ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 886
แน่นอนว่าอาจารย์ใหญ่ไม่รู้ว่าฮาร์วีย์คือใคร
แต่เขายังรู้ดีอีกว่าไม่ได้มีเพียงแค่เชน ชอว์เท่านั้นที่ทำการบริจาคให้กับทางโรงเรียน แต่เขายังรู้จักกับประธานใหญ่ของโรงเรียนอีกด้วย
อีกอย่าง ประธานใหญ่มาจากตระกูลเซอร์เรย์ด้วย จึงทำให้ผลสรุปของเรื่องนี้ถูกจัดการไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
ในขณะนั้น อาจารย์ใหญ่พูดขึ้นอย่างเฉยชา “ฉันไม่สนใจหรอกนะว่านายเป็นใคร แต่ไม่ว่ายังไงแต่ข้อสรุปวันนี้จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง”
“ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ได้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วและว่าด้วยเรื่องที่คุณได้บุกรุกพื้นที่ของโรงเรียน ผมก็มีอำนาจที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบทางกฎหมายจากคุณ!”
“และคุณควรจะจัดการเรื่องปัญหาด้านการเงินเกี่ยวกับเชน ชอว์ด้วย”
ใบหน้าของฮาร์วีย์ค่อย ๆ เย็นชาลงในระหว่างที่เขามองสอดส่องผ่านใบหน้าของเหล่าสมาชิกของคณะกรรมการผู้บริหารโรงเรียน “แล้วพวกคุณทั้งหมดคิดเหมือนที่เขาคิดด้วยหรือเปล่า?”
“ไอ้กระจอก นายคิดว่านายจะเปลี่ยนการตัดสินใจของพวกเราได้ด้วยการบุกรุกห้องประชุมของเราเหรอ?”
“ถ้านายยังไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใครนายก็ควรไปถามคนอื่นดูนะ ไม่ว่านายจะเป็นใครแต่นายก็จะไม่มีอิทธิพลที่จะตัดสินผลลัพธ์ของปัญหานี้!”
“ก่อนที่นายจะออกไป นายควรที่จะจ่ายเงินคืนมาและขอโทษสะ! ถ้าไม่ ฉันรับรองแน่ว่าพวกนายจะไม่มีทางที่จะได้เข้าเรียนที่ไหนได้ในบัควู้ด!”
อันที่จริงแล้วไม่มีใครที่กลัวฮาร์วีย์เลยสักคน
ในสายตาของพวกเขามองว่าเด็กหนุ่มใจร้อนคนนี้เป็นได้เพียงแค่ทายาทร่ำรวยคนหนึ่งเท่านั้น
ทายาทร่ำรวยธรรมดา ๆ จะมีความสำคัญกับพวกเขาได้ขนาดไหนกัน?
พวกเขาต่างหากที่ถือพลังอำนาจที่แท้จริง
ในขณะเดียวกัน ซีนเธียร์เริ่มรู้สึกตื่นตระหนกแล้ว
อย่างไรแล้วเธอก็เป็นเพียงแค่นักเรียนคนหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าพี่เขยของเธอวิเศษขนาดไหนแต่ปัญหาคือเธอไม่มั่นใจว่าอำนาจของเขาจะมีอิทธิพลต่อระบบการศึกษาหรือไม่ เธอกลัวว่าจะเธอจะไม่ได้เข้าเรียนที่ไหนได้อีก
“พี่เขยลืมเรื่องนี้ไปแล้วกลับกันเถอะ” ซีนเธียร์พูดขอร้องด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“เห็นไหม? อย่างน้อยนังเด็กนั่นก็รู้ว่าต้องทำยังไง ออกจากที่นี่ไปสะ ตอนนี้ฉันยังอารมณ์ดีพอที่จะไม่เรียกร้องให้นายคืนเงินให้พวกเรานะ!”
“ถ้านายยังดันทุรังอยู่ ฉันจะไม่ให้มันจบง่าย ๆ แค่การคืนเงินให้กับเราหรอก!”
“ฉันจะให้คนมาหักขาของนายเป็นสองท่อน!”
เชน ชอว์และพ่อของเขาเป็นคนอวดดี ถึงแม้ว่าพวกเขาทำธุรกิจอาหารทะเลแต่เขาก็รู้จักคนในวงการด้านมืด
การหักขาของฮาร์วีย์ดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับเขา
ฮาร์วีย์หัวเราะและพูด “คุณอยากจะหักขาของผมงั้นเหรอ? นี่มันน่าสนใจจริง ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็หวังว่าหลังจากนี้คุณจะไม่มาคุกเข่าและอ้อนวอนผมนะ”
หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา
หลังจากเห็นการกระทำของฮาร์วีย์ อาจารย์ใหญ่และคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา
“นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายคิดว่าการโทรหาใครบางคนจะช่วยได้เหรอ? นายจะโทรหาใครได้?”
“ไอ้หนุ่มนายมันซื่อมากจริง ๆ นายรู้หรือเปล่าว่านักลงทุนที่อยู่เบื้องหลังของโรงเรียนของเราคือใคร?”
“แม้ว่านายจะแจ้งตำรวจก็ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้หรอก!”
“อย่าสนใจเขาเลย ปล่อยเขาโทรไปเถอะ เห็นว่าเขากล้าข่มขู่พวกเราอย่างนี้ อย่างน้อยเขาก็คงมีความสามารถอยู่บ้าง จริงไหม?”
“ผมสนุกจริง ๆ เวลาที่เห็นคนที่หลงเชื่อว่าพวกเขามีความสามารถมาก คุกเข่าลงต่อหน้าผมและอ้อนวอนเพื่อขอให้ยกโทษให้ทีหลัง!”
อาจารย์ใหญ่และคณะกรรมการคนอื่น ๆ ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างเยือกเย็น พวกเขาต่างเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากมายในการติดต่อกับคนในแวดวงสังคม
แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าตระกูลเซอร์เรย์มีจุดยืนในบัควู้ด
อีกอย่างตระกูลเซอร์เรย์เป็นผู้ที่ลงทุนให้กับทางโรงเรียน มันจะสำคัญยังไงถ้าชายกระจอกที่ไม่มีอะไรดีคนนี้จะหาสายสัมพันธ์ดี ๆ ได้? มันจะสู้ตระกูลเซอร์เรย์ได้เหรอ?
ในอีกด้านหนึ่ง เชนที่มีความมั่นใจและอวดดี
เขารู้มาก่อนหน้านี้ว่าซีนเธียร์และครอบครัวของเธอต้องเป็นคนนอกที่มาจากนิอัมมี่แน่ ๆ
คนนอกธรรมดา ๆ ที่อาจจะมีความโชคดีอยู่บ้างเล็กน้อยจะสร้างความโกลาหลในบัควู้ดได้อย่างไร?