งจากที่เย่เทียนเข้าร่วมทีมหมาป่าวายุแล้ว นักรบอีกคนก็เข้าร่วมทีมจึงครบ 10 คนตามเงื่อนไข
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็มารวมตัวกัน
หมาป่าวายุถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีม เย่เทียนก็ไม่คัดค้าน
“ภารกิจของเราคือการกําจัดสัตว์อสูรในพื้นที่นี้!” หมาป่าวายุถือแผนที่ที่เพิ่งได้รับมาและชี้ไปที่พื้นที่หนึ่งและพูด
เย่เทียนมองไปพื้นที่นั้น มันอยู่ห่างจากฐานหลินไห่ประมาณ 30 กิโลเมตร
“กัปตัน มันไม่ไกลไปหน่อยหรอ? พวกเราไม่เคยออกไปไกลขนาดนั้นมาก่อนเลย!” สมาชิกในทีมบางคนขมวดคิ้ว
“ช่วยไม่ได้ ภารกิจครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 100 กิโลเมตร แผนการกวาดล้างสัตว์อสูรครั้งนี้ก็ถูกเตรียมการไว้นานแล้ว!” หมาป่าวายกล่าว
คนอื่นๆพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากวางแผนการต่อสู้อย่างง่ายๆแล้ว ทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง สิ่งต่างๆ ในป่ามีการเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป แผนที่ไม่ได้ช่วยพวกเขามากนัก พวกเขาจึงไม่ได้ปรึกษากันไปมากกว่านี้
ภารกิจครั้งนี้มีจุดหมายอยู่ไกลมาก ทุกคนไม่ได้เลือกที่จะขับรถไป แม้ว่าการใช้รถจะรวดเร็ว และสามารถบรรทุกของได้มากมาย แต่ความยืดหยุ่นของมันย่าแย่เกินไป ในป่านั้นก็ไม่มีถนน หลายๆที่ไม่เหมาะกับการขับรถ
ดังนั้นการเดินเท้าจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ระหว่างทาง
“ก่อนอื่นเราต้องทําภารกิจกับหมาป่าวายุและคนอื่นๆให้สําเร็จ จากนั้นค่อยออกค้นหามดจอมพลัง!”
เย่เทียนวางแผนอย่างลับๆ
หลังจากพูดคุยกับหมาป่าวายุ เขาก็รู้ชื่อที่แท้จริงของหมาป่าวายุ หมาป่าวายุมีชื่อว่า จางเฟิง หมาป่าวายุเป็นชื่อของทีมล่าที่เขาตั้งขึ้น หลังจากนั้นไม่นานมันก็ได้รับมันเป็นฉายาของเขา
พรสวรรค์ของหมาป่าวายุนั้นไม่ได้สูงนัก มันเป็นเพียงพรสวรรค์ในการบ่มเพาะขั้นต้นเท่านั้น การที่สามารถฝึกจนถึงนักรบขั้นปลายได้นั้นยอดเยี่ยมมากแล้ว แม้ว่าเขาจะพยายามทั้งชีวิตก็ยากที่จะกลายเป็นนักรบชั้นยอดได้
สําหรับเย่เทียนเขารู้สึกว่าการจะเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญนั้นไม่ใช่เรื่องยาก นั่นเป็นเพราะ พรสวรรค์ของเขาสูงเกินไป มันเป็นพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูง แต่หมาป่าวายุมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับเริ่มต้นเท่านั้น ปัญหาคอขวดของนักรบก่อนที่จะทะลวงเป็นนักรบชั้นยอดเป็นเหมือนภูเขาที่สูงเสียดฟ้า สําหรับหมาป่าวายุอาจจะมีโอกาสที่จะทําลายมันได้ แต่อัตราความสำเร็จน้อยกว่า 30% และยังต้องใช้ทรัพยากรอีกมากมาย
ด้วยเหตุนี้หมาป่าวายุจึงรับภารกิจนี้และหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์จากมัน เขาคาดหวังว่าจะสามารถทําลายคอขวดได้ในขณะต่อสู้
นักรบจะเติบโตขึ้นมาได้ท่ามกลางการต่อสู้ แม้ว่าภารกิจนี้จะอันตรายเล็กน้อย แต่มันก็ถือว่าเป็นโอกาสสําหรับเขา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโอกาสเช่นนี้ สําหรับหมาป่าวายุที่พยายามต่อสู้มาหลายปีย่อมไม่มีทางปล่อยมันไปง่ายๆแน่
“น้องชายเย่เทียน เจ้าอายุไม่ถึงยี่สิบปี อายุยังน้อยก็กลายเป็นนักรบขั้นปลายแล้ว พรสวรรค์ของเจ้าสูงมาก ทําไมเจ้าถึงต้องเข้าร่วมภารกิจที่อันตรายเช่นนี้ด้วย?” หมาป่าวายุถามด้วยความสงสัย
“ขัดเกลา!”
