เมื่อจางซิงชิงเห็นเกาเผิงกับดัมมี่เดินเข้าไปในโรงแรม เขาก็รีบกดเบอร์โทรศัพท์ทันที
“เขาว่ายังไงบ้าง” ปลายสายถามขึ้นด้วยเสียงที่ดูเคร่งเครียด
“เขาปฏิเสธข้อเสนอครับ” จางซิงชิงตอบอย่างสิ้นหวัง เขาได้ใช้ทุกวิถีทางที่จะเกลี้ยกล่อมเด็กคนนี้แล้วแต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผล
อีกฝ่ายเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา “อืม ฉันเข้าใจแล้ว”
จางซิงชิงกดวางสายและก็ยักไหล่ ไม่รับรู้กับสิ่งที่จะเกิดกับเด็กคนนั้น
เขามีหน้าที่แก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาเท่านั้นแต่ดูเหมือนว่าลูกค้าของเขาจะไม่ใช่
แต่จะเกิดอะไรขึ้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว ต่างคนต่างต้องไปตามทางของตัวเอง ไม่ว่าทางจะดีหรือร้ายก็ตาม
เขายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายแค่ไหน
จางซิงชิงส่ายหัว เขาเก็บของและเดินออกจากคาเฟ่
ทันทีที่เขาก้าวพ้นธรณีประตูไป ประตูก็ปิดไล่หลังเขาดัง
*ปัง*
เสียงดังจนจางซิงชิงต้องหันมามอง เขาเห็นว่าไฟในร้านปิดสนิททันที
เขาหันมาดูรอบๆก็ไม่ให้มีคนเดินผ่านบริเวณนี้เลย แถวนี้ร้างผู้คนโดยสมบูรณ์
ลมพัดเสียงเศษหนังสือพิมพ์ปลิวว่อน
จางซิงชิงรู้สึกไม่สบายใจ เขากลับไปเปิดประตูคาเฟ่แต่เปิดไม่ออก
“ขอโทษนะครับ ให้ผมเข้าไปหน่อย ผมลืมของไว้ข้างใน”
เขาทั้งเคาะทั้งเรียกแต่ก็ไม่มีใครตอบรับ
จู่ๆก็มีเดินคนมาจากข้างหลัง มีคนสองคนกำลังเดินมาที่นี่ เขาสวมหมวกสูงและเสื้อโค้ทสีดำ พวกเขาจูงสุนัขตัวใหญ่ขนสีแดงมาด้วย
แววตาสีแดงของพวกเขาดูไร้อารมณ์ ถึงแพวกเขาจะไม่ได้มองมาที่จางซิงชิงแต่เขาก็รู้สึกถึงจิตสังหารมาที่เขา
*จื้ด จื้ด*
หนูสีเงินที่อยู่ข้างในเสื้อของเขา ได้ส่งเสียงออกมาอย่างกังวล
ใบหน้าของจางซิงชิงได้เปลี่ยนสีทันที เขาได้รับการเตือนจากหนูวิญญาณว่าเขากำลังจะเผชิญกับอันตรายร้ายแรง
หนูวิญญาณมันได้ส่งสัญญาณเตือนเขาเวลาเจอวิกฤติ ทำให้เขารอดออกไปได้ทุกครั้ง
เขาพยายามเรียกสัตว์อสูรของเขาที่มันอยู่ในบรเวณอื่นออกมา แต่กลับเงียบไม่มีเสียงตอบรับเลย
เขาหน้าซีดทันที
เขาติดต่อสัตว์อสูรของเขาไม่ได้ นั่นหมายความว่า…
จางซิงชิงกัดริมฝีปาก หากเขาไปที่โรงแรมได้พวกมันคงไม่กล้าทำอะไรเขาแน่ๆ แต่พวกมันกับขวางทางไว้
เขาไม่รู้ว่าใครต้องการเอาชีวิตของเขาเพราะจำนวนมันมีมากเกินไป ไม่มีทางรู้ได้ว่าใครส่งพวกเขามา
เขารู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง หากเขาตายเงินในบัญชีจะถูกโอนให้กับน้องสาวของเขา เงินจำนวนนั้นจะทำให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
แต่ก่อนที่เขาจะตายเขาต้องดิ้นรนอย่างเต็มที่
เขาหันมาดันประตูคาเฟ่อีกครั้ง
*ปัง*
ครั้งนี้เขาเปิดออก เข้ามาด้านใน จางซิงชิงมองไปด้านนอก ชายสองคนยืนเฝ้าประตูอยู่เพื่อกันไม่ให้คนข้างในออกมา
ตอนนี้จางซิงชิงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
จู่ๆก็มีชายชราผมสีเงินใส่ชุดฮันฟุสีขาว โผล่มาพูดกับเขา
“คุณคือคุณจางซิงชิงใช่มั้ยครับ ขอโทษที่ต้องทำให้คุณต้องสละเวลาอันมีของคุณให้กับเรา นี่คือบัตรเครดินที่มีเงินอยู่ 5ล้านเครดิต รหัสคือ เลข 6 5ตัว นี่เป็นค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆจากเรา” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
จางซิงชิงรู้สึกว่าเหตุการณ์ทำนองนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน
‘ต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ’
ร้านดูมืดสลัวๆเพราะมีแสงไฟจากโคมไฟที่อยู่ด้างข้างชายชราเท่านั้น
แม้แสงไฟจะดูอบอุ่นแต่จางซิงชิงก็รู้เย็นยะเยือกที่ได้มองชายชราคนนี้
“ใช่ครับ มะมีเรื่องอะไรหรอครับ” จางซิงชิงพูดอย่างติดๆขัดๆ เขาไม่เคยรู้สึกกดดันมากขนาดนี้มาก่อน
“พอดี ผมอยากจะรู้ว่าคุณจางได้คุยอะไรกับเด็กน้อยไรเดียงสาคนนั้น” ชายชรากล่าวอย่างจริงจัง
‘เขามาที่นี่เพื่อถามเรื่องแค่นี้’ จางซิงชิงงงง
“ผมเป็นตัวแทนมาคุยกับเขาเพื่อให้เขาถอนตัวจากรอบที่สามที่เป็นการแข่งขันของผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรรุ่นเยาว์นะครับ” จางซิงชิงตอบอย่างระมัดระวัง
“อืม..” ชายชราพยักหน้า “และเด็กคนนั้นตอบกลับมาว่าอย่างไร”
“เขาปฏิเสธมันครับ เขาบอกว่าไม่อยากพลาดโอกาสดีๆแบบนี้” จางซิงชิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
“และคุณจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ” ชายชราถามอย่างไม่รีบร้อน
“อา..” จางซิงชิงพอจะเดาได้ว่าชายชราคนนี้ต้องการอะไร เขาเลยพยายามจะหาทางโกหกชายชรา
*บูม*
จู่ๆ ก็มีบางอย่างพุ่งมาที่ศีรษะของเขา เฉียดปลายหูไปเพียง 1มิลลิเมตรเอง
ทำให้จางซิงชิงตัวสั่น เขาพยายามพูดแต่เสียงไม่ออกมา
เขารู้อยู่แล้วว่า หากเกาเผิงปฏิเสธจะอะไรขึ้น เพราะเขาวางแผนไว้แล้ว แต่เขาไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกมา
ตอนนี้เขารู้สึกตกที่นั่งลำบากอย่างมาก ช่วงเวลาที่คุยกับเกาเผิงอย่างสงบเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี้เอง
“ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องโกหกอะไรทั้งนั้น ฉันเชื่อว่าน้องสาวของคุณคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆที่รู้ว่าพี่ชายของเธอเป็นคนโกหก” ชายชรายิ้ม “เดี๋ยวเธอจะเสียใจเอานะ”
จางซิงชิงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ชายชรา
“พี่จ๋า” จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยปรากฏข้างๆจางซิงชิง เสียงนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นแรงบันดาลใจให้เขาก้าวเดินไปตามข้างหน้า แต่ตอนนี้เสียงนี้กับทำให้เขาหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง
เขาหันไปมองทางต้นเสียง เขาเห็นน้องสาวของเขายืนอยู่ไม่ห่างจากเขา ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“เสี่ยวซวน น้องมาที่นี่ได้ยังไง”
“ก็คุณปู่เขาบอกหนูว่าจะพาหนูมาหาพี่น่ะ ก็พี่ยุ่งมากและไม่ค่อยอยู่บ้านเลย หนูไม่ได้เจอพี่มานานมากแล้ว” เด็กสาวใส่ชุดกระโปรงสีแดงและสีขาวมองมาที่จางซิงชิง
“และคุณปู่ให้หนูเล่นเกมซ่อนหาด้วย เขาให้หนูไปซ่อนไม่ให้พี่เห็นหนู ถ้าทำได้คุณปู่จะเลี้ยงไอติมหนู ตั้ง 5ก้อนแน่ะ”
เด็กสาวยกแขนและกางนิ้ว 5นิ้วขึ้นมา ใบหน้าของเธอดูสดใสน่ารักเป็นอย่างมาก
เมื่อเด็กสาวเห็นว่าพี่ชายของดูซึม เธอจึงเข้ามาปลอบเขา
“พี่จ๋าอย่างโกรธเลยนะ หนูแค่คิดถึงพี่เลยอยากเจอพี่เท่านั้น”
จางซิงชิงหันกลับมามองชายชราและพูดว่า
“น้องสาวของผมไม่รู้เรื่องนี้ อย่าทำอะไรเธอเลยนะครับ ผมจะบอกทุกอย่างให้คุณรู้เอง”