ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 38
เซซิเลียและแองเจิล เพื่อนสนิททั้งสองของแมนดี้ต่างรู้สึกหวาดกลัวจนขาสั่น พวกเขาเห็นเงินแปดแสนอยู่ตรงหน้า ผลที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไม่สามารถจินตนาการได้เลย
“ลูกสาวที่แสนดีของผม ตอนนี้คุณสามารถเรียกผมว่าพ่อของคุณได้หรือยัง” ฮาร์วี่ย์พูดขึ้นมาขณะปรบมือตัวเองไปด้วยและยังเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา
ในขณะนั้นเป็นเซซิเลียเองที่ต้องหายใจเข้าลึก ๆ เธอเพิ่งได้สติกลับคืนมาจากสิ่งที่สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่เมื่อกี้นี้ จากนั้นเธอก็คาดเดาเรื่องราวของฮาร์วี่ย์และเธอก็พูดอย่างดูถูกว่า “ฮาร์วี่ย์ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องนี้ แมนดี้เป็นคนให้เงินค่าขนมคุณมาตลอดในช่วงสามปีมานี้ คุณเป็นผู้ชายที่ไร้ประโยชน์มาโดยตลอด เป็นไปได้อย่างไรที่คุณจะมีเงินแปดแสนดอลลาร์? ฉันกลัวว่าคุณจะได้มันมาด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมและถูกกฎหมาย”
เมื่อได้ยินแบบนั้นแมนดี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน เธอจับมือของฮาร์วี่ย์โดยไม่รู้ตัวแล้วลากเขาเข้าไปในห้องนอน
ฮาร์วี่ย์ยังคงอยู่ในอาการงงงวย นี่เป็นครั้งแรกที่แมนดี้เป็นคนเริ่มจับมือของเขาก่อนหลังจากแต่งงานมาหลายปี
แมนดี้รีบปิดประตูให้สนิททันที เธอพูดเบา ๆ “ฮาร์วี่ย์บอกความจริงกับฉันมา คุณได้เงินพวกนั้นมาจากไหน? อย่าบอกนะว่าคุณไปขโมยมันมา?”
“คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกนะ แม้ว่าผมจะต้องการมันมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่กล้าทำเรื่องแบบนั้นหรอก ผมยืมมาจากเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของผมเอง” ฮาร์วี่ย์ถอนหายใจเบา ๆ และพูดมันออกมา
เมื่อคืนก่อนเขาบอกไปแล้วว่าเป็นซีอีโอของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา ดังนั้นตอนนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนั้นอีก
นอกจากนี้ฮาร์วี่ย์ก็ได้คิดอย่างรอบคอบแล้ว ถ้าแมนดี้รู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขามันอาจจะไม่ใช่เรื่องดี ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธออาจะซับซ้อนกว่านี้แน่นอน
ฮาร์วี่ย์ไม่ต้องการให้แมนดี้ยอมรับเขาเพราะตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาหวังว่าแมนดี้จะยอมรับผู้ชายธรรมดา ๆ ที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ได้สักวัน
“เพื่อนร่วมชั้นงั้นเหรอ? เพื่อนร่วมชั้นแบบไหนกัน?” แมนดี้ขมวดคิ้ว “เราแต่งงานกันมาก็นานแล้ว ฉันไม่เคยเห็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณโทรหาคุณเลยสักครั้ง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องอะไร ครั้งหนึ่งคุณเคยอยากยืมเงินเพื่อนเพื่อไปหาหมอ คุณโทรไปหลายครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจคุณเลยสักคน”
ฮาร์วี่ย์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันใด มันคือเรื่องจริง ช่วงเวลาที่เขาถูกตัดออกจากสถานะทายาทของตระกูลยอร์กเขาก็ได้เข้าใจความโหดร้ายของสังคม คนที่เรียกว่าเพื่อนปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนนำโรคร้ายมาสู่พวกเขา หลังจากที่พวกเขาได้รับโทรศัพท์สายจากเขาก็ไม่มีใครที่จะเต็มใจสนทนากับเขา บางคนถึงกับบล็อกการติดต่อในทุกช่องทางออนไลน์ของเขา
ฮาร์วี่ย์กัดฟันฝืนทนกับความเจ็บปวดนั่น เขาเดินไปได้สองสามก้าว เมื่อเขาเดินไปเกือบจะถึงประตูห้องนอนเขาก็หันกลับมาและพูดว่า “เป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและเขาก็งานด้านการลงทุน เมื่อก่อนเขาเป็นหนี้ผม ตอนนี้เขาเลยให้ผมยืมเงินเพื่อตอบแทนผมในตอนนั้น คุณเพียงแค่รับเงินไปและใช้มันก็พอแล้ว!”
“เขาเป็นหนี้คุณแบบไหนกัน?” แมนดี้เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ฮาร์วี่ย์เยาะเย้ยให้กับตัวเอง “คุณไม่รู้เหรอว่าผมมีความสามารถอะไรบ้าง? ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย ผมคอยดูแลทายาทที่ร่ำรวยซึ่งพวกเขาอยู่ในหอพักเดียวกับผม ผมคอยเสิร์ฟอาหารให้พวกเขาและยังช่วยพวกเขาซักเสื้อผ้าและทำอาหารให้พวกเขาด้วย แน่นอนว่านี่เป็นงานหนักแม้ว่าผมจะไม่ได้รับการพูดถึงใด ๆ สำหรับสิ่งนั้นเลยก็ตาม”
เมื่อฮาร์วี่ย์พูดออกมาแบบนั้นแมนดี้ก็เชื่อเขา เป็นเพราะฮาร์วี่ย์ทำงานบ้านได้ค่อนข้างดีจริง ๆ ถ้าเขาทำหน้าที่คอยดูแลพวกทายาทที่ร่ำรวยได้ดีจริง ๆ มันก็สมเหตุสมผลที่พวกทายาทนั่นจะให้เขายืมเงิน
แต่พอได้ยินแบบนั้นจากฮาร์วี่ย์ แมนดี้ก็รู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอก็พูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ เมื่อบริษัทของฉันกลับมายืนไได้อีกครั้ง ฉันจะคืนเงินให้คุณโดยเร็วที่สุด”
“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ฮาร์วีย์ไม่ได้ปฏิเสธเธอ ถ้าเขาบอกว่าเธอไม่ต้องคืนเงินให้เขาแมนดี้จะสงสัยและเขาก็คงไม่สามารถอธิบายเรื่องนั้นให้เธอฟังได้
เมื่อเขามาถึงห้องนั่งเล่น ทั้งแองเจิลและเซซิเลียกลับไปแล้ว พวกเขาคงจะรู้ว่ามันคงยากหากจะต้องเรียกเขาว่าพ่อ
ซีนเธียร์กำลังเล่นกับเงินกองนั่นและเธอโยนมันไปตรงนั้นทีและตรงนี้ทีอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนว่าเธอกำลังเล่นกับของเล่น ตอนนี้ลิเลียนสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เธอนั่งลงบนโซฟาและดื่มชาด้วยความท่าทีสงบนิ่ง
เมื่อสังเกตเห็นฮาร์วี่ย์กลับมาที่ห้องนั่งเล่นลิเลียนก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า “อย่าคิดว่านายจะสามารถทำให้คนในครอบครัวของเราเชื่อฟังนายได้เพียงเพราะนายแค่โชคดีที่สามารถยืมเงินแปดแสนดอลลาร์มาได้ล่ะ นายก็แค่ไอ้นอกคอกที่โชคดีแค่นั้น! ฉันบอกอะไรให้นะ! มันไม่มีความหมายอะไรเลย! ถ้าไม่ใช่เพราะคนไร้ประโยชน์อย่างนาย วันนี้แมนดี้ก็คงจะไม่ถูกรังแกที่บริษัทหรอก!”
ฮาร์วี่ย์เกิดอาการมึนงงในทันที ‘ฉันสั่งให้พวกเขาเซ็นสัญญากับภรรยาของฉัน จะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอถูกรังแก?’
แมนดี้เดินออกมจากห้องนอน เธอพูดด้วยน้ำเสียงเบาอ่อนใจว่า “แม่คะ ช่างมันเถอะค่ะ ไม่ใช่ความผิดของฮาร์วี่ย์หรอกค่ะ คุณปู่ไม่ยุติธรรมเอง”
ลิเลียนก็พูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า “จะไม่ให้แม่โทษมันได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าลูกเป็นคนที่นำสัญญาห้าสิบล้านดอลลาร์กลับมาในวันนี้ แล้วผลที่ได้ล่ะ? เมื่อมันอยู่ในมือของคุณปู่ก็กลับกลายเป็นว่าเป็นผลงานของไอ้สารเลวแซ็คนั่น! มันอ้างว่าตัวมันเองที่ต้องอดทนต่อความอัปยศอดสูและผ่านความยากลำบากมาได้!”
“ลูกทนได้ แต่แม่ทำไม่ได้!”
“ฮาร์วี่ย์ ฉันบอกอะไรให้นะ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกเขยที่ไร้ประโยชน์อย่างนาย ผู้อาวุโสซิมเมอร์และครอบครัวของแซ็คจะกล้ากลั่นแกล้งแมนดี้ได้อย่างนี้เหรอ?”
“ฉันขอเตือนนายนะ ถ้านายไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป ไปหย่าให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ซะ ไมมีนายสักคน ธุรกิจของแมนดี้อาจพัฒนาไปในทางที่ราบรื่นและดีขึ้นก็ได้ บางทีเธออาจจะพบเจอสามีที่ดีกว่านี้ก็ได้”
ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วไม่พอใจและพูดว่า “คุณแม่ครับ ก่อนหน้านี้คุณแม่เคยคิดยัดเยียดมิสเตอร์แซนเดอร์ให้กับแมนดี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอะไรดีเช่นกัน”
“แล้วลูกเขยอย่างนายมีธุรกิจอะไรบ้างล่ะ? หากนายมีความสามารถจริง ๆ ละก็ ไปหาผู้อาวุโสซิมเมอร์ซะเพื่อเปลี่ยนใจท่าน ถ้านายทำมันได้ดีละก็ ฉันจะให้นายอยู่ในบ้านของเราต่อไป!” ลิเลียนหัวเราะเยาะ
ฮาร์วี่ย์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งว่า ‘ฉันกำลังคิดว่าแซ็คจะไม่มีทางได้สัญญานั่น’