เย่เทียนพูดเพียงสองคํา
ทันใดนั้นหมาป่าวายก็รู้สึกชื่นชม
ต้องรู้ก่อนว่าเหล่าผู้ฝึกตนอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ของฐานหลินไห่ ไม่กล้าแม้กระทั่งเข้าป่าเพียงลําพัง บางครั้งการออกล่าในป่าก็ยังต้องได้รับการคุ้มครองจากนักรบชั้นยอดหลายคน เมื่อเทียบกันแล้ว เย่เทียนเป็นนักรบที่แท้จริงอย่างไม่ต้องสงสัย
หมาป่าวายุถามตัวเองว่า หากเขามีพรสวรรค์ที่สูงกว่านี้ เขาอาจจะไม่กล้าเสียงเข้าไปในป่าเช่นกัน เขาคงจะเลือกที่จะเข้าร่วมกองกําลังขนาดใหญ่เพื่อฝึกฝนอย่างสบายใจภายใต้การอุปถัมภ์ของขุมกําาลังใหญ่เหล่านั้น
ระยะทาง 30 กิโลเมตรนั้นไกลมาก ทุกคนไม่กล้าเร่งความเร็วในป่า พวกเขาใช้เวลามากกว่าครึ่งวันกว่าจะถึงจุดหมาย
“ทุกคน แม้ว่าพวกเราได้รับหน้าที่กวาดล้างสัตว์อสูรในพื้นที่นี้ แต่หากพวกเราเจอสัตว์อสูรระดับกลางพวกเราควรขอความช่วยเหลือ!”
หมาป่าวายุเตือน
การขอความช่วยเหลือเป็นอํานาจของทุกกลุ่ม และหัวหน้าของแต่ละกลุ่มก็มีอุปกรณ์สื่อสารอยู่ในมือ มันเป็นอุปกรณ์พลังเวทย์ แต่ขอบเขตของการติดต่อนั้นไม่กว้างมากนัก สามารถติดต่อได้ ในระยะ 10 กิโลเมตรเท่านั้น
ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดของหมาป่าวายุ พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถจัดการกับสัตว์อสูรระดับกลางได้ หากพวกเขาพบพวกมันพวกเขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากนักรบชั้นยอด
เย่เทียนแอบส่ายหัว เขารู้ว่าอุปกรณ์สื่อสารที่ได้รับมาเป็นเพียงแค่สิ่งปลอบขวัญเท่านั้น
ในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ไม่รู้ว่ามีสัตว์อสูรอยู่กี่ตัว จํานวนนักรบย่อมมีไม่เพียงพอ การจะค้นหาหรีอช่วยเหลือยากเย็นแสนเข็ญ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการสูญเสีย
ดังนั้นแม้ว่าหมาป่าวายุจะติดต่อกลุ่มนักรบชั้นยอดคนอื่นๆแต่ก็จะไม่มีใครมาสนับสนุนเขา
ผู้ฝึกยุทธล้วนไม่ตายเพราะความยากจน หลายคนรู้เหตุผลนี้ หากเกิดอันตรายใดๆทุกคนย่อมเลือกโอกาสที่ตัวเองจะมีชีวิตรอด
“ข้างหน้ามีหมาป่าทุ่งหญ้าสามตัว มันเป็นสัตว์ร้ายระดับต่า ไปฆ่าพวกมันกันเถอะ!”
