ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1988
เคลลี่มาโลนรู้สึกหมดเรี่ยวแรง และคนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าแปลก ๆ เช่นกัน
จูน ลีและเฮเซล มาโลนจ้องมองฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างเย้ยหยัน
มิวะ ฟูจิฮาระและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ ทำถ้าเรากลับพวกเขากำลังมองดูคนงี่เง่า เพราะเขาทำราวกับว่าเพิ่งได้ยินเรื่องตลกร้ายที่สุดในโลกเข้า
แกรี่ ดันเคนเอ่ยปากอย่างใจเย็นว่า “ฮาร์วีย์ ไม่ ไม่ ฉันควรเรียกนายว่าคุณยอร์กแทนสินะ นายอาศัยอยู่ในวิลล่าหมายเลข 1 จริงเหรอ?
“แน่ใจนะว่าไม่ได้อาศัยอยู่ในป้อมยาม?”
แกรี่จำได้ลาง ๆ ว่าเฮเซลบอกว่าฮาร์วีย์เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคิดว่าเขาเหมาะที่จะอยู่ในห้องพักของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้น
เคลลี่ดึงสติกลับมาได้ แต่สีหน้าของเขาดูแย่มาก เขารู้สึกผิดหวังมากเพราะไม่อาจพูดให้ฮาร์วีย์เข้าใจความรู้สึกของเขาได้
“ลุงบอกหลานกี่ครั้งแล้ว ฮาร์วีย์” เคลลี่พูดด้วยเสียงทุ้ม
“หลานต้องอยู่กับความเป็นจริง!
“เรื่องบางเรื่องจะพูดออกไปมั่ว ๆ ไม่ได้!
“ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกคนที่นี่ล้วนรู้จักกันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น หลานคงได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่อีกแน่!”
ฮาร์วีย์รู้สึกหมดคำจะพูด
“ผมบอกคุณลุงแล้ว คุณลุงมาโลน ผมอาศัยอยู่ในวิลล่าหมายเลข 1 จริง ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วมาขออาศัยอยู่บ้านเราทำไม? วิลล่าหมายเลข 1 มีระดับมากกว่าวิลล่าหมายเลข 11 อย่างน้อยสิบเท่าเลยนะ” จูนพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ถ้าอยากจะอวดตัวเอง อย่างน้อยก็พยายามทำให้มันดูเป็นไปได้หน่อย!”
ฮาร์วีย์ถอนหายใจ
“เมื่อเร็ว ๆ นี้เวลาได้รับการปรับปรุง และในนั้นก็รกมากทีเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ผมขออยู่ที่นี่ด้วย
“แต่ถ้าพวกคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ที่วิลล่าของผมยังมีที่ว่างอยู่อีกมาก”
“อ๋อเหรอ! กำลังปรับปรุงอยู่งั้นสินะ? รกขนาดนั้นเลยหรอ?”
จูนไม่เปิดโอกาสให้เคลลี่ได้พูดอะไรสักคำ
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ขอเราไปเดินดูรอบ ๆ วิลล่าของของนายหน่อยจะเป็นไร?” จูนพูดอย่างเย็นชา
“เคลลี่และกับฉันก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของนาย เนื่องจากนายได้บ้านหลังใหม่และกำลังปรับปรุงอยู่ด้วย ให้เราได้ตรวจสอบและเสนอแนะอะไรนายสักหน่อยเถอะ นายคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
“จริงด้วย! เราไปดูกันเถอะ! เราไม่เคยมีประสบการณ์ในการปรับปรุงวิลล่ามูลค่าสองร้อยสามสิบเจ็ดล้านดอลลาร์เลยนี่นา!”
มิวะและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ กระแนะกระแหนราวกับว่าต้องการราดน้ำมันลงกองไฟ
ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะอยากให้ฮาร์วีย์ผู้โง่เขลาต้องอับอาย
“อยากไปดูงั้นเหรอ?”
ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ
“ที่นั่นรกไปหมด คงไม่คิดว่าตอนนี้เราจำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น
“ไว้ปรับปรุงที่นั่นเสร็จแล้วผมจะเป็นฝ่ายเชิญทุกคนเอง”
“จำเป็นสิ! จะไม่จำเป็นได้ยังไง?”
มิวะแสดงท่าทางขี้เล่นออกมาบนใบหน้า
“คืนนี้เราไปเยี่ยมชมและสัมผัสกับมันกันเถอะ! ฉันจะได้ถ่ายทอดสดในช่องทางของตัวเองด้วย!”
“ตอนนี้เรามีเพื่อนๆอยู่ตั้งหลายคนเลยนะฮาร์วีย์ อีกอย่างนายก็ถือได้ว่าเป็นหลานชายคนโตของฉันด้วย นายคงมีชื่อเสียงพอสมควรถึงได้มีโอกาสอาศัยอยู่ในวิลล่าหลังที่ 1 เพราะงั้นทำไมนายถึงไม่ให้เราไปเยี่ยมชมล่ะ
“ไม่ต้องห่วง เแม้ว่าวิลล่าจะยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงแต่เราก็ไม่กลัวว่าจะต้องตัวเปื้อนฝุ่นหรอกนะ!”
เคลลี่ยืนนิ่งอย่างงุ่มง่ามในขณะที่ใบหน้าของเขามืดมนราวกับกลางคืน
ในทางกลับกัน เฮเซลกลับมองฮาร์วีย์ด้วยความผิดหวัง
เธอยังรู้สึกแย่กับฮาร์วีย์ไม่หาย แต่หลังจากเห็นฮาร์วีย์รนหาที่ตายเพราะความเย่อหยิ่งของเขา เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไร
อีวอนน์ ซาเวียร์ยิ้มโดยไม่พูดอะไร เธอไม่คิดที่จะช่วยให้ฮาร์วีย์ให้พ้นจากสถานการณ์นี้ เธอรู้ดีว่าต่อให้เธอเข้าไปแทรกแซงก็คงช่วยอะไรไม่ได้
ในที่สุด เคลลี่ก็เอ่ยปากออกมาด้วยหัวใจที่แตกสลาย “ฮาร์วีย์ ลุงหวังเสมอว่าหลานจะทำตัวให้ดี ๆ เพราะเห็นแก่พ่อแม่ของหลาน!
“แต่ดูหลานสิ! ยังไม่รู้จักโตสักที!
“อย่างน้อยก็คิดดูสักหน่อยสิว่าวิลล่าหลังที่ 1 เป็นของใคร?
“ชาวมอร์ดูทุกคนรู้ว่าวิลล่าหลังนั้นเป็นของนายท่านลินช์!
“หยุดคุยโวโอ้อวดสักทีไม่ได้หรือไง? หลานจะทำให้ตัวเองอับอายขายขี้หน้าไปถึงเมื่อไหร่?”