ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 424
ฮาร์วีย์กำลังจะพูดต่อ
แต่แซ็คไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป เขาเอามือตบโต๊ะและตะคอกใส่ฮาร์วีย์อย่างดุเดือดแล้วชี้ไปที่เขา “แกคิดว่าแกเป็นใคร! ลูกเขยอย่างแกมีสิทธิอะไรมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของคุณปู่!”
ฮาร์วีย์เหลือบมองแซ็คอย่างเย็นชา
“แซ็ค ทำไมถึงโง่ได้ขนาดนี้? ฉันเตือนคุณแล้วนะ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ให้ตรวจสอบสัญญาที่คุณลงนามให้ดีเสียก่อนก่อน!”
“ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทธรรมดา ๆ ตามท้องถนน คุณคิดว่าคุณสามารถรับเงินลงทุนจากพวกเขาได้ง่าย ๆ งั้นหรือ? จะขายโครงการอะไรได้ตามที่คุณต้องการงั้นเหรอ? คุณเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เหรอว่าถ้าคุณได้รับการสนับสนุนจากตระกูลซิลวา คุณสามารถทำอะไรก็ได้ตามปราถนาต่อหน้าคนของยอร์กงั้นเหรอ?”
“คุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้านี้อีกเหรอ และคุณกำลังตัดสินใจรีบร้อนเกินไป! ฉันไม่เข้าใจว่าตระกูลซิมเมอร์มีรองประธานโง่ ๆ อย่างคุณได้ยังไง”
“ไอ้สารเลว!”
แซ็คโกรธจนอยากจะเหวี่ยงหมัดใส่หน้าฮาร์วีย์
แต่ครั้งสุดท้ายที่เขาโดนกระทำเขายังจำได้ดี เขารู้สึกตัวสั่นทันทีเมื่อนึกถึงมัน เขาทำได้เพียงจ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความขุ่นเคืองที่อยากจะถลกหนังเขาทั้งเป็น
ฮาร์วีย์มองไปรอบ ๆ ตัวเขา แล้วมองไปที่ไซม่อน
“คุณพ่อครับ ผมไม่ได้จะสงสัยคุณพ่อ แต่คุณพ่อไม่คิดว่าตระกูลซิลวาจะดีกับเราเกินไปเหรอครับ? ไม่เพียงแต่พวกเขาตกลงที่จะร่วมมือกับเราเท่านั้น แต่ยังให้เราได้ส่วนแบ่งตั้งห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ด้วย ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะดีเกินกว่าจะเป็นจริง คุณพ่อไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าสงสัยเลยเหรอครับ?”
เจตนานั้นมองห็นได้ชัดเจน
ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายซ่อนอยู่เบื้องหลังความร่วมมือระหว่างตระกูลซิลวาและตระกูลซิมเมอร์ ฮาร์วีย์ขอให้ทุกคนไม่ขยายกิจการไปที่บัควู้ด
แต่ใครจะเชื่อในสิ่งที่ออกมาจากปากของเขากัน?
ไซม่อนพูดอย่างเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ โครงการนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ แต่ฉันสามารถรับประกันด้วยชื่อเสียงของฉันได้ว่าโครงการนี้จะไม่มีปัญหาอะไร”
ไซม่อนต้องพูดอย่างนั้น ถ้าเขาบอกว่าโครงการมีอะไรไม่ปกติอยู่ ถ้ามองจากพวกคนที่ชอบใช้ความรุนแรงในตระกูลซิมเมอร์ ครอบครัวของไซม่อนจะถูกพรากไปโดยพวกเขาทันที
แม้ว่าไซม่อนจะแสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมา แต่เขาก็ยังคิดที่จะบังคับให้ฮาร์วีย์และแมนดี้หย่าร้างกันเมื่อพวกเขาไปถึงเมืองหลวง และให้เธอแต่งงานกับลีออน ด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับอำนาจในตระกูลกลับคืนมา
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดอะไรแบบนี้ออกไปได้ เขาจะทำเรื่องอยากรอบคอบ เพียงเพื่อให้แซ็คและพ่อของเขาไม่สนใจเขา
แต่ฮาร์วีย์กำลังทำให้เรื่องมันผิดแผนไป มันทำให้เขาต้องกัดฟันอย่างโกรธจัด แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย
แซ็คหัวเราะ
“เฮ้ ฮาร์วีย์ ฟังนะ ได้ยินที่คุณลุงพูดหรือเปล่า?”
“แกถามนู่นนี่คิดว่าทำให้ตัวเองดูฉลาดและมีไหวพริบงั้นเหรอ แต่ท้ายที่สุดแกก็แค่กลัวว่าแมนดี้จะสูญเสียอำนาจในตระกูล ทำให้แกไร้อำนาจเหมือนเมื่อก่อน!”
“ฉันบอกแกนะว่าแกหมดโอกาสนั้นไปแล้ว! และแกจะไม่ได้รับโอกาสนั้นอีกต่อไป!”
ฮาร์วีย์ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ฉันคิดว่าก่อนที่คุณจะพูดอะไรพวกนี้ คุณควรดูสัญญาการลงทุนเสียก่อน”
ในขณะนั้นผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ
“ฮาร์วีย์ หยุดพูดเรื่องสัญญาได้แล้ว! ฉันเชี่ยวชาญในรายละเอียดของสัญญามากกว่าแกล้านเท่า! ออกไปเดี๋ยวนี้! แกำให้ฉันขยะแขยง!”
ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่แม้แต่จะสบตากับฮาร์วีย์
ถ้าไม่ใช่เพื่อทำให้แน่ใจว่าควินน์จะได้แต่งงานกับลีออน และกลัวแมนดี้ขัดขวางแผนการของเขา ผู้อาวุโสซิมเมอร์คงไล่ฮาร์วีย์ออกจากบ้านไปแล้ว
แต่ในสายตาของเขาฮาร์วีย์ยังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง นั่นคือเหตุผลที่เขายังไม่ทำอะไรลงไป
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธ ทุกคนก็เพ่งมองไปที่ฮาร์วีย์
ในเวลาเดียวกัน ไซม่อนเอียงศีรษะและจ้องไปที่ฮาร์วีย์
“เอาล่ะ หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว นั่งลงซะ อย่าทำให้ตัวเองอับอายไปมากกว่านี้!”
แมนดี้ถอนหายใจออกมา
“ฮาร์วีย์ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว สัญญานั่นก็ไม่มีอะไร”
ลิเลียนไม่ได้พูดอะไรแต่ทำหน้าตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
‘ไอ้งี่เง่านี่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยมาตลอด มีแต่ก่อเรื่อง’
ฮาร์วีย์รับรู้ถึงสายตาของทุกคน แต่เขาก็ยังยืนกราน
“เอาล่ะ เท่านี้ก็เรียบร้อย แมนดี้ดูแลสามีของเธอให้ดี ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้เงินรายเดือนอีกเลย!”
ผู้อาวุโสซิมเมอร์ได้ตัดสินใจครั้งสุดท้าย
ทุกคนยืนขึ้นกำลังจะจากไป
“เดี๋ยวก่อน!”
เสียงเย็นเยียบดังก้องอยู่นอกห้องโถงคฤหาสน์