Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์ – ตอนที่ 111

ตอนที่ 111

ในความฝัน

เขาเจอชายที่ถือค้อนกับชายที่ถือมีด พวกเขาเดินเข้ามาหมายที่จะเอาชีวิตเขา

ไม่ว่าเกาเผิงจะวิ่งหนีไปไกลแค่ไหน พวกเขาก็ตามเกาเผิงทันอยู่ดี จนในที่สุดเกาเผิงก็วิ่งไปต่อไม่ไหวแล้ว

เกาเผิงเหงื่อแตกพลั่ก ตอนนี้เขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

พวกเขาเดินเข้ามาอย่างช้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูน่ากลัวสยดสยองเป็นอย่างมาก เขายกค้อนขึ้นมาหมายที่จะฟาดไปที่หัวของเกาเผิง

ขณะที่เกาเผิงกำลังจะโดนฟาด จู่ๆก็มีสัตว์อสูรโผล่ออกมา

มันเป็นแมงมุมที่สูงเสียดฟ้าโผล่ออกมา มันใช้ขาบดขยี้ชายทั้งสองคน

เกาเผิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที เหงื่อเต็มใบหน้า ‘นี่ฉันกลัวคนที่ฉันพรากชีวิตไปอย่างงั้นเหรอ’

ก่อนหน้านี้เขาก็ฆ่าพวกสัตว์อสูรไปเยอะมาก แต่ทำไมเขาถึงได้หวาดกลัวจนถึงขนาดกับนอนฝันร้ายแบบนี้ ที่เขาฆ่าเขาก็เพราะพวกเขาเริ่มก่อน เขาไม่ได้ผิดอะไร หากสตีปี้ไม่อยู่ใกล้ๆ ทักษะเคลื่อนดาราก็คงไม่ทำงาน เขาอาจนอนจมกองเลือดไปแล้วก็ได้

“ก็แค่ฝันร้ายเท่านั้น” เกาเผิงทำจิตใจให้สงบจากก็กลับไปนอนต่อ

………

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป หลังจากเหตุการณ์นั้น ได้มีการจัดการสอบสอบเอนทรานซ์ระดับชาติขึ้น การสอบนี้จัดขึ้นเพื่อคัดเรียนเข้ามหาวิทยาลัยในภาควิชาปกติ

การสอบนี้เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเกาเผิง เขาไม่กังวลเรื่องการสอบเลย เพราะมันท่องจำซะส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ที่4ของระดับชั้น ห่างจากที่1เพียง 15คะแนนเท่านั้นเอง แต่เพราะคะแนนวิชาพละที่ต่ำของเขาทำให้ดึงคะแนนของเขาให้ต่ำลงมาที่ 4

แต่ตอนนี้เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากสัตว์อสูรของแข็งแกร่งขึ้นตัวเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย ถึงแม้จะไม่อาจเทียบเท่าซูเปอร์แมนแต่เขารู้สึกว่าเขาสามารถวิ่งเป็นกิโลได้โดยไม่หอบเลย นี่พิสูจน์แล้วว่าหากสัตว์อสูรเก่งขึ้นเจ้าของก็จะเก่งตาม

แต่ความแข็งแกร่งก็ไม่อาจเอาไปสู้กับสัตว์อสูรจริงๆได้ ดูเมื่อว่าพลังจะมีประโยชน์เวลาวิ่งหนีสัตว์อสูรซะมากกว่า

…….

ผ่านไป 2วัน การสอบเอนทรานซ์ระดับชาติ เพื่อคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยในภาควิชาปกติก็สิ้นสุดลง หลังจากนี้ก็ปิดเทอมใหญ่แล้ว ทำให้นักเรียนหลายคนมีความสุขมากที่จะได้พักผ่อนซะที

การได้ปิดเทมอหลังจากที่ผ่านการสอบมาอย่างยากลำบากนั้น ช่างเป็นความรู้สึกที่บอกไม่บอกจริงๆ

เกาเผิงปล่อยวางเรื่องสอบครั้งที่ผ่านมาไปแล้ว เขาไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องนี้มากนัก เพราะกว่าผลสอบจะออกก็ตั้ง 2สัปดาห์ มากังวลเรื่องผลตอนนี้ไปก็ไร้ประโยชน์

หลังจากสอบเสร็จ เขาก็แทบจะไม่มีอะไรทำ เขารู้สึกเบื่อมาก จึงฝึกสัตว์อสูรแก้เบื่อ เขารู้สึกว่ามันสนุกมากกว่าเมื่อก่อนมาก

หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆมา เขาพบว่าหลังจากนี้เขาต้องเจอเรื่องอันตราย สัตว์อสูรของเขาจะคอยช่วยเหลือและพาเขาออกจากวิกฤติได้ การที่ได้คอยดูแลและเฝ้าดูเติบโตของมัน ทำให้เขามีความสุขมาก

แม้จะสอบเสร็จแต่พวกนักเรียนเตรียมทหารก็ยังคงฝึกซ้อมต่อไป เพื่อการสอบเอนทรานซ์ของพวกเขาในอีกครึ่งเดือนหน้า

การฝึกในกรงวันนี้ก็ยังเป็นค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินเหมือนเดิม ตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่ไหนเลย ทำให้มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำลานฝึกซ้อมไปแล้ว ไม่มีใครสามารถกำราบมันลงได้ซะที

ค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินห้อยหํวลงมามองออกไปด้านกรงด้วยความเบื่อหน่าย

ในตอนแรกมันยังตื่นสถานที่และมนุษย์อยู่ แต่หลังจากได้ข้าวได้น้ำทุกวันทำให้เลิกกลัวไปอย่างหมดสิ้น แต่ละวันมันได้ฝึกฝนพวกสัตว์อสูรอย่างมีความสุข

“ผู้ฝึกสอนครับวันนี้ผมจะท้าทายเจ้าค้างคาวนั่น” เฉินฮั่วเฉียวพูดกับผู้ฝึกสอน

ที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาคือหมีประกายสายฟ้า

เกาเผิงลอบสังเกตไปที่หมีประกายสายฟ้า เขาพบว่าหมีตัวนี้เลเวลเพิ่มขึ้น 1เลเวล ขนแวววาว ร่างกายแข็งแรงขึ้น

พวกเขาได้ท้าทายค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินนั่นแทบทุก 2วัน จนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว

เมื่อค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินได้เห็นหมีประกายสายฟ้าที่โง่เง่า มันเตรียมตัวที่จะเล่นสนุกกับมันอีกในวันนี้

หมีประกายแสงเดินเข้าไปอย่างมั่นใจ ก่อนหน้านี้ไม่ว่ามันจะยั่วยุสักแค่ไหนมันก็ไม่ลงมาสักที ดังนั้นมันจึงพับหูและก้มตัวลงไปนอนที่พื้นในกรง

ค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินมองลงครู่หนึ่งก่อนจะเปิดปาดโจมตีด้วยคลื่นเสียง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรหมีประกายสายฟ้าที่นอนอยู่ข้างล่างได้ เมื่อได้เห็นแบบนี้มันก็รู้สึกเบื่อ มันจึงหลับตาและนอนหลับเช่นกัน

กลุ่มนักเรียนที่มานั่งดูนอกกรง ต่างก็สงสัย ทำไมสัตว์อสูรสองตัวถึงต่างฝ่ายต่างแข่งกันหลับแบบนี้

ยิ่งดูก็ยิ่งน่าเวทนา จนหัวผู้ฝึกสอนมนไม่ไหว เขาต้องการให้พวกมันมาสู้กันไม่ใช่ให้มานอน เขาสั่งให้เฉินฮั่วเฉียวให้เรียกหมีประกายแสงออกมาซะ

“มีแค่เฉียวฮั่วเฉียวเท่านั้นที่พยายามอย่างหนักในทุกๆวิถีทางที่จะกำราบเจ้าค้างคาวนั่น แม้จะไม่สบความสำเร็จแต่เขาก็ได้เรียนรู้ไม่มากก็น้อย” เขาพูดพลางเย้ยหยันนักเรียนที่เหลือ

หลังจากหยุดคิดไปสักครู่ จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงเบา “เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับพวกคุณ หากใครเอาชนะเจ้าค้างคาวนี่ได้ ทางเราจะยกมันให้กับพวกคุณ”

ค้างคาวกะโหลกปีกสีน้ำเงินเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ท็อปเทียร์ของสัตว์อสูรชนชั้นขุนนาง อีกทั้งมันยังสามารถบินได้อีก ราคาของมันไม่ต่ำกว่า 200-300 เครดิตพันมิตรอย่างแน่นอน

สัตว์อสูรที่นำมาฝึกนี้ไม่ว่ามันจะอยู่หรือตาย หลังจากฝึกเสร็จต้องส่งมันก่อนไปที่กองทัพ มันเป็นถือเป็นทรัพย์สินของทางกองทัพ

แต่เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนของเขามีกำลังใจในการสู้ เขาถึงกับต้องยอมควักเนื้อจ่ายเลย

เกาเผิงก็สนใจในข้อเสนอนี้เหมือนกัน แต่เขาไม่สามารถตอบรับได้ก็เพราะว่าการสอบเอนทรานซ์ของพวกนักเรียนเตรียมทหารใกล้จะเข้ามาแล้ว อีกแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น

หากเขานำดัมมี่มาที่นี่ในวันพรุ่งนี้ ทุกคนก็จะรู้เรื่องดัมมี่กันหมด ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากเปิดเผยตัวตนของดัมมี่ในตอนนี้ เขาต้องการทำตัวเองให้มีโปรไฟล์ต่ำเข้าไว้ คนอื่นๆจะได้ไม่มาสนใจเขามากนัก

‘แต่ข้อเสนอนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ’

ดูเหมือนแผนการที่ต้องทำตัวให้โปรไฟล์ต่ำของเกาเผิงคงจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว

…….

เมื่อวันที่ 10มิถุนายน ได้มีข่ายกระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ข้อความดังกล่าวสร้างความโกลาหลไปทั่ว

สหพันธ์รัฐบาลโลก ได้ผนวกองค์การผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรกับผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรชั้นนำทั้ง 12แห่งจากทั่วโลกเข้าด้วยกัน เพื่อก่อตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า

สหพันธ์ผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Monster Pet Evolution – วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงกลายพันธุ์

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เมื่อ3ปีก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่าสรรพสัตว์และต้นไม้นานาพันธุ์ เกิดการกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไม่รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นบุกเข้ามายังโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้พวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายแต่มนุษย์ยังสามารถมาเลี้ยงดู ฝึกสอน

และนำมาต่อกรกับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอกได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท