งจากเย่เทียนจากไปชายชราหลีก็มุ่งหน้าไปยังที่พักตระกูลซุน ไม่นานนักเสียงกรีดร้องก็ดังออกมาจากภายในที่พักตระกูลซุน
วันรุ่งขึ้น ข่าวหนึ่งทําให้ฐานหลินไห่ต้องสั่นสะเทือนเพราะความตกใจ
ตระกูลซุนล่มสลายแล้ว!
และคนที่ทําให้ตระกูลซุนล่มสลายก็คือเย่เทียน เย่เทียนผู้ซึ่งเอาชนะซุนเพิ่งได้
เหตุผลที่พวกเขาตกใจก็เพราะทุกคนคิดว่าเย่เทียนเป็นเพียงนักรบชั้นยอดที่แข็งแกร่งมากเท่านั้นเขาเพียงสามารถเอาชนะนักรบชั้นยอดในระดับชั้นเดียวกันได้อย่างง่ายดาย
แต่ใครจะรู้ว่าเย่เทียนจะไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้ แต่คนๆเดียวกลับสามารถทําลายล้างตระกูลซุนทั้งตระกูลได้!
แต่ข่าวที่ดังกว่านั้นคือปรมาจารย์เหยาเย่หนึ่งในสองปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งได้เสียชีวิตลงแล้ว
นี่มันน่าตกใจยิ่งกว่าตระกูลซุนที่ถูกทําลายเสียอีก!
เพราะนั่นคือปรมาจารย์ ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่านักรบผู้เชี่ยวชาญมาก
ไม่มีปรมาจารย์แม้แต่คนเดียวในฐานหลินไห่และฐานเขียวเหล็กที่พึ่งเข้ามาตั้งรกรากก็มีเพียงปรมาจารย์เพียงสองคนเท่านั้นตอนนี้ปรมาจารย์คนหนึ่งกลับเสียชีวิตลงแล้วปรมาจารย์อีกคนก็กลัวมากจนลงมือสังหารคนที่เหลือของตระกูลซุนเพื่อแสดงความจริงใจ
นี่มันหมายความว่าไง?
เย่เทียนได้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในฐานหลินไห่ ไม่มีใครที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาอีกแล้ว
เมื่อได้รับข่าวนี้ หลายคนที่รู้จักเย่เทียนต่างก็ต้องตกตะลึง
โดยเฉพาะหมาป่าวายุและทีมของเขา เมื่อหมาป่าวายรู้ข่าวนี้ มันตะลึงงันไปพักหนึ่ง
“น้องเย่เทียนได้ทําลายตระกูลซุนและยังสังหารแม้กระทั้งปรมาจารย์!!”
หมาป่าวายุไม่รู้ว่าปรมาจารย์แข็งแกร่งเพียงใดแต่เขาก็ยังรู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลซุนตระกูลซุนนั้นมีนักรบผู้เชี่ยวชาญถึงสิบคนและยังนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดอีกสองคนนอกจากนั้นคนของตระกูลซุนยังมีพรสวรรค์พิเศษในด้านดาบและผู้ฝึกยุทธของตระกูลซุนส่วนใหญ่สามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ได้ในระดับเดียวกันหรือแม้กระทั่งระดับที่แข็งแกร่งกว่าได้อย่างง่ายดาย
เมื่อได้รู้ถึงประวัติและเบื้องหลังของซุนเฟิง เขาก็เป็นห่วงเย่เทียนอยู่เป็นเวลานาน
แต่ใครจะคิดว่าเพียงไม่กี่เดือนผ่านไป ตระกูลซุนกลับถูกเย่เทียนทําลายและเขายังสังหารแม้กระทั่งจอมยุทธระดับปรมาจารย์
“น้องเยเทียนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ตัวข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะแหงนหน้ามองเขาด้วยซ้ำ!”
