ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 389
ดูเหมือนชายหนุ่มคนนี้จะพูดเรื่องเหลวไหลจริง ๆ เพราะเขาพยายามเรียกร้องความสนใจจากเอลล่า
เขาคิดว่าวิชาชีพด้านการแพทย์เป็นเรื่องที่คนนอกสามารถพูดและตัดสินได้ตามความต้องการงั้นหรือ?
ฮาร์วีย์ไม่ได้โกรธเคืองอะไรจากคำพูดของเจนเซ่น เขากลับยิ้มและพูดคุยอย่างสบาย ๆ ว่า “ผมเพิ่งอ่านโครงการวิจัยของ ดร.คาร์ลสันตั้งแต่ต้นจนจบ… คุณสังเกตไหมว่าเอกสารฉบับนี้มีข้อบกพร่อง? เอกสารทางวิชาการที่อ้างถึงในผลงานชิ้นเอกที่ยอดเยี่ยมนี้ล้วนเป็นข้อมูลของนักวิจัยคนหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน…”
“ผมบอกได้แค่ว่าเขาโง่จริง ๆ ถึงแม้เขาจะขโมยผลงานของคนอื่นมา แต่เขาก็ควรจะปรับแก้ไขเอกสารที่อ้างอิงถึงเป็นฉบับปัจจุบันสิ จริงไหม?”
“แต่สาเหตุที่เขาไม่ทำแบบนั้นก็เพราะเขาไม่รู้และไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับงานวิจัยนี้มากนัก เขากลัวว่าข้อความจะไม่เกี่ยวพันกันหลังจากแก้ไขเอกสาร”
“ผมพูดได้เลยว่า ดร.คาร์ลสัน ทำผลงานออกมาแย่มากเพราะมันมาจากการขโมยผลงานการวิจัยของคนอื่น…”
ในแวดวงวิชาการ จำเป็นต้องมีเอกสารที่รองรับความเป็นไปได้ในการเผยแพร่ผลงานวิจัยดังกล่าว
โดยทั่วไปเอกสารดังกล่าวจำเป็นต้องอ้างอิงถึงงานวิจัยและข้อมูลเป็นจำนวนมาก
จำเป็นต้องระบุแหล่งที่มา ปีของบทความ และชื่อผู้แต่งต้นฉบับที่อ้างอิงถึง
และนั่นมันจะยากที่จะแก้ไขเอกสารและข้อมูลที่อ้างอิงถึง
นั่นเป็นเพราะมันย่อมจะผิดพลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้ามันถูกดัดแปลง
เมื่อฮาร์วีย์ชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดนี้ มันทำให้ผู้เชี่ยวชาญและแพทย์หลายคนมองหน้ากันไปมา
จากเหตุนี้ทำให้งานวิจัยชิ้นนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาบางอย่าง
โดยปกติแล้วงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปีนี้จะมีการอ้างอิงถึงงานวิจัยและรายงานในปีที่ผ่าน ๆ มา
มันดูแปลกไปหน่อยที่รายงานของเจนเซ่นไม่ได้เกี่ยงโยงอะไรถึงประเด็นนี้
เกรกอรี่รู้สึกโกรธมากยิ่งเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของทุกคน
เขาทำงานในวงการด้านการแพทย์มาหลายปีแล้ว เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักบุญที่มีชื่อเสียงและเขาไม่เคยมีนักเรียนที่จะปลอมแปลงเอกสารมาก่อน
เขาใช้เวลาตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อพูดคุยกับเจนเซ่น ตั้งแต่ที่เขาเริ่มโครงการวิจัยเป็นครั้งแรก
เขามองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโครงการของเจนเซ่นว่าตอนนี้เขากำลังถูกใส่ร้ายจากคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มาจากไหนไม่มีใครรู้ เขาจะยอมรับและเชื่อมันได้ยังไง?
เกรกอรี่อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาว่า “เธอมันร้ายกาจ!”
“การทำวิจัยด้านการแพทย์ใช้เวลาหลายปีหรือมากกว่าสิบปีถือเป็นเรื่องปกติมาก! ต้องมีการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากก่อนที่จะทำการวิจัย!”
“เธอเป็นคนนอกจะไปรู้อะไร! เธอยังใช้เรื่องนี้มากล่าวหาเจนเซ่นอีก! ช่างไร้ยางอายจริง ๆ!”
“เธอควรแสดงหลักฐานให้ฉันดู! ถ้ามีหลักฐาน ฉันจะไล่เจนเซ่นออกไปเอง!”
“ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันอยากให้เธอขอโทษเจนเซ่นออกสื่อหลักของประเทศ H! ไม่งั้นเราจะฟ้องเธอในข้อหาหมิ่นประมาท!”
“โอ้ว…”
เกิดความโกลาหลขึ้นท่ามกลางฝูงชนเมื่อเกรกอรี่พูดแบบนั้น!
เกรกอรี่โกรธมาก ทุกสิ่งที่เขาพูดล้วนหมายถึงแบบนั้นจริง ๆ
นั่นเพราะด้วยสถานะของเขา เขาถึงกล้าพูดแบบนี้
“ใช่! ไอ้สารเลว บอกฉันทีว่านายมีหลักฐานอะไร?!”
“นายไม่มีหลักฐานอะไรเลย แต่นายยังกล้าพูดเรื่องเหลวไหลอีก นายคิดว่าพวกเราเป็นหมอจะไม่สู้คนหรือไง?!”
“คนนอกอย่างคุณจะเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? การได้เห็นผลงานด้านวิจัยแห่งปีเป็นความสำเร็จสูงสุดของเขาแล้ว!”
“ไอ้สารเลว ฉันแนะนำให้นายทำตัวให้สมกับเป็นผู้ชายหน่อยจะดีกว่า!”
“รีบไปขอโทษ ดร.คาร์ลสันเดี๋ยวนี้ ดร.คาร์ลสันเป็นคนมีความเมตตา เขาอาจจะให้อภัยคุณก็ได้ ไม่งั้นคุณจะต้องขอโทษเขาในสื่อ มันจะเป็นเรื่องน่าขายหน้ามากกว่านี้!”
ฮาร์วีย์เพียงยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและมองไปที่เจนเซ่น จากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการให้ผมชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องในรายงานและวิทยานิพนธ์ของคุณ?”
หัวใจของเจนเซ่นเต้นสั่นระรัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ และพูดว่า “เอาล่ะ! ฉันอยากเห็นข้อบกพร่องที่คนนอกอย่างคุณเห็น!”