บทที่ 126 สร้างร่างเทียมสําเร็จ!
พรสวรรค์ตัวตายตัวแทนเหมือนกับที่เย่เทียนคาดเดาไว้มันช่วยปกป้องชีวิตของเขาได้ 1 ครั้งแต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีเงื่อนไขเขาต้องเตรียมวัตถุดิบทดแทน
ตัวอย่างเช่น ศพของสัตว์อสูรหรือศพมนุษย์เพื่อใช้พรสวรรค์ตัวตายตัวแทนสร้างมันเป็นร่างเทียมและร่างเทียมนี้จะสับเปลี่ยนกําลังจริงของเยเทียนในขณะที่เขาตาย
ดังนั้นเย่เทียนจึงต้องซ่อนร่างเทียมนี้ไว้ที่ไหนสักแห่งเมื่อใดก็ตามที่เย่เทียนถูกฆ่าเขาจะสามารถเปิดใช้งานพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนได้ทันที
ด้วยคุณสมบัติของพรสวรรค์ตัวตายตัวแทน รากเทียมที่เขาจัดเตรียมไว้มีลักษณะเหมือนร่างจริงทุกประการมันสามารถหลอกศัตรูที่สังหารเขาได้ศัตรูจะคิดว่าเย่เทียนนั้นถูกสังหารไปแล้วจริงๆแน่นอน
พรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้มีข้อจํากัดอยู่ เขาสามารถใช้งานพรสวรรค์นี้ได้เพียงหนึ่งครั้งใน 3 ปีอีกทั้งยังมีข้อจํากัดด้านระยะทางร่างเทียมต้องไม่อยู่ห่างจากร่างจริงในระยะหนึ่งล้านมิเช่นนั้นพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนจะไม่ทํางาน
บางทีหากพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนนี้มีระดับเพิ่มขึ้นระยะทางก็จะเพิ่มขึ้นระยะเวลาคูลดาว์ก็อาจจะลดลงแต่สําหรับตอนนี้เย่เทียนจะต้องใช้พรสวรรค์ตัวตายตัวแทนระดับกลางเท่านั้น
“เราต้องหาเวลาจัดเตรียมวัตถุดิบสร้างร่างเทียมขึ้นมา หากทําสําเร็จเท่ากับว่าเรามีอีกหนึ่งชีวิต!”
เย่เทียนพึมพํา
ทันใดนั้นความสนใจของเขาก็จดจ่ออยู่กับพรสวรรค์ด้านมิติ [พรสวรรค์ด้านมิติ:ระดับสูง]
“พรสวรรค์ด้านมิติระดับกลางมีการรับรู้มิติ ตราประทับมิติ เคลื่อนย้ายพริบตาตอนนี้พรสวรรค์ด้านมิติของเรากลายเป็นระดับสูงแล้ว มิติส่วนตัวของเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 10 เท่าเทียบได้กับลานกว้างขนาดเล็กอีกทั้งความสามารถตื่นยังเพิ่มขึ้นอย่างมากสมแล้วกับที่เป็นพรสวรรค์ด้านมิติ ระดับสูง!”
เย่เทียนพูดอย่างพอใจ
แต่สิ่งที่เขาให้ความสําคัญมากที่สุดคือทักษะดาบมิติ!
“คมดาบมิติ!”
ความคิดของเขาเคลื่อนไหว ดาบสีดําพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าของเยเทียนมันถูกสร้างขึ้นจากพลังแห่งมิติราวกับว่ามันเกิดเป็นรอยแยกมิติแต่รูปแบบกลับเหมือนใบดาบ
“สลาย!”
เย่เทียนยกเลิกทักษะดาบมิติ เขาไม่กล้าทดสอบดาบมิติที่นี่ ไม่อย่างนั้นราชาคนอื่นๆคงอาจจะรู้ตัวและเขาเองก็คงไม่สามารถอธิบายได้เย่เทียนไม่ต้องการเปิดเผยพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูง ของเขาในตอนนี้!
“เวลายังเหลืออีกมากตอนนี้ควรจะฝึกฝนก่อน!” เย่เทียนพึมพํา
วิญญาณของเขาได้รับความเสียหายทําให้เขาไม่สามารถทําความเข้าใจทักษะดาบหรือฝึกฝนเทคนิคได้ แต่การบ่มเพาะด้วยวิชากายาโลหิตม่วงยังคงทําได้อยู่
ดังนั้นเย่เทียนจึงเริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง เขากินเลือดสัตว์อสูรระดับราชาทุกวันเพื่อฝึกฝนวิชากายาโลหิตม่วง
สิ่งที่เขาต้องทําในตอนนี้คือขัดเกลาเส้นชีพจรลมปราณที่ 2 ซึ่งก็คือเส้นลมปราณหยาง
ใช้เวลาเพียง 10 วัน เย่เทียนก็ประสบความสําเร็จในการขัดเกลาเส้นลมปราณหยางในตอนนี้พละกําลังของเขาก็สูงถึง 21 ช้างจากนั้นเย่เทียนก็เริ่มขัดเกลาเส้นลมปราณเส้นที่สามที่เย่เทียนเลือกซึ่งก็คือคือเส้นลมปราณฉี
แต่ละวันที่ผ่านไปไม่มีเหตุการณ์พิเศษใดๆเกิดขึ้น เย่เทียนออกไปกวาดล้างฝูงสัตว์อสูรเป็นครั้งคราวผ่านไปไม่นานก็ครบกําหนด 2 เดือนที่เขาต้องเฝ้ารอยแยกมิติ
“26 ช้าง ตอนนี้หมดเวลาแล้ว!”
เย่เทียนเก็บข้าวของและเดินออกจากที่พักพร้อมกับเสี่ยวเสวียน
วันนี้เป็นวันที่เขาต้องออกจากค่ายกลระดับสูง ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ระดับราชาและนักเวทย์ค่ายกลคนอื่นๆก็จะจากไปเช่นกัน เหลือไว้เพียงจอมเวทย์ค่ายกลและผู้พิทักษ์ระดับราชาเพียงคนเดียว
ค่ายกลระดับสูงสุดมั่นคงอย่างสมบูรณ์ และรอยแยกของมิติก็มั่นคงขึ้นไม่จําเป็นต้องมีคนมาเฝ้ามากเช่นเดิน
ฟูมมม
เรือเหาะเหินวายุบินใกล้เข้ามา
“ฮ่าฮ่าฮ่า มีคนมาประจําการแทนแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!”
ราชาคนหนึ่งกล่าว
ไม่นานคนกลุ่มหนึ่งก็มาถึงเรือเหาะเหินวายุ
“มีคนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
เย่เทียนขมวดคิ้ว
ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นเพียงจอมเวทย์ค่ายกลและผู้ฝึกยุทธระดับราชาหรอกหรือ?ทําไมถึงต้องพาคนมาเยอะแยะขนาดนี้อีกอย่างในหมู่พวกเขามีผู้ชายเพียงสองคนนอกจากนั้นทั้งหมดล้วนแต่ เป็นผู้หญิง!
อ้อ!!!
ทันใดนั้น
เขาเข้าใจในทันที
ผู้ฝึกยุทธระดับราชาและนักเวทย์ค่ายกลต้องประจําการอยู่ที่นี่อีกนานซึ่งมันเป็นเรื่องน่าเบื่ออย่างมากการพาสาวใช้มาด้วยบางครั้งอาจตอบสนองความต้องการทางสรีรวิทยาและความต้องการอื่นๆ ได้
เย่เทียนไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์พวกเขา เพราะเรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของพวกเขา
เมื่อภารกิจถูกส่งต่อเสร็จสิ้น เย่เทียน จอมเวทย์ค่ายกลและผู้ฝึกยุทธระดับราชาคนอื่นๆก็เดินทางกลับฐานของตน
เย่เทียนและเสียวจนกลับมาถึงฐานทะเลมารอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาถึงบ้านมันเป็นช่วงบ่ายแล้ว
เมื่อเขาเปิดประตูเข้าบ้านเขาก็เห็นเหยที่กําลังฝึกฝนอยู่ ตอนนี้เหยได้ก้าวเข้าสู่นักรบผู้เชี่ยวชาญแล้วและเธอก็จบการศึกษาจากโรงเรียนนักรบเรียบร้อย
“ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว!”
เมื่อเย่หยุเห็นเย่เทียน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเย่เทียนอย่างรวดเร็วการไม่ได้เจอกันหลายเดือนทําให้เธอคิดถึงพี่ชายของเธอมาก
“เสี่ยวหย วันนี้พี่จะทําอาหารอร่อยๆ ให้น้องกินเอง!”
เย่เทียนลูบหัวเหยูและพูดด้วยรอยยิ้ม
“อืมม!!!”
เย่หยูพยักหน้าและดวงตาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอดูน่ารักมาก
ดังนั้นเย่เทียนจึงเริ่มลงมือทําอาหารด้วยตัวเอง เขาใช้เนื้อสัตว์อสูรและผักผลไม้ต่างๆทําอาหารมื้อใหญ่สองพี่น้องทานอาหารกันอย่างมีความสุขเย่เทียนเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารมื้อนี้แบบครอบครัวอย่างอบอุ่น
“หากอยากจะปกป้องความสุขเช่นนี้ไว้ เราต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ในยุคสมัยนี้หากไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้นั่นก็หมายความว่าพร้อมจะพังพินาศได้ทุกเมื่อ!”เย่เทียนมองเหยุที่กําลังยิ้ม และคิดกับตัวเอง
หลังมื้ออาหาร
เย่เทียนก็เริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง เขาต้องการเลื่อนขั้นเป็นระดับราชาโดยเร็วที่สุดและเมื่อก้าวเข้าสู่ระดับราชาเขาก็จะมีคุณสมบัติที่จะออกค้นหาพรสวรรค์อันน่าทึ่งที่ฐานทัพระดับสุด ยอดและต่อสู้กับอัจฉริยะนับไม่ถ้วน
เวลาไหลผ่านไปอย่างช้าๆ ชั้นใต้ดิน.
เย่เทียนกําลังมองศพของสัตว์อสูรระดับสูงที่เขาวางแผนจะนํามันมาสร้างเป็นรากเทียมของเขาแน่นอนว่าศพอย่างเดียวไม่เพียงพอเขาต้องจัดเตรียมวัสดุสนับสนุนและเลือดของเขาเอง
หลายวันมานี้ เขาฝากคนไปซื้อวัตถุดิบหลายอย่างแม้ว่ามันจะไม่ใช่วัตถุดิบล้ำค่าแต่ก็ต้องใช้เวลาหลายวันในการรวบรวม
ในที่สุดวันนี้เขาก็สามารถรวบรวมวัตถุดิบจนครบแล้ว
ดังนั้นเย่เทียนจึงอดใจรอไม่ไหวที่จะสร้างร่างเทียมเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับตัวเอง
เย่เทียนแยกส่วนผสมและบดมันเป็นผง จากนั้นเขาก็หยดเลือดของเขาผสมเข้ากับวัตถุดิบทั้งหมดและนําไปใช้กับซากศพของสัตว์อสูร
ทุกอย่างพร้อมแล้ว!
“เริ่มกันเลย!”
เย่เทียนกระตุ้นพรสวรรค์ตัวตายตัวแทนระดับกลางและถ่ายเทพลังเข้าไปในศพของสัตว์อสูร
ก๊ก แคร่ง!!!
ซากศพของสัตว์อสูรเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงและค่อยๆหดตัวลง
หลังจากนั้นไม่นาน ซากศพของสัตว์อสูรก็เปลี่ยนรูปร่างคล้ายกับร่างของมนุษย์
ในที่สุดศพของสัตว์อสูรก็เปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ที่มีลักษณะเหมือนกับเย่เทียนทุกอย่างแม้กระทั่งกลิ่นอายของเขา”ร่างเทียมสําเร็จแล้ว!”
เย่เทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาสามารถสัมผัสถึงสายใยเชื่อมโยงระหว่างเขากับร่างเทียมตรงหน้าร่างเทียมนี้สามารถใช้ได้ 3 ปี หลังจากนั้นเขาต้องสร้างใหม่อีกครั้งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วเย่เทียนก็ปิดห้องลับใต้ดินและวางค่ายอาคมป้องกันและค่ายกลกําบังเอาไว้
สามเดือนผ่านไปอย่างเงียบ ๆ
หลังจากผ่านไปสามเดือนจิตวิญญาณของเขาที่ได้รับบาดเจ็บตอนนี้หายดีแล้วและไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้น
นอกจากนี้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เย่เทียนก็ใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการฝึกฝนในห้องฝึกปราณระดับกลางภายในบ้าน พละกําลังของเขาเพิ่มมาอีก 27 ช้างในตอนนี้เขามีพลังทั้งหมด 53 ช้าง นอกจากนี้เมื่อจิตวิญญาณของเขาหายดีเขาก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะดาบระดับเงินได้แล้ว