ห้องวัดพลัง
เย่เทียนใช้พลังกายบวกกับพลังปราณของเขาชกไปที่อุปกรณ์ทดสอบ
ตูม!!
“2 ช้าง!”
จากนั้นเย่เทียนก็กระตุ้นใช้งานพรสวรรค์ด้านความเร็วและพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับ
ตูม!!!!
อุปกรณ์วัดพลังสั่นสะเทือน และทั้งห้องก็สั่นสะเทือนตามไปด้วย จากนั้นตัวเลขที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นบนนั้น
“60 ช้าง!”
“พลัง 60 ช้างนั่นหมายความว่ามันเพิ่มขึ้นเป็น 30 เท่า พระเจ้า!”
เย่เทียนอุทานด้วยความประหลาดใจ
อย่างไรก็ตามเขายังต้องทําการทดสอบที่สําคัญที่สุดเพื่อดูว่าเขาจะสามารถทําลายขีดจํากัด100 เท่าได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้พลังโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า และไม่สามารถเพิ่มพลังได้อีกหากเขาไม่สามารถทําลายขีดจํากัดนี้ได้ แม้พรสวรรค์ด้านพละกําลังของเขาจะไปถึงระดับลึกลับก็ไม่มีความ หมายอะไรเพราะถึงอย่างไรเขาก็สามารถเพิ่มพลังโจมตีได้เกิน 100 เท่าซึ่งมันไม่แตกต่างกับ ก่อนหน้านี้
เย่เทียนหยิบดาบเวทย์ออกมาและฟันไปที่อุปกรณ์วัดพลัง
“ทักษะดาบฟาดฟันวายุคราม!”
“พรสวรรค์ด้านพละกําลัง!”
ทักษะดาบเพิ่มพลัง 6 เท่า และพรสวรรค์ด้านพละกําลังเพิ่มพลัง 30 เท่า
หากรวมกันแล้วพลังโจมตีของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 180 เท่า ซึ่งมันเท่ากับ 360 ช้าง
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ในครั้งนี้!
ตูม!!!!
อากาศโดยรอบระเบิดออกทั่วทั้งห้องสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง อุปกรณ์วัดพลังถูกกระแทกจนกระเด็นชนเข้ากับกําแพง เย่เทียนสามารถมองเห็นรอยดาบล็ก 1 นิ้วบนอุปกรณ์วัดพลัง
โชคดีที่วัสดุที่ใช้สร้างอุปกรณ์วัดพลังนั้นเป็นวัสดุพิเศษ แม้ว่ามันจะถูกทําลายมันก็จะกลับสู่สภาพเดิมได้อย่างช้าๆมิฉะนั้นเขาจะต้องสูญเสียเงินอย่างมหาศาล
อุปกรณ์วัดพลังไม่ได้รับความเสียหายอะไร ตรงหน้าจอปรากฏตัวเลขขึ้น
“360 ช้าง!”
เย่เทียนพูดอะไรไม่ออกอยู่เป็นเวลานานเพราะความตื่นเต้น
“ในที่สุดเราก็สามารถทําลายขีดจํากัด 100 เท่าได้ดูเหมือนว่าการสร้างรากฐานที่สมบูรณ์แบบมันคือการทําลายขีดจํากัดของเราเช่นกันราวกับว่ามันได้ทําลายกฎบางอย่างของสวรรค์และโลกดังนั้นเราจึงสามารถเพิ่มพลังได้ถึง 180 เท่า!”
เย่เทียนคาดเดา
การเพิ่มพลัง 180 เท่า เป็นตัวเลขที่น่ากลัว!
เขามีพลังเพียง 2 ช้างแต่สามารถปลดปล่อยพลังโจมตีได้ถึง 360 ช้าง ในขณะที่ขีดจํากัดพลังการโจมตีของปรมาจารย์ทั่วไปอยู่ที่ 200 ช้างเท่านั้นซึ่งยังด้อยกว่าเขามาก
เขาจินตนาการได้ว่าเมื่อเขาทะลวงเข้าสู่ขอบเขตประมาจารย์ ความแข็งแกร่งของเขาจะน่ากลัวขนาดไหน
“ทักษะดาบฟาดฟันวายุครามเป็นเพียงทักษะดาบระดับทองแดงธรรมดาเท่านั้น เจตจํานงแห่งดาบของเราจะบรรลุถึง 2 ส่วนในเร็วๆนี้เมื่อถึงเวลานั้นเราจะสามารถฝึกฝนทักษะดาบระดับเงิน ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอนนอกจากนี้พรสวรรค์ด้านพละกําลังของเรายังเป็นพรสวรรค์ระดับลึกลับปลอมหากเราบรรลุพรสวรรค์ระดับลึกลับที่แท้จริงล่ะ? นั่นไม่…”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ลมหายใจของเย่เทียนก็ถี่ขึ้น
แต่การจะมีพรสวรรค์ระดับลึกลับที่แท้จริงนั้นเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ นอกเสียจากว่าเขาพบกับสัตว์อสูรหรือผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพรสวรรค์พิเศษระดับลึกลับเขาจะสามารถคัดลอกมันได้อย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่ผู้ฝึกยุทธหรือสัตว์อสูรเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถพบเจอมันได้ในตอนนี้
ถ้าเขาไม่คัดลอกพรสวรรค์ระดับความลึกลับของคนอื่น เขาก็ทําได้เพียงคิดหาวิธีที่จะยกระดับพรสวรรค์ด้วยตนเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทําได้อย่างไร?ในฐานทัพทะเลมารแห่งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ คาดว่าคงไม่มีใครรู้เรื่องพรสวรรค์ระดับลึกลับเป็นแน่อาจจะมีเพียงไม่กี่คนที่เคยได้ยินมาบ้าง
“อย่าเพิ่งสนใจพรสวรรค์ระดับลึกลับ ตอนนี้เราสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ได้แล้ว!”
เย่เทียนมาถึงขีดจํากัดของนักรบผู้เชี่ยวชาญนานแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้วางรากฐานที่สมบูรณ์แบบแล้วไม่จําเป็นต้องรออะไรอีก
ดังนั้น
เย่เทียนเช่าห้องฝึกฝนพลังปราณในหอคอยแห่งการฝึกฝนและเริ่มทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์
ณ ห้องฝึกฝนพลังปราณ
เย่เทียนนั่งขัดสมาธิและเริ่มคิดถึงเนื้อหาเกี่ยวกับวิชากายาโลหิตม่วง ระดับปรมาจารย์นั้นแตกต่างกับระดับนักรบผู้เชี่ยวชาญ การฝึกฝนของระดับปรมาจารย์นั้นเป็นการฝึกฝนขัดเกลาเส้นชีพจรลมปราณ
ร่างกายมนุษย์มีเส้นลมปราณ 8 เส้นที่แปลกประหลาด และขอบเขตปรมาจารย์จะต้องขัดกเกลาเส้นลมปราณทั้ง 8 เส้นนี้ทุกครั้งที่สามารถขัดเกลาเส้นลมปราณ 1 เส้นจะสามารถเพิ่มพลังได้ประมาณ 10 ช้างเมื่อเส้นลมปราณทั้ง 8 เส้นได้รับการขัดเกลาจนเสร็จสิ้นก็จะถึงจุดสูงสุดของขอบเขตปรมาจารย์
เมื่อถึงจุดสูงสุดพละกําลังจะเพิ่มขึ้นถึง 100 ช้าง
แต่หากไม่มีเทคนิครวบรวมลมปราณระดับสูง เช่นนั้นก็ทําได้เพียงอาศัยเทคนิครวบรวมลมปราณระดับกลางเพื่อดูดซับพลังปราณปฐมแห่งฟ้าดินและเลือดของสัตว์อสูรเพื่อค่อยๆขัดเกลาเส้นลมปราณที่ละเส้นซึ่งความเร็วของมันจะเชื่องช้าเป็นอย่างมาก
แตกต่างกับวิชารวบรวมลมปราณระดับสูงที่มีล่าดับการขัดเกลารายละเอียดที่เข้มงวด เช่น เทคนิคกายาโลหิตม่วงจําเป็นต้องขัดเกลาเส้นลมปราณหยินเป็นเส้นแรก
หากต้องการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ให้สําเร็จ จะต้องเชื่อมต่อเส้นลมปราณหยินเพื่อให้เส้นลมปราณสามารถทะลวงผ่านได้ นี่เป็นกระบวนการที่จําเป็นต่อการขัดเกลาเส้นลมปราณต่อ
ไป
ผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุดสามารถเชื่อมต่อเส้นลมปราณและเลื่อนระดับเป็นปรมาจารย์ได้อย่างง่ายดาย แต่ผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงนั้นยากที่จะทําเช่นนั้นได้หากเกิด ข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวจะทําให้เส้นลมปราณยุ่งเหยิงหรืออุดตันซึ่งส่งผลให้การทะลวงขอบเขตล้มเหลว
เย่เทียนเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะระดับดารา ซึ่งเหนือกว่าพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นถึง 1 ระดับดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะล้มเหลวในการเลื่อนระดับ
“เริ่มกันเลย!”
เย่เทียนยกโลหิตของสัตว์อสูรชั้นยอดขึ้นดื่ม และเคลื่อนไหวฝึกฝนตามวิชากายาโลหิตม่วงเพื่อปรับแต่งชีพจรเส้นลมปราณให้เริ่มเชื่อมต่อกับเส้นลมปราณหยิน
ฟูม!!!
พลังหนึ่งพุ่งผ่านเส้นลมปราณหยินในพริบตา ทําให้ปราณหยินไหลเวียนได้อย่างไร้อุปสรรค
ในเวลาเดียวกันเขตแบ่งระหว่างนักรบผู้เชี่ยวชาญและปรมาจารย์ค่อยๆหายไป พลังปราณปฐมแห่งสวรรค์และโลกจํานวนมหาศาลก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเย่เทียนช่วยเพิ่มพละกําลังความเร็วและการป้องกันของเขา
เย่เทียนอยู่ในกระบวนการทะลวงผ่านอย่างรวดเร็ว
กระบวนการนี้กินเวลาสามวันก่อนที่จะสิ้นสุดลง และในที่สุดเย่เทียนก็ได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์ที่แท้จริง หลังจากนั้นเย่เทียนก็รีบทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย
“1.3 ช้าง!”
นี่คือพละกําลังทางร่างกายของปรมาจารย์ที่พึ่งทะลวงผ่าน จากนั้นเขาก็เริ่มคํานวณความเร็วในการฝึกฝนของพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราทันที
ภายใต้สภาพแวดล้อมปกติ การฝึกหนึ่งวันสามารถเพิ่มพลังได้ถึง 100,000 จิน และสามารถเพิ่มพลังได้ 3 ล้านจินต่อเดือน หรือก็คือ 3 ช้าง ซึ่งสามารถเพิ่มพลังได้ 36 ช้างต่อปี
ขีดจํากัดของปรมาจารย์คือ 100 ช้าง ตามการคํานวณของเขา อย่างมากก็สามปีเขาก็จะสามารถฝึกจนถึงขีดจํากัดของปรมาจารย์
จากข้อมูลที่เขาเคยรู้มา ผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีในการฝึกฝนไปจนถึงขีดจํากัดของปรมาจารย์ ผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 ปีในการฝึกฝนจนถึงขีดจํากัดของปรมาจารย์
“พรสวรรค์ระดับดาราของเรานั้นน่าจะดีกว่าพรสวรรค์ในการฝึกระดับหลุดพ้นถึงห้าเท่าอย่างไรเสีย เราใช้เวลาเพียงสามปีในการเลื่อนขั้นไปถึงขีดจํากัดของขอบเขตปรมาจารย์หากเราเข้าห้องฝึกปราณเป็นครั้งคราว เวลาก็อาจจะสั้นลงอีกไม่แน่ว่า 2 ปีก็เพียงพอแล้ว ด้วยเวลาที่เร็วขึ้นเช่นนี้มันเร็วกว่าผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นถึง 5 เท่า”เย่เทียนคํานวณ
ถ้าตัวเลขนี้ถูกเปิดเผย มันจะต้องทําให้เกิดความโกลาหลอย่างมากแน่นอน
สองปีสามารถไปถึงขีดจํากัดของระดับปรมาจารย์ และด้วยพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราของเย่เทียน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะก้าวเข้าสู่ระดับราชานหมายความว่าเย่เทียนจะต้องกลายเป็นรา ชาในอีก 2-3 ปีข้างหน้าซึ่งระดับราชาคือจุดสูงสุดของฐานทะเลมาร!
หลังจากกลายเป็นปรมาจารย์ เย่เทียนก็สนใจเรื่องอายุขัยของเขามากที่สุด
อายุขัยของปรมาจารย์ทั่วไปคือ 200 ปี แต่เย่เทียนสามารถรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตของเขาว่ามันแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์คนอื่นๆ ถึง 1 ใน 2 ส่วน คนอื่นๆมีอายุขัย 200 ปีเขาคาดว่าตัวเขานั้นน่าจะมีอายุขัยถึง 300 ปี
ส่วนสาเหตุที่เขามีอายุขัยมากกว่าขอบเขตปรมาจารย์คนอื่นถึง 100 ปีนั้นเย่เทียนคาดว่าเป็นเพราะรากฐานที่สมบูรณ์แบบทําให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปซึ่งมันเหนือกว่าปรมาจารย์คน อื่นมาก
2 เดือนที่ผ่านมาเขาไม่ได้คัดลอกพรสวรรค์ใดๆเลย ซึ่งมันเป็นการสูญเปล่าอย่างแท้จริงดังนั้นในเมื่อเขาเข้าสู่ระดับปรมาจารย์แล้วเขาจึงเตรียมที่จะใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกของเขาอีก ครั้ง
และเวลานี้เป้าหมายของเขาก็คือ…….