หมาป่าวายุถอนหายใจ
อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับเย่เทียน หากเขาเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปก็เพียงพอที่จะทําให้คนอื่นต้องอิจฉา
ที่พักตระกูลหลิน
หลินว่านหลี่ถือข้อมูลในมือและไม่สามารถเปิดปากพูดได้เป็นเวลานาน
เขาตกตะลึงจริงๆ กับข้อมูลที่เขาได้มา
“ตระกูลซุนถูกทําลาย ปรมาจารย์เหยาเยถูกฆ่าตาย เย่เทียนแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ข้าเกรงว่าพรสวรรค์ของเขาคงไม่ใช่แค่พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงแต่เป็นพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุด พลังและความเร็วของเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์เกรงว่าเขาควรจะมีพรสวรรค์พิเศษด้า นพละกําลังและความเร็วอีกด้วย!”หลินว่านหลี่คาดเดา
เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ เขายินดีที่จะเห็นเย่เทียนแข็งแกร่งขึ้น เพราะเย่เทียนอยู่ฝ่ายฐานหลิ้นไห่
ด้วยการปรากฏตัวของเย่เทียน ไพ่ต่อรองของด้านฐานหลินไห่ก็เพียงพอที่จะบดขยฝ่ายตรงข้ามได้
“พรุ่งนี้ข้าจะไปเยี่ยมปรมาจารย์เย่เทียน!”
หลินว่านหลี่ตัดสินใจแล้ว
เขาไม่ได้จะดึงเย่เทียนมาร่วมงาน ด้วยสถานะตระกูลหลินในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะดึงเย่เทียนเข้าร่วมอีกแล้วแต่เย่เทียนตอนนี้ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของฐานหลินไห่หากตระกูลหลินไม่ไปเยี่ยมเยียนมันคงเป็นเรื่องไม่ดีนัก
หากสามารถคบหาผูกสัมพันธ์กับเย่เทียนได้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับตระกูลหลิน
ตระกูลที่มีความคิดแบบเดียวกับตระกูลหลินไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองตระกูล หลายตระกูลต้องการทําความรู้จักกับเย่เทียน
ดังนั้นในวันนี้
ผู้นําตระกูลและผู้อาวุโสหลายคนนําของขวัญหลายชิ้นเดินทางมายังที่ที่พักของเย่เทียนเพื่อไปเยี่ยมเย่เทียนเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม เย่เทียนมีค่าตอบเพียงข้อเดียว-เขาปฏิเสธทั้งหมด!
นอกจากนี้เย่เทียนยังกล่าวอีกว่าเขาดเพียงต้องการฝึกฝนอย่างเงียบๆไม่ต้องการให้ใครมารบกวนการบ่มเพาะของเขา
สําหรับหลายตระกูลใหญ่นี่เป็นข่าวดีอย่างน้อยที่สุดเยเทียนก็ไม่มีความคิดที่จะต่อสู้และเอาเปรียบพวกเขา
ตระกูลซุนเป็นข้อยกเว้นอย่างไม่ต้องสงสัย หากตระกูลซุนไม่ยั่วยุเย่เทียน ตระกูลซุนก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้
ดังนั้นทุกตระกูลจึงออกคําสั่งว่าห้ามไม่ให้ใครยั่วยุเย่เทียนหรือเย่หยูอย่างเด็ดขาด
ถึงตอนนี้เย่หยูก็กลายเป็นคนไม่สามารถล่วงเกินได้ในสถานศึกษาของเธอ
เมื่อไม่มีใครกล้ารบกวนเย่เทียนอีกเย่เทียนจึงมีเวลามากพอที่จะฝึกฝน
และบ้านของเขาที่พังทลายจากการต่อสู้ถูกผู้พัฒนาส่วนกลางส่งคนมาซ่อมแซมให้ฟรีในทันทีเพราะเย่เทียนอาศัยอยู่ที่นี่และนําผลประโยชน์มหาศาลมาสู่พวกเขา!
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นราคาวิลล่าที่นี่ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวผู้พัฒนาเองจึงไม่ตระหนี่กับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านของเย่เทียน
วันเวลาค่อยๆไหลผ่านไป
เกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่การล่มสลายของตระกูลซุนในที่สุดเย่เทียนก็สามารถขัดเกลาผิวหนังเนื้อกระดูกและเลือดของเขาได้จนถึงขีดสุดในตอนนี้รากฐานของเขามั่นคงอย่างมาก
“ถึงเวลาแล้วที่เราจะเริ่มขัดเกลาอวัยวะภายใน!”
เย่เทียนตัดสินใจในทันที
นักรบชั้นยอดจะต้องขัดเกลาเลือดและนักรบผู้เชี่ยวชาญขัดเกลาอวัยวะภายในอวัยวะภายในของพวกเขาจะแข็งแกร่งราวกับเป็นเหล็กชั้นดี
เมื่ออวัยวะภายในถูกขัดเกลาจนถึงขีดสุด ต่อให้กินยาพิษเข้าไป ก็จะไม่เกิดอันตรายใดๆขึ้นแม้ว่าอวัยวะภายในของนักรบชั้นยอดจะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมากแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นกลืนพิษลงไปได้
เมื่ออวัยวะภายในของเขาเริ่มเข้าสู่กระบวนการขัดเกลาคอขวดที่ฉุดรั้งเย่เทียนไว้ก็จะถูกทําลายและทะลวงเข้าสู่นักรบผู้เชี่ยวชาญโดยอัตโนมัติความแข็งแกร่งของเขาจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
“มาเริ่มกันเลย!”
เย่เทียนเริ่มฝึกฝนตามเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นกลาง และในเวลาเดียวกันก็หยิบเลือดของสัตว์อสูรระดับสูงและกลืนมันลงไป
ภายใต้การควบคุมของเย่เทียน พลังที่ถูกสร้างขึ้นจะถูกดูดเข้าไปในอวัยวะภายในและค่อยๆขัดเกามันที่ละน้อย
ตูม!!!
โซ่ตรวนในความมืดมิดที่ฉุดรั้งร่างของเย่เทียนไว้ถูกบดขยี้ ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เย่เทียนรู้ดีว่านี่คือการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตนักรบผู้เชี่ยวชาญ
การทะลวงผ่านขอบเขตนักรบผู้เชี่ยวชาญเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ไม่เพียงแต่จะสร้างพลังจิตขึ้นเท่านั้นแต่พลังกายความเร็ว และการป้องกันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
แต่เดิมพลังจิตของเย่เทียนสามารถครอบคลุมได้เพียงไม่กี่สิบเมตรแต่ตอนนี้พลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขอบเขตของมันก็ค่อยๆกว้างขึ้น
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งวัน กระบวนการการเปลี่ยนแปลงก็สิ้นสุดลงในตอนนี้เย่เทียนได้กลายเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นทางการ
“พลังจิตของเราขยายครอบคลุมรัศมี 200 เมตร และนักรบผู้เชี่ยวชาญทั่วไปสามารถขยายขอบเขตพลังจิตได้เพียง 20 เมตรเท่านั้นพลังจิตของเราน่าจะเทียบได้กับนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดแต่ก็ยังคงห่างไกลจากปรมาจารย์มาก!” เย่เทียนประเมินตัวเอง
จากนั้นเขาก็ทดสอบความเร็วของเขาอีกครั้ง
ความเร็วเหนือเสียง 20 เท่า!
นี่คือความเร็วของเยเทียนในตอนนี้ มันเร็วกว่าเมื่อก่อนมาก
สําหรับความแข็งแกร่ง เย่เทียนได้ทดสอบความแข็งแกร่งของเขาแล้วเขามีความแข็งแกร่งเพียง 120,000 จิน เท่านั้น แต่หลังจากทะลวงผ่านแล้วมันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามการฝึกฝนของเขา
การป้องกันของเขาแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า แต่ก็ยังอ่อนแออยู่มากจุดอ่อนนี้ไม่สามารถชดเชยได้จนกว่าจะได้รับพรสวรรค์ด้านการป้องกัน
“เลือดของสัตว์อสูรระดับสูงของเราเกือบจะหมดลงแล้ว ถึงเวลาที่จะไปยังป่าใบไม้ปลิวอีกครั้ง!”
เย่เทียนพึมพํา