ในเขตแดนลับ
เย่เทียนไม่รู้เลยว่าเย่วหลิงจะมอบหญ้าวิญญาณอัคคีและดอกไม้วิญญาณสวรรค์ทั้ง 6 ดอกให้กับตระกูลเพื่อโอกาสได้เลื่อนระดับราชาหากเขารู้เขาคงทําได้เพียงแค่ถอนหายใจ
สําหรับเขาแล้ว การทะลวงสู่ระดับราชานั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขาได้กลายเป็นระดับหลุดพ้นแล้วและมันยังดีกว่าพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นทั่วไปเสียอีกเพราะพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นของเขาเกิดจากการหลอมรวมระหว่างระดับหลุดพ้นและพรสวรรค์ระดับสูงสุด
“ห่างออกไป 800 เมตร มีโสมอายุ 500 ปีหนึ่งตัน!”
เย่เทียนมองผ่านชั้นของมิติและเห็นโสมที่ห่างกัน 800 เมตร สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
นี่คือความสามารถในการรับรู้มิติ มันทําให้เขาสามารถหาสมุนไพรได้อย่างง่ายดาย
ก่อนหน้านี้ ในตอนที่เย่วหลิงยังอยู่กับเขา เขาไม่กล้าเก็บสมุนไพรอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้แต่ตอนนี้เย่วหลังจากไปแล้ว เขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป
พริบ!
พริบตาเดียวเย่เทียนก็มาถึงที่ต้นโสม 500 ปีเติบโตอยู่เขาค่อยๆ ขุดโสมออกมาอย่างระมัดระวังแล้ววางไว้ในกล่องไม้ที่สร้างขึ้นชั่วคราวจากนั้นก็ส่งมันเข้าไปในมิติส่วนตัว
ค้นหาต่อไป!
ในเขตแดนลับมีสมุนไพรที่มีอายุมากกว่า 100 ปีอยู่มากมาย เย่เทียนสามารถหามันได้อย่าง
ง่ายดาย
สําหรับเขาเขตแดนลับเปรียบเสมือนดินแดนสมบัติทางธรรมชาติ สัตว์อสูรในเขตแดนลับนี้มีสัตว์อสูรระดับสูงอยู่มากมายและทุกตัวเขาสามารถรวบรวมเลือดของมันเพื่อการบ่มเพาะของเขาและน้องสาวในอนาคตนอกจากเย่เทียนจะเก็บสมุนไพรแล้วสิ่งที่สําคัญที่สุดคือการเก็บเลือดของสัตว์อสูรระดับสูง
ในโลกภายนอก แม้ว่าจะมีสัตว์อสูรระดับสูงอยู่มากมาย แต่หากเขาฆ่าสัตว์อสูรระดับสูงอย่างบ้าคลั่งภายในเวลาไม่ถึงวันเขาจะต้องพบกับสัตว์อสูรชั้นยอด
แต่ในเขตแดนลับนั้นไม่เหมือนกัน สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในที่แห่งนี้คือสัตว์อสูรระดับสูงเท่านั้น
ในอดีตเย่เทียนยังกังวลว่าเลือดของสัตว์อสูรเหล่านี้เขาไม่สามารถนําออกไปด้วยได้แต่ในตอนนี้เขามีถุงเก็บสมบัติถึง 2 ใบและมิติส่วนตัวซึ่งเพียงพอที่จะสามารถรวบรวมเลือดของ สัตว์อสูรระดับสูงได้มากมาย
เพียงพริบตาครึ่งเดือนก็ผ่านไป
ในช่วงครึ่งเดือนมานี้ เย่เทียนได้ฆ่าสัตว์ร้ายระดับสูงและรวบรวมสมุนไพรอย่างบ้าคลั่งด้วยพรสวรรค์ในการรักษาชั้นยอดเขารอดชีวิตจากการไล่ล่าของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วน
ไม่รู้ว่ามีสัตว์อสูรระดับสูงจํานวนเท่าไหร่แล้วที่ต้องตายด้วยน้ํามือของเขา เขารู้เพียงว่ามิติส่วนตัวและถุงเก็บสมบัติ 2 ใบของเขาตอนนี้เต็มแล้ว
“เราไม่สามารถล่าสัตว์อสูรระดับสูงได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้ไม่มีที่ว่างพออีกแล้ว!”
เย่เทียนละทิ้งการล่าสัตว์อสูรระดับสูง แต่ก็ยังมีสมบัติมากมายที่ยังไม่ได้ค้นพบในเขตแดนลับส่วนใหญ่สมบัติเหล่านี้ล้วนแต่อยู่ใต้ดินยังไม่ต้องสงสัย
| พลังจิตไม่สามารถตรวจสอบพื้นที่ใต้ดินได้ แต่พลังมิติสามารถรับรู้และตรวจสอบพื้นที่ใต้ดินได้
ยกตัวอย่างเช่น หลายครั้งที่เขารู้สึกถึงการมีอยู่ของสายแร่ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่สายแร่หินปราณแต่เป็นสายแร่โลหะ ทองแดง เงิน แร่เหล่านี้ล้วนมีค่ามากก็จริงแต่มันไม่ได้ช่วยเขาในการ พัฒนาความแข็งแกร่ง!
ถึงเขาจะต้องการมันแต่เขาจะสามารถเก็บมันได้มากแค่ไหน? แม้ว่าเขาจะส่งมันเข้าไปในมิติส่วนตัวแต่เขาจะขายได้เพียงไม่กี่ร้อยล้านเท่านั้นซึ่งมันยังมีมูลค่าน้อยกว่าเลือดของสัตว์อสูรระดับสูงและสมุนไพรต่างๆดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเพิกเฉยสายและเหล่านี้
“เหลือเวลาอีกประมาณ 10 วัน ค่อยๆ หามันไป แร่หินปราณไม่ได้พบกันง่ายๆ หากเราไม่เจอมันคงได้แต่ต้องยอมแพ้!”
เย่เทียนวางแผนในใจ
จากที่เขาคาดคะเน สายแร่หินปราณควรจะอยู่ในที่ที่มีพลังปราณหนาแน่น ในสถานที่ไหนที่มีพลังปราณหนาแน่นโอกาสที่จะเกิดสายแร่หินปราณก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นแต่เขตแดนลับนั้นใหญ่เกินไป ขอบเขตการตรวจจับของเยเทียนไม่ได้กว้างมากนักดังนั้นจึงยากที่จะบอกได้ว่าสายแร่หินปราณอยู่ตรงไหน
ไม่เช่นนั้น เขาคงพบสายแร่หินปราณตั้งนานแล้ว
หลังจากค้นหาอีกสองวัน เย่เทียนก็ยอมแพ้ในการตามหาแร่หินปราณ แต่ราวกับว่าสวรรค์ไม่สามารถทนดูการกระทําของเขาได้ จึงมอบโอกาสให้เย่เทียนอีกครั้ง
“นั่นคือ …
สายตาของเย่เทียนจับจ้องไปที่หนูที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร
นี่คือตัวของหนูสีม่วง ขนสีทองบนหว่างคิ้วของมันดูพิเศษมาก
เย่เทียนตรวจสอบข้อมูลพรสวรรค์ของมันแล้ว พรสวรรค์ของมันไม่ธรรมดาเลย
[ประเภท: หนูทองม่วง
พรสวรรค์ทางสายเลือด: สุดยอด
พรสวรรค์ในการล่าสมบัติ: สูง]
“หนูทองม่วงตัวนี้มีพรสวรรค์ในการล่าสมบัติ!!!”
เย่เทียนรู้สึกว่าสวรรค์เข้าข้างเขาอย่างแท้จริง ในเมื่อพบหนูตัวนี้ โอกาสที่เขาจะได้พบกับแร่หินปราณก็จะยิ่งมากขึ้น
พรสวรรค์ในการล่าสมบัติระดับสูงนั้นหายากมาก เย่เทียนอยากจะคัดลอกนี้แต่พรสวรรค์ในการคัดลอกของเขายังคงคุลดาวน์อยู่กว่ามันจะกลับมาใช้ได้อีกรอบก็ถึงเวลาที่ต้องออกจากเขตแดนลับแล้ว
ดังนั้น
เขาต้องจับหนูทองม่วงตัวนี้และใช้มันเพื่อตามหาสมบัติในเขตแดนลับ ทางที่ดีเขาควรหาสายแร่หินปราณ
จ็ดด!
เย่เทียนเคลื่อนย้ายพริบตารีบไปหยุดอยู่ตรงหน้าหนูทองม่วง
เดิมทีหนทองม่วงก่าลังค้นหาสมบัติเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองแต่ทันใดนั้นมันก็เห็นเย่เทียนปรากฏตัวขึ้น และรู้ว่าตอนนี้เกิดวิกฤติขึ้นแล้ว
มันต้องการที่จะหลบหนี แต่มือของเย่เทียนก็คว้าตัวมันมา
จ็ด!!!
ด้วยพรสวรรค์ด้านพละกําลังและพลังปราณ พลังโจมตีของเย่เทียนก็เพิ่มขึ้นเป็น 5 ช้างความเร็วของเขาก็ยังรวดเร็วเกินกว่าหนูทองม่วงจะตอบสนองได้ทันดังนั้นมันจึงถูกจับโดยเย่เทียนไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้
“เจ้าหนู ถ้าเจ้ายอมจํานนต่อข้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า มิฉะนั้น…
เย่เทียนข่
แม้ว่าการข่มขู่สัตว์อสูรที่น่ารักเช่นนี้มันไม่ดีนัก แต่มนุษย์และสัตว์อสูรก็เป็นปฏิปักษ์ต่อกันอยู่แล้วไม่จําเป็นต้องใส่ใจกับมารยาทหรือ “จี๊ด จี๊ด ”
หนูทองม่วงร้องออกมาไม่หยุด ราวกับกําลังโกรธมาก แต่เมื่อเย่เทียนปลดปล่อยจิตสังหารออกมามันก็เชื่อฟังในทันที
จากนั้นหนูทองม่วงก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับกําลังพูดว่า “ข้ายินดีจะยอมจํานน!”
“ยอมรับข้าเป็นเจ้านาย เจ้าน่าจะเข้าใจใช่ไหม?”
เย่เทียนยิ้ม
หนูทองม่วงโบกอุ้งเท้าเล็ก ๆ ของมันอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าเขากําลังพูดว่า “เจ้าคนไม่ดีเจ้าไร้ยางอายเกินไปแล้ว…
“ยอมรับ!”
เย่เทียนออกแรงบับพลังมหาศาลบบร่างของหนูทองม่วงจนเกิดเสียงเบาๆกระดูกของหนูทองม่วงเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆตอนนี้หนูทองม่วงหวาดกลัวอย่างแท้จริง
มันไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา แต่มันเป็นหนูทองม่วงไม่รู้ว่ามันเคยกินสมบัติสวรรค์มากี่ปีแล้วสติปัญญาของมันจึงไม่ด้อยไปกว่ามนุษย์
ตอนนี้มันกําลังกลัวตาย!
เมื่อเห็นว่าเย่เทียนกล้าลงมือจริงๆ มันรีบบอบแสงแห่งจิตวิญญาณและบินเข้าไปในอาณาเขตวิญญาณของเย่เทียน
เมื่อแสงวิญญาณของหนูทองม่วงถูกเย่เทียนดูดซับไป กระบวนการทั้งหมดก็เสร็จสิ้น
“นายท่าน!”
เสียงเหมือนหญิงสาวดังขึ้นในหัวของเย่เทียน
“นี่เจ้าเป็นตัวเมียหรือ?”
เมื่อเย่เทียนได้ยินเสียงของหนูทองม่วง เขาก็รู้เพศของมัน
ทันใดนั้น เขาก็พลิกตัวหนูทองม่วงและมองมันอย่างละเอียด “เจ้าเป็นตัวเมียจริงๆด้วย!”
“นายท่าน นายท่านไร้ยางอายน่ารังเกียจนัก!”
หนูม่วงทองกล่าวในหัวของเยเทียนด้วยความโกรธ