หมาป่าวายชี้ไปยังสัตว์อสูรระดับต่าสามตัวที่อยู่ห่างออกไปราวสามร้อยเมตร
หมาป่าทุ่งหญ้าเป็นสัตว์อสูรที่อ่อนแอในบรรดาสัตว์อสูรระดับต่า แม้แต่นักรบที่เพิ่งเลื่อนขั้นก็สามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรชนิดนี้ได้
ไม่นานหมาป่าทุ่งหญ้าสามตัวก็ถูกสังหารโดยทุกคน
หมาป่าวายุและคนอื่นๆไม่ได้เก็บวัตถุดิบจากร่างของหมาป่าทุ่งหญ้า เนื่องจากชิ้นส่วนร่างกายของหมาป่าทุ่งหญ้าไม่มีค่าอะไรมากมาย ซากของหมาป่าทุ่งหญ้าจึงมีมูลค่าเพียงหนึ่งแสนหยวนเท่านั้น
หมาป่าทุ่งหญ้ามีขนาดเท่ากับลูกวัว มันไม่ง่ายเลยที่จะนํามันไปด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งมันไป
ทุกคนยังคงช่วยกันค้นหาร่องรอยของสัตว์อสูรและในไม่ช้าพวกเขาก็พบสัตว์อสูรอีกครั้ง
เวลาค่อยๆผ่านไปพวกเขาออกค้นหาสัตว์อสูรและฆ่ามันทําเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ในตอนแรกหมาป่าวายุและคนอื่น ๆ สามารถสังหารสัตว์อสูรที่พบมากมายได้อย่างราบรื่น สัตว์อสูรที่พบนั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก มันจึงไม่ใช่ปัญหาสําหรับพวกเขา
ด้วยการเดินทางที่ราบรื่นเป็นเวลานานท่าให้ทุกคนเริ่มผ่อนคลาย แต่เย่เทียนไม่เคยลดความระมัดระวังลง
“หุบเขาข้างหน้าเป็นสถานที่หลักในการกวาดล้างของพวกเรา ทุกคนระวังตัวด้วย อาจจะมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังอยู่ด้านใน!”
หมาป่าวายุกล่าวอย่างจริงจัง
ป่า หุบเขา และแม่น้ํา สามสถานที่เหล่านี้มักจะเป็นพื้นที่ที่อันตรายมากที่สุด ในขณะที่พื้นที่ราบและเปิดโล่งมีอันตรายน้อยที่สุด
เมื่อทุกคนเดินเข้าไปในหุบเขา สัตว์อสูรก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาทันที
มันเป็นกิ้งก่าที่มีล่าตัวยาวสามเมตร ร่างกายของมันมีสีแดงก่า บนหลังมีหนามแหลมแหลมดูน่ากลัว
“นี่คือสัตว์อสูรประเภทไหนกัน?”
ทุกคนขมวดคิ้ว
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรประเภทนี้มาก่อน แม้แต่หมาป่าวายุที่เคยพบเจอสัตว์อสูรมากมายก็ยังไม่รู้จักสัตว์อสูรตัวนี้
มีสัตว์อสูรมากมายที่พวกเขารู้จัก แต่มันก็เป็นเพียงสัตว์อสูรที่อยู่ใกล้ๆ
กับฐานหลินไห่เท่านั้น สัตว์อสูรชนิดนี้ไม่เคยเห็นปรากฏตัวใกล้กับฐานหลินไห่มาก่อน จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่รู้จัก
[ประเภท: กิ้งก่าเพลิง
พรสวรรค์ทางสายเลือด: ระดับเริ่มต้น
พรสวรรค์เปลวเพลิง: รอง]
เมื่อเย่เทียนเห็นพรสวรรค์ของกิ่งก่าตัวนี้ เขาก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมาทันที
“ทุกคนระวังตัวด้วย นี่คือกิ้งก่าเพลิง มันมีพรสวรรค์ด้านเปลวเพลิง!” เย่เทียนรีบเตือนทุกคน
“อะไรนะ กิ้งก่าตัวนี้มีพรสวรรค์ด้านเปลวเพลิง!!”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน