช่นกัน
หนึ่งในนั้นจับมือกันด้วยความชื่นชมในขณะที่เขาอุทานว่า “ผมคิดอยู่เสมอว่าหัวหน้าสาขาคนใหม่ของเราคือฮีโร่ที่อายุน้อยที่สุด ไม่คิดเลยว่านายน้อยดันเคนจะมีพลังเช่นนี้ด้วย!
“หลงเหมินสาขามอร์ดูจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในสัปดาห์หน้า จากนั้นหัวหน้าสาขาจะแสดงตัวอย่างเป็นทางการ
“ถ้ามีโอกาส คุณอาจเข้าร่วมงานเลี้ยงและพบกับเขาได้เหมือนกันนะ นายน้อยดันเคน
“บางทีเพราะคนอาจจะถูกชะตากัน พูดจากันถูกคอ?”
จากนั้นแกรี่ก็ตอบอย่างใจเย็นว่า “เดี๋ยวเราค่อยว่ากัน ผมยังมีบางอย่างที่ต้องทำ ผมต้องปกป้องคนที่สำคัญกับผมมาก
“ฉันอาจไม่มีเวลาไปเข้าร่วมงานเลี้ยง
“แน่นอน ถ้าหัวหน้าสาขาของคุณขอร้อง ผมจะลองคิดดูก็แล้วกัน”
“ฉันไม่เคยได้ร่วมงานที่สำคัญอะไรแบบนี้เลย นายน้อยดันเคน!” เฮเซลพูดด้วยความดีใจ
“ถ้าคุณตัดสินใจที่จะไป คุณต้องพาฉันไปด้วยนะ!”
อีวอนน์ ซาเวียร์คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมา
“ฉันก็สนใจงานเลี้ยงอาหารค่ำของหลงเหมินเหมือนกัน”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฮเซลและอีวอนน์ แกรี่ก็ตกอยู่ในความเงียบ
“ในเมื่อพวกคุณอยากจะเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น ผมจะพาพวกคุณไปที่นั่นเอง” แกรี่ตอบอย่างใจเย็น
“ส่วนเรื่องคำเชิญ…”
แกรี่ตอบว่า “ถือเป็นเกียรติของหลงเหมินแล้วที่ได้ต้อนรับผมในงานเลี้ยงอาหารค่ำ คงจะต้องการคำเชิญไปทำไม
“วางใจเถอะ แค่ชื่อของผมก็ดีพอที่จะเป็นคำเชิญได้แล้ว!”
ไม่ใช่แค่เฮเซลและจูน ลีแม้แต่เคลลี่ มาโลนยังรู้สึกใจชื้นหลังจากได้ยินคำพูดของแกรี่
“คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ นายน้อยดันเคน? พาผมไปด้วยได้ไหม?”
เคลลี่รู้สึกว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทของเขาถ้าเขาไปร่วมงานด้วย
ฮาร์วีย์กำลังเพลิดเพลินไปกับละครฉากนั้นจนกระทั่งเคลลี่พูดขึ้น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฮาร์วีย์ก็พูดว่า “คุณลุงมาโลน เท่าที่ผมรู้ ถ้าไม่ได้รับเชิญก็เข้าไปในงานไม่ได้ แต่เพราะทุกคนอยากเข้าร่วมในงานนั้น ผม…”
“หึ.. ฟังจากน้ำเสียงของนายแล้ว นายกำลังจะบอกว่าน่าจะทำให้เราได้รับคำเชิญอย่างนั้นสินะ?” จูนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ตัดบทฮาร์วีย์ในทันที
แกรี่จ้องฮาร์วีย์อย่างเย็นชา จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “อย่าห่วงไปเลย คุณลุงมาโลน ผมจะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าจะได้เข้าร่วมงานแน่ เพราะผมสัญญากับสาว ๆ ไว้แล้ว”