Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 108

ตอนที่ 108

เจ้าเฮดจ์ฮอกที่บาดเจ็บหนักที่ถูกช่วยเหลือและนำออกจากกรง ส่วนค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินครั้งนี้มันไม่กลับไปนอน มันสำรวจโดยรอบด้วยความตื่นตัว

หูกระดิกไปมา บางทีมันก็เผลอหาว ทำให้เห็นเขี้ยวที่แหลมคมของมัน

 

การโจมตีก่อนหน้านี้เป็นโจมตีด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำเฮดจ์ฮอก เกาเผิงก็ลอบสังเกตเห็นว่ามันมีเลือดไหลออกจากหูและตาของมัน ดูเหมือนขนที่แหลมคมของมันก็ค่อยๆเปราะและแตกในที่สุด

ขนที่แหลมคมของมันก็ร่วงออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้เห็นเนื้อสีชมพูของมัน

เจ้าเฮดจ์ฮอกได้หันหน้าหนีฝูงชนทันที ในสภาพที่โป๊เปลือยแบบนี้มันไม่กล้าที่จะสู้หน้าใคร

……..

 

เกาเผิงจ้องค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินที่อยู่ในกรง ดูเหมือนโจมตีด้วยคลื่นเสียงจะรุนแรงกว่าที่คิด คลื่นเสียงนี้สามารถทำให้ขนที่แหลมคมของเฮดจ์ฮอกเลเวล 15 ที่ค่อนข้างแข็งแรงกลับทำให้มันปริแตกได้

แต่เกาเผิงคิดว่าการป้องกันของสตีปี้ย่อมแข็งแกร่งกว่าอยู่แล้ว คลื่นเสียงแค่นี้ทำอะไรมันไม่ได้หรอก

หลังจากเกาเผิงปลอบให้สตีปี้สงบลงได้แล้วเข้าก็กลับสู่โหมดผู้ชมต่อไป เขาสังเกตเห็นว่าผู้ฝึกสอนจางแอบมองมาที่เขา

 

‘คงจะอยากให้ฉันนำสัตว์อสูรไปสู้สินะ’

 

เกาเผิงทำเป็นไม่สนใจ ครั้งนี้เกาเผิงไม่มีทางลงไปสู้แน่นอนเพราะสตีปี้มันซื่อบื้อและเจ้าค้างคาวนี่ก็เก่งเกินไป เรื่องอะไรที่เขาจะเข้าไปเสี่ยงล่ะ

ตอนนี้มีสัตว์อสูรถูกกำราบถึงสองตัวแล้ว นักเรียนที่อยู่ที่นี่เริ่มเกรงกลัวต่อความแข็งแกร่งของมัน

 

เมื่อผู้ฝึกสอนจางถามว่ามีใครจะอาสาอีกมั้ย ทุกคนก็นิ่งเงียบทันทีพวกเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ท่าทีของนักเรียนทำให้ผู้ฝึกสอนจางโกรธมาก ‘แค่สัตว์อสูรตัวเดียวก็ขี้ขลาดตาขาวกันแล้วรึไง’ เขาคิด

“คุณ คุณและก็คุณนะ ช่วงที่ฝึกซ้อมพวกคุณก็ฟอร์มดีนี่ ทำไมถึงไม่กล้าไปสู้กับเจ้าค้างคางนี่ล่ะ”

 

จู่ๆก็มีนักเรียนคนรีบพูดพูดบางอย่างออกมา “โอ๊ย” เขาเอามือวางและล้มลงไปที่พื้น “ผมปวดท้องไม่ค่อยสบายน่ะครับ”

 

เมื่อหมีเท็ดดี้สามหางที่เห็นเจ้านายจู่ๆก็ล้มลงไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันคิดว่าเจ้านายอยากจะเล่นกับมัน ทำให้ตาของมันเปล่งประกายและหางกระดิกไปมา

 

“อ้อ ฉันลืมไปพวกนายจบเอกการละครนี่น่า” ผู้ฝึกสอนจางกล่าว เมื่อการกระตุ้นไม่ได้ผล เขาก็จำเป็นต้องใชการบังคับ

“ค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินตัวนี้จะถูกนำมาฝึกที่นี่ทุกวัน จนกว่าจะมีใครสามารถกำราบมันได้ มันถึงจะถูกนำเอาออกไป!!”

 

 

ขณะที่ผู้ฝึกสอนจางพูดโดยชำเลืองไปที่เกาเผิงไม่รู้ตัวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สายตาของทั้งคู่ก็ได้สบกัยพอดี ทำให้เกาเผิงรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

 

‘นี่เขาอยากให้ฉันลงไปสู้มากขนาดนั้นเลยหรอ’ เกาเผิงคิด

 

หลังจากการฝึกช่วงบ่ายเสร็จสิ้นแต่เกาเผิงก็ไม่รีบกลับบ้านทันที เขากับสตีปี้เดินทางไปยังสมาคมนักล่าสัตว์อสูรแทน

เกาเผิงไปเอาวัตถุดิบที่ใช้ยกระดับสตีปี้ที่เขาสั่งไว้กับสมาคมนักล่าสัตว์อสูรเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ช่วงนั้นเขายุ่งมากจึงยังไม่ได้ไปเอาซะที

หลังจากตรวจสอบเสร็จเขาก็จ่ายเงินและเอาของมาและเดินทางไปยังสำนักงานของเขา

 

เนื่องจากขนาดของสตีปี้ใหญ่เท่ารถเก๋งจึงไม่สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ เขาจึงต้องขี่สตีปี้เดินทางไปสำนักงาน

ความเร็วของมันก็โอเคไม่ช้าจนเกินไป แต่ข้อเสียก็คือขนของมันแหลมมากคอยจะทิ่มก้นของเกาเผิงตลอดเวลา

 

‘ครั้งหน้าฉันต้องเอาเบาะมารองนั่งแล้ว’

 

เมื่อถึงสำนักงานเกาเผิงก็นำสตีปี้ไปขึ้นลิฟต์สำหรับสัตว์อสูรขนาดใหญ่ ก่อนไปมันได้คอเคลียด้วยความรัก

จากนั้นเกาเผิงก็ไปเตรียมส่วนผสมที่ห้องแล็บของเขา

เขาใช้เวลาเตรียมการทั้งสิ้น 3ชั่วโมงและตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว

เกาเผิงได้ใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้เอาลงในหม้อและต้มให้เดือด

เขาผลักประตูออกจากห้องแล็บ เขาไม่เห็นสตีปี้ไม่อยู่ในบริเวณนี้

 

‘มันไปอยู่ที่ไหนกัน’

 

และเกาเผิงก็พบมันขดตัวนอนหลับอยู่ในมุมของห้องรับแขก

ดวงตาสีแดงของมันได้หรี่ลงเล็กน้อย ในยามค่ำคืนแบบนี้ มันดูอ่อนแอและไร้ประโยชน์มาก

เกาเผิงเคาะกระจกห้องรับแขกเรียกมัน

สตีปี้สะดุ้งตื่นทันที มันรีบเช็ดน้ำลายและรีบวิ่งไปหาเกาเผิงทันที

 

“ไปกันเถอะ ฉันจะทำให้นายแข็งแกร่งขึ้น” เกาเผงพูดพลางหัวเราะพร้อมกับลูบศีรษะของสตีปี้

 

กระบอกทดลองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของเหลวสีดำที่ดูคล้ายกับน้ำหมึก

ขั้นแรกให้ขาหน้าทั้งสองที่เหมือนกับโล่จมลงไปในน้ำก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆย่อนทั้งตัวลงไป ที่ทำอย่างนี้เพราะขาหน้าของมันเป็นส่วนที่แข็งที่สุด

สตีปี้ลงเข้าในกระบอกทดลองขนาดใหญ่ทั้งตัวแล้วมันได้ชูขาหน้าของมันขึ้นอย่างกับท่าไชโยเลย

เนื่องด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ของมัน จึงทำให้น้ำกระฉอกไปมา มันพยายามทำให้ร่างกายของมันอยู่ในของเหลวสีดำให้ได้มากที่สุด

เกาเผิงสังเกตการณ์ขั้นต่อไปของสตีปีอยู่ห่างๆ

จู่ๆก็มีควันสีดำขนาดใหญ่ลอยอยู่ด้านบนของกระบอกทดลอง ก่อนที่ควันสีดำนั่นจะถูกดึงเข้าไปข้างในกระบอกทดลองขนาดใหญ่ราวกับสตีปี้ได้สูดควันนั่นไป

หลังจากผ่านไป 1ชั่วโมง เกาเผิงพบว่าการวิวัฒนาการนั้นเป็นอย่างราบรื่น เขาต้องใจว่าจะออกไปพักสักหน่อย เขาทำงานต่อเนื่องมา 4ชั่วโมงแล้ว ทำให้เขาดูเหนื่อยล้ามากตอนนี้

……..

 

“แน่ใจนะว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่” มีชายสองคนยืนข้างนอกสำนักงานด้วยท่าทีที่น่าสงสัย พวกเขาใส่หน้ากากสกีปิดบังใบหน้าเผยให้เห็นแค่ดวงตาเท่านั้น ข้างหลังของพวกเขามีสัตว์อสูรอยู่ 2ตัว

 

“สบายใจได้ที่นี่ไม่มีคนอยู่แน่นอน ฉันตรวจสอบมาแล้ว ช่วงเวลานี้คนในสำนักงานกลับบ้านไปหมดแล้ว”

 

“แต่เราจะมาขโมยอะไรในสำนักงานล่ะถ้าจะเอาตังค์ เราไปปล้นธนาคารดีกว่ามั้ง”

 

“ตอนนี้คนส่วนใหญ่ใช้เงินสกุลเครดิตพันธมิตรกันหมดแล้ว มันเป็นเงินในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปล้นธนาคารไปก็ไม่ได้เงินมากมายเท่าไหร่หรอก” คนที่อยู่ทางซ้ายดุด้วยเสียงต่ำ “เพราะงั้นเราเลยต้องมาที่นี่ไงล่ะ ในสำนักงานเพาะพันธุ์สัตว์แบบนี้มักจะมีพวกอุปกรณ์ทดลองใช่มั้ยล่ะ หากนำมันไปขายต้องได้เงินมาใช้เป็นล้านๆแน่นอน”

 

ชายที่อยู่ด้านซ้ายได้เรียกสัตว์อสูรของเขาให้เข้ามา สัตว์อสูรตัวนี้รูปร่างคล้ายดินน้ำมัน มันดูยวบหยาบคล้ายกับวุ้นเลย จากนั้นชายคนนั้นก็ควัก ‘เนื้อ’ ของสัตว์อสูรตัวนั้นออกมา สองก้อน ทำให้มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา

เขาได้รีด ‘ดินน้ำมัน’ ให้เป็นแผ่งกว้างๆให้เพียงพอต่อขนาดของมือเขา

จากนั้นเขาก็หยิบกล่องเล็กๆออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาเปิดกล่องออกมามีไอเย็นๆออกมาจากกล่อง เขาวางสัตว์อสูรอย่างระมัดระวังตรงที่กระจกกันกระสุน

สัตว์อสูรตัวนี้คือยุงขนาดเท่าฝ่ามือมันมีปากที่แหลมยางถึง 10เซนติเมตร มันถูกแช่แข็งเอาไว้ เขาได้แปะยุงแช่แข็งไปที่กระจกกันกระสุน

จากนั้นเขาก็เอากล่องที่หยิบมาครอบตัวยุงไว้ ต่อไปก็กดสวิตซ์เพื่อกระตุ้นให้ยุงที่ถูกแช่แข็งได้ตื่นขึ้นมา

 

*เปรี๊ยะ*

 

ยุงตัวนี้หากถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา มันทำการเจาะกระจกกันกระสุนทันที